รวมขั้นตอนและมารยาทในการแช่ออนเซ็น
ทำความรู้จักกับออนเซ็น (Onsen)
ออนเซ็น (Onsen) คือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นจากภูเขาไฟที่ยังไม่ดับทั่วประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นมีความคุ้นเคยกับการอาบน้ำพุร้อนมาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งเปรียบเหมือนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอย่างหนึ่ง
วัฒนธรรมการอาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นในญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ การแช่ออนเซ็นสามารถสร้างความผ่อนคลายและให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว อีกทั้ง ยังมีส่วนช่วยทำให้สุขภาพให้ดีขึ้นจากแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำพุร้อน ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปจากส่วนประกอบของแร่ธาตุที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของน้ำพุร้อน
อาทิ ออนเซ็นกำมะถัน (Sulphur) บ่อน้ำร้อนที่มีกำมะถันจะมีกลิ่นฉุนนิดหน่อย มีคุณสมบัติเรื่องบรรเทาอาการความดันโลหิตสูง โรคผิวหนังเรื้อรัง และอาการปวดข้อต่างๆ, ออนเซ็นคลอไรด์ (Chloride) มีคุณสมบัติในเรื่องทำให้ร่างกายอบอุ่น เหมาะกับผู้ที่มือเท้าเย็นบ่อยๆ เป็นต้น
ปัจจุบัน เมืองออนเซ็นในญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาและส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ทุกฤดูกาลและมีหลากหลายทั้งน้ำพุร้อนทั่วไป บ่ออบทรายร้อน บ่อแช่เท้าและบ่อโคลน กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น เช่น คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen) จังหวัดกุมมะ, กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen), จังหวัดยามากาตะ, เบปปุ ออนเซ็น (Beppu Onsen) จังหวัดโออิตะ
มารยาทในการแช่ออนเซ็น
สถานที่สำหรับแช่ออนเซ็นในญี่ปุ่นมีทั้งแบบส่วนตัวและบริการแบบรวม ดังนั้นในการใช้ออนเซ็นบ่อรวมจึงควรทราบถึงมารยาทพื้นฐานโดยคำนึงถึงการใช้สถานที่ร่วมกับผู้อื่น ได้แก่
• การลงบ่อออนเซ็นจะไม่มีการสวมเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มใดๆ ลงบ่อ ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นแบบส่วนตัวหรือออนเซ็นรวม โดยทั่วไปจะมีตู้ล็อกเกอร์บริการในห้องอาบน้ำสำหรับเก็บของทุกอย่างไว้ก่อนลงบ่อ
• ก่อนลงบ่อออนเซ็น จะมีจุดให้บริการห้องอาบน้ำควรชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนลงบ่อด้วย
• ใครที่ไว้ผมยาวตามมารยาทต้องรวบผมไว้ไม่ให้ผมแช่ลงไปในบ่อ ทางที่ดีควรสระผมก่อนลงบ่อก็จะดีมาก
• หากมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ไปด้วยให้วางบนศีรษะและระมัดระวังไม่นำลงไปในน้ำ
• ผู้ที่มีรอยสักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงบ่อออนเซ็น (ยกเว้นบางแห่งที่อนุญาต)
• ระหว่างแช่น้ำ ไม่ควรปรับลดระดับความร้อนของน้ำโดยพละการ
• ไม่พูดคุยส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ไม่กระโดดลงบ่อ และไม่ว่ายน้ำหรือสาดน้ำ
• ห้ามถูตัวเป็นอันขาด เพราะเป็นการใช้บ่อร่วมกับผู้อื่นซึ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ อีกทั้งยังอาจทำให้สิ่งสกปรกร่วงลงไปในบ่อด้วย
• ห้ามถ่ายรูปในบริเวณบ่อออนเซ็น โดยเฉพาะในบ่อรวมตอนกำลังลงแช่ในบ่อ แม้ว่าหลายๆ แห่งจะมีบรรยากาศหรือทิวทัศน์ที่สวยงาม อย่างไรก็ตามเรียวกังหรือสถานที่บางแห่งจะมีการอนุญาตให้ถ่ายภาพได้เฉพาะบางจุด
• หลังจากแช่เสร็จแล้วต้องเช็ดตัวให้แห้งก่อนกลับไปตู้ล็อกเกอร์
ขั้นตอนการแช่ออนเซ็น
1. ก่อนลงไปแช่ประมาณ 15- 30 นาที ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเกลือแร่หรือวิตามินซี เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมรับอุณหภูมิความร้อนและการสูญเสียเหงื่อ
2. ชำระร่างกายด้วยการอาบน้ำ แล้วล้างตัวให้สะอาดก่อนลงแช่ออนเซ็น ซึ่งส่วนใหญ่มีอุณหภูมิประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส หากลงไปแช่ทันทีในขณะที่อุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะรู้สึกว่าร้อนเกินไปเนื่องจากอุณหภูมิร่างกายเย็นกว่า ดังนั้นควรปรับอุณหภูมิด้วยการราดน้ำอุ่นก่อนลงแช่ เริ่มจากมือ เท้า แขน ขา ตัว และศีรษะตามลำดับ
3. ลงแช่ครึ่งตัวอย่างช้าๆ ก่อนในครั้งแรกเพื่อให้ร่างกายชินกับอุณหภูมิ จากนั้นเมื่อร่างกายเริ่มชินก็ค่อยๆ เลื่อนมาถึงระดับไหล่ เมื่อแช่เสร็จแล้วควรเช็ดตัวให้แห้งก่อนเข้าห้องแต่งตัว เพื่อไม่ให้ห้องแต่งตัวเปียกและควรจะดื่มน้ำสัก 1 แก้ว เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนล้าจากการสูญเสียเหงื่อ
4. ถ้าเป็นเรียวกังหรือเมืองออนเซ็นที่บ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่แบบเปิดโล่งกลางธรรมชาติ และมีคุณสมบัติของแร่ธาตุที่ทำให้มีกลิ่น เช่น กำมะถัน เมื่อแช่น้ำเสร็จแล้วต้องล้างตัวด้วยน้ำประปาสะอาดอีกครั้งแล้วเช็ดตัวให้แห้งก่อนกลับไปที่ห้องล็อกเกอร์
ข้อควรระวังในการแช่ออนเซ็น
• การแช่แต่ละครั้งไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะออนเซ็นของญี่ปุ่นมีอุณหภูมิที่สูงและมีส่วนผสมแร่ธาตุมากมาย ดังนั้นจึงควรแช่ในระยะเวลาที่พอดี โดยทั่วไปคือไม่เกินครั้งละ 20 นาที
• ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนหนึ่งหลังแช่ออนเซ็น เพราะค่อนข้างอันตรายต่อการปรับอุณหภูมิของร่สงกาย หากต้องการดื่มจริงๆ ให้เว้นระยะหลังจากแช่ออนเซ็นไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• ไม่ควรอาบน้ำทันทีเพราะร่างกายอาจปรับอุณหภูมิไม่ทัน และเกิดอาการหน้ามืด เป็นลมได้ ควรพักสักครู่ให้แร่ธาตุต่างๆ เข้าสู่ผิวก่อน แล้วจึงอาบ
น้ำ
• ไม่ควรแช่บ่อออนเซ็นมากกว่าวันละ 3 ครั้ง เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนและอาจทำให้เป็นลมได้
วิธีสวมชุดยูกาตะ (Yukata)
ปกติแล้วสถานที่พักในแหล่งออนเซ็นไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือเรียวกัง จะมีชุดยูกาตะ (Yukata) เตรียมไว้ให้กับแขกผู้เข้าพักด้วย ซึ่งชุดยูกาตะดังกล่าวนี้จะเป็นเหมือนชุดนอนมากกว่าชุดที่ใส่เดินตามงานเทศกาล แต่ถึงอย่างนั้นในเมืองออนเซ็นต่างๆ ก็มักจะเห็นผู้คนสวมชุดยูกาตะออกมาเดินเล่นกันตามปกติ และครั้งนี้ก็จะแนะนำวิธีสวมชุดยูกาตะ โดยมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
1. สวมชุดยูกาตะให้ชายของชุดอยู่บริเวณตาตุ่ม หากกลางชุดมีเส้นรอยเย็บ รอยนั้นควรอยู่กลางหลังพอดี
2. พาดชุดด้านขวาเข้าหาตัว ละตามด้วยข้างซ้าย หรือพูดง่ายๆ คือซ้ายทับขวาและห้ามสวมแบบขวาทับซ้ายเป็นอันขาด เพราะในญี่ปุ่นคือการสวมชุดให้กับผู้เสียชีวิต
3. นำสายโอบิที่ให้มากับชุดมาผูกทับ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะผู้ไว้บริเวณใต้เอว ส่วนผู้หญิงก็ผูกไว้ตรงเอวพอดี การผูกโอบิไม่มีรูปแบบกตายตัวเป็นพิเศษ ควรผูกให้รู้สึกสบาย ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป
4. นอกจากนี้ยังมีเสื้อตัวนอกสำหรับสวมทับหรือเรียกว่า "ฮาโอริ (Haori)" หากรู้สึกหนาวก็สามารถสวมทับชุดยูกาตะได้
นอกจากนี้ควรระวังคอเสื้อทั้งหญิงและชายควรให้ทับกันพอดี ไม่มีช่องว่างเพื่อให้ดูเรียบร้อย รวมถึงทรงผมของผู้หญิงหากไว้ผมยาวถ้ารวมผมหรือเกล้าผมจะเหมาะกับชุดมากกว่าปล่อยผม
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)