เทียบกับ Tokyo ที่เป็นเมืองใหญ่ อะไรๆ ก็แพงหูฉี่แล้ว Kyushu จัดว่าเป็นเมืองที่สบายกระเป๋าตังค์มากกว่า เพราะว่าค่าครองชีพใน Kyushu นั้นถูกกว่าใน Tokyo มากกว่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของต่างๆ อาหาร และการท่องเที่ยวบันเทิงทั้งหลาย จึงทำให้เราไปเรียนและเที่ยวได้อย่างสบายใจกว่า

อาหารเป็นเรื่องใหญ่ในการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียนเลยเหมือนกัน เพราะว่าถ้าอาหารอร่อยแล้ว เรื่องเรียนก็ถึงไหนถึงกันใช่ไหมล่ะ ความหลากหลายของอาหารสไตล์ เฉพาะท้องถิ้นในแต่ละส่วนของ Kyushu ที่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เราสามารถกินได้ไม่มีวันเบื่อ อย่าลืมลองราเม็งน้ำซุบกระดูกหมูสไตล์ Kyushu (tonkatsu ramen) ปลาหมึกของเมือง Yobuko ชาเขียวของเมือง Chiran และเนื้อย่างชื่อดังของ Saga นะ

ใน Kyushu มีหน่วยงานที่เปิดให้คนต่างชาติเข้ามาเป็นอาสาสมัครมากมาย โดยเราสามารถเข้าไปเรียนรู้และฝึกใช้ภาษาที่ใช้ได้จริงๆ นอกห้องเรียนได้ รวมทั้งได้ประสบการณ์การออกทริปต่างๆ ของโครงการเป็นกำไรอีกต่างหาก สามารถสอบถามข้อมูลกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ได้จากหน่วยงานนักเรียนต่างชาติในสถานศึกษาที่เรียนอยู่ได้เลย รับรองว่ามีให้เลือกเพียบ เผลอๆ ก็จะได้เพื่อนใหม่ด้วย

การเข้าร่วมประเพณีต่างๆ ของท้องถิ่น Kyushu ที่มีการจัดขึ้นอย่างเป็นประจำทุกปีของ Kyushu จะช่วยทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นได้ง่ายๆ เพราะว่า Kyushu เต็มไปด้วยศาลเจ้า วัด และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ที่แนะนำก็คือการไปเยี่ยมชมชีวิตและบ้านเมืองของเมืองเก่าแก่ Dazaifu (ใกล้ๆ Fukuoka) ศึกษาความงามของพระพุทธรูปบรอนซ์ที่ Nanzoin และชมทัวร์นาเมนต์ซูโม่ของ Hakata-basho

เหตุผลท้ายสุดและสำคัญที่สุดเลยก็คือความสบายของ Kyushu ที่นี่จะทำให้เรารู้สึกสบายใจเหมือนกับอยู่ที่เมืองไทย เพราะส่วนที่สงบก็จะสงบสวยงาม และส่วนที่เป็นเมืองก็จะสมเป็นเมือง เพียงแต่ไม่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายจนปวดหัว และไม่เร่งรีบเท่า Tokyo หรือ Osaka แต่ก็มีความเป็นญีปุ่นอยู่อย่างครบครัน จนอยากจะทำให้กลับไปอีกหลายๆ ครั้ง