อัพเดทปี 2023! 20 สุดยอดที่เที่ยวเด่น เดือนกรกฎาคม ฉบับทั่วญี่ปุ่น
11. ชมวัดบรรยากาศเหมือนโลกเทพนิยาย วัดกิโอจิ จังหวัดเกียวโต (Gio-ji Temple, Kyoto)
ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติ ทิวทัศน์ของต้นไม้ดอกไม้มีสีเขียวขจีให้ความรู้สึกสดชื่อและที่วัดกิโอจิ (Gio-ji Temple) ก็เป็นวัดขนาดเล็กมีบรรยากาศภายในวัดทั้งเงียบสงบ ถูกปกคลุมด้วยร่มเงาต้นไม้ที่ล้อมรอบและมีสวนมอสที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงเดือนกรกฎาคมถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดช่วงหนึ่งของการมาชมต้นมอสส์ซึ่งภายในบริเวณวัดก็จะเต็มไปด้วยความเขียวขจีจากต้นมอสส์และใบไม้ทั่วบริเวณ
อีกหนึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือบริเวณอาคารหลักที่จะมีหน้าต่างรูปวงกลมสานด้วยไม้สลับกันเป็นรูปคล้ายกากบาทที่มีชื่อเรียกว่า โยะชิโนะ มะโดะ (Yoshino-mado) ทำให้สามารถเห็นความสวยงามของวัดได้มากยิ่งขึ้นหากมองผ่านช่องหน้าต่างนี้
การเดินทาง : จากสถานี Saga-Arashiyama เดินประมาณ 25 นาที
12. ชมขบวนแห่เทศกาลกิออน ยามาคาสะ จังหวัดฟุคุโอกะ (Hakata Gion Yamakasa Festival, Fukuoka)
เทศกาลกิออน ยามาคาสะ (Hakata Gion Yamakasa Festival) คืออีกหนึ่งงานเทศกาลฤดูร้อนอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองฟุคุโอกะ (Fukuoka) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-15 กรกฎาคมของทุกปี โดยเส้นทางของขบวนแห่จะเริ่มจากศาลเจ้าคุชิดะ (Kushida Shrine) ไปสิ้นสุดที่บริเวณพิพิธภัณฑ์ฟุคุโอกะ เอเชี่ยน อาร์ต (Fukuoka Asian Art Museum)
ไฮไลท์ของงานเทศกาลคือ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งจะมีการแห่ซุ้มที่มีขนาดเล็กกว่า เรียกว่า "Kakiyama" ความสูง 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน มีทั้งหมด 7 ซุ้ม แต่ละซุ้มเปรียบเสมือนตัวแทนแต่ละเขตพื้นที่ของเมืองซึ่งจะแข่งกันว่าเขตไหนสามารถเคลื่อนขบวนแห่ซุ้มไปตามเส้นทางที่กำหนดได้เร็วกว่าเป็นผู้ชนะ เหล่ากองเชียร์ก็จะส่งเสียงเชียร์ไปตลอดทาง สร้างความสนุกสนานคึกคักเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : จากสถานี JR Hakata เดินประมาณ 15 นาที
13. ถูกใจน้องๆ หนูๆ และคนรักสัตว์ทุกเพศทุกวัย มาเธอร์ฟาร์ม จังหวัดชิบะ (Mother Farm, Chiba)
มาเธอร์ฟาร์ม (Mother Farm) คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งใน จังหวัดชิบะ (Chiba) ที่มีจุดเด่นคือนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักต่างๆ และยังมีทุ่งดอกไม้ที่สวยงามในทุกฤดูกาล เป็นสถานที่เหมาะกับการพาเด็กๆ มาเที่ยวชมความน่ารักของสัตว์
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคมก็จะได้พบกับทิวทัศน์ดอกพิทูเนีย (Petunia) ราว 25,000 ดอก สีชมพูสดใสตัดกับท้องฟ้าและสีเขียวของต้นไม้เป็นทัศนียภาพที่งดงามมาก และตั้งแต่ฤดูร้อนไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงก็ยังจะได้เห็นภาพดอกซัลเวีย (Salvia) จำนวนกว่า 300,000 ดอกที่ปลูกมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ ราวกับปูลาดด้วยพรมสีแดงเข้มผืนใหญ่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีซอฟต์ครีมสดอร่อยขึ้นชื่อของทางฟาร์มให้ได้เอร็ดอร่อยกันอีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Kimitsu บนสาย R Sobu Line Rapid ต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปลงที่ Mother Farm ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
14. เปิดประสบการณ์ใหม่กับกิจกรรมพาราไกลดิ้ง จังหวัดชิซุโอกะ (Paragliding, Shizuoka)
หนึ่งในกิจกรรมฤดูร้อนที่น่าสนใจในญี่ปุ่นคือการเล่นร่มร่อน หรือ พาราไกลดิ้ง (Paragliding) พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมจะต้องอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากและรับลมได้ดี สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิพร้อมทั้งเล่นพาราไกลดิ้ง ที่ราบสูงอะซะงิริ (Asagiri Kogen) ในเมืองฟูจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอกะ( Shizuoka)
ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสันทนาการขนาดใหญ่บนเชิงเขาฟูจิฝั่งตะวันตก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ มากมาย โดยการเล่นพาราไกลดิ้งก็จะมีครูฝึกผู้ชำนาญการประกบอยู่ด้านหลัง (Tandem-flight Paragliding) ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ชีสอร่อยๆ และซอฟต์ครีมแบบเข้มข้นรวมทั้งจุดถ่ายรูปยอดนิยมด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Shin-Fuji ต่อรถบัสสาย Fuji Kyuko ไปลงที่ป้าย Asagiri-kogen bus stop ใช้เวลา 70 นาที
15. ลองเรือแม่น้ำคุชิโระ จังหวัดฮอกไกโด (Kushiro River, Hokkaido)
พบกับประสบการณ์แสนวิเศษช่วงฤดูร้อนกับการชมทิวทัศน์อันงดงามของพื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ (Kushiro Marsh) พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ในฮอกไกโด (Hokkaido) เสน่ห์ของพื้นที่แถบคุชิโระ (Kushiro) คือมีสัตว์ป่าหายากอย่างนกกระเรียนมงกุฏแดง (Red-crowned Cranes) และนกอินทรีหางขาว (White-tailed Eagles) ให้ได้ชม ตลอดจนทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามที่มองเห็นได้จากจุดชมวิวและเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ
ไฮไลต์อีกอย่างของฤดูร้อนเดือนกรกฎาคมที่จะแนะนำคือการล่องเรือแคนูชมวิวแม่น้ำคุชิโระ เป็นแม่น้ำที่ไหลเอื่อยคดเคี้ยวสามารถมองเห็นพืชพรรณและนกป่าตามสองริมฝั่งได้จากหลายมุม ถ้าเลือกคอร์สล่องเรือที่ออกแต่เช้ามืดก็จะมีโอกาสได้เห็นวิวทะเลหมอกยามเช้าด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟสาย JR Limited Express Super Ozora ไปลงที่สถานี Kushiro ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 20 นาที
16. สัมผัสธรรมชาติกับลำธารโออิราเสะ จังหวัดอาโอโมริ (Oirase Stream, Aomori)
เมื่อถึงฤดูร้อนทิวทัศน์ธรรมชาติจะชุ่มฉ่ำไปด้วยความเขียวขจีและที่ลำธารโออิราเสะ (Oirase Stream) ที่ไหลผ่านทะเลสาบโทวาดะ ในจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เปรียบเหมือนจุดหมายที่เป็นตัวแทนทางธรรมชาติในฤดูร้อนแห่งหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะสถานที่เดินป่า ปีนเขา สำรวจธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกระแสน้ำไหลของลำธารแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด
ลำธารโออิราเสะ คือเส้นทางสายน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขามีระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร ท่ามกลางความร่มรื่นจากต้นไม้และน้ำตกมากมายที่รายล้อม กระแสน้ำที่ไหลผ่านก้อนหินเปลี่ยนรูปทรงไปอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นผลงานทางธรรมชาติที่งดงามในทุกฤดูกาล สำหรับฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคมก็จะได้รับความสดชื่นอย่างเต็มที่ เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่เหมาะสำหรับนักปีนเขา เดินป่าทั้งหลาย เพราะมีความสูงหลายระดับแม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถปีนเขาที่นี่ได้
การเดินทาง : จากสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) สามารถนั่งรถบัสของ JR Bus Tohoku ไปลงที่บริเวณลำธารโออิราเสะซึ่งมีจุดจอดรถบัสหลายจุด
17. ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ จังหวัดฮอกไกโด (Shikisai No Oka, Hokkaido)
ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai No Oka) หรือ สวนโฟร์ซีซันฮิลล์ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสวนดอกไม้บนเนินที่มีพรมดอกไม้บานตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกทิวลิป ลูพิน ลาเวนเดอร์ ซัลเวีย ทานตะวัน เป็นต้น ฤดูร้อนของที่นี่ก็เป็นอีกช่วงเวลาที่จะได้พบกับทุ่งดอกไม้หลากสีสันสุดตระการตา
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสแทรกเตอร์ที่ชื่อว่าชิคิไซ โนรกโกะ (Shikisai Norokko) เที่ยวรอบสวนและเยี่ยมชมฟาร์มอัลปาก้าได้ด้วย พลาดไม่ได้อีกอย่างคือ อาหารท้องถิ่นในฮอกไกโดของที่นี่ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และแผงขายผลผลิตจากสวนชิกิไซโนะโอกะ ส่วนใหญ่เน้นขายอาหารท้องถิ่นต่างๆทั้งไอศครีมนมฮอกไดโดรสนุ่มละมุน ข้าวโพดขาวที่ทั้งหวานหอมอร่อยซึ่งรับประทานได้โดยไม่ต้องต้ม
การเดินทาง : จากสถานี Bibaushi บนสาย JR Furano Line เดินไปประมาณ 25 นาที หรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
18. ฤดูร้อนต้องเที่ยวทะเล หาดชิราฮามะ จังหวัดชิซุโอกะ (Shirahama Beach, Shizuoka)
หาดชิราฮามะ (Shirahama Beach) เป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาชายหาดที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) เมืองชิโมดะ (Shimoda) มีความยาวประมาณ 800 เมตร ลักษณะเป็นหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลใสสะอาด เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่พักผ่อนริมชายหาดในฤดูร้อน
ชายหาดในชิโมดะมีความสวยงาม จุดเด่นของที่นี่คือสันทรายชายหาดนี้ทั้งนุ่มและขาวสะอาด คลื่นซัดสม่ำเสมอ เป็นชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนในฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งรอบๆ ชายหาดยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ท ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลแสนอร่อย เรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก พื้นที่ใกล้เคียงมีชายหาดอีกหลายแห่งให้ได้เที่ยวชม ตั้งแต่หาดเล็กไปจนถึงหาดใหญ่ ชายหาดสำหรับนักท่องเที่ยว รวมไปจนถึงหาดที่บรรยากาศเงียบสงบ
การเดินทาง : จากสถานี Shimoda บนสาย Tokaido line ต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Shirahama Kaigan ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
19. หนีร้อนเที่ยวเมืองพักตากอากาศของญี่ปุ่น คารุอิซาวะ จังหวัดนากาโนะ (Karuizawa, Nagano)
คารุอิซาวะ (Karuizawa) บนที่ราบสูงจังหวัดนากาโนะ (Nagano) เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน จุดเด่นของที่นี่คือมีกิจกรรมและสถานที่สร้างความสุขสนุกสนานให้กับผู้คนทุกวัยเหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการไปเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น สวนสนุกในธีมของเล่นและหนังสือภาพ พิพิธภัณฑ์ภาพวาดสามมิติ และโรงงานเครื่องแก้ว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี คารุอิซาวะช้อปปิ้งพลาซ่า (Karuizawa Shopping Plaza) ซึ่งเป็นเอาท์เล็ตที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้านในมีโซนสำหรับเด็กเล่นจึงสามารถพาลูกน้อยไปด้วยได้โดยไม่มีอะไรต้องกังวล นอกจากนี้ที่หน้าสถานีคารุอิซาวะ (Karuizawa Station) มีร้านจักรยานอยู่หลายร้าน เหมาะกับการเช่าจักรยานปั่นเที่ยวเล่นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ พื้นที่แห่งนี้
การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย JR Hokuriku Shinkansen ไปลงสถานี Karuizawa ใช้เวลาประมาณ 70 นาที
20. ชมผลงานศิลปะอันโด่งดัง เกาะนาโอชิมะ จังหวัดคางาวะ (Naoshima island, Kagawa)
เกาะนาโอชิมะ (Naoshima Island) ตั้งอยู่บริเวณทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในด้านงานศิลปะ เนื่องจากที่นี่มีผลงานของศิลปินมากมายกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งเกาะ และโดดเด่นในเรื่องของศิลปะร่วมสมัย มีงานศิลปะที่มุ่งเน้นไปที่ศิลปะร่วมสมัยกลมกลืนกับความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่ง เช่น Benesse House Museum และ Chichu Art Museum เป็นต้น
แต่โดยภาพรวมแล้วตัวเกาะทั้งเกาะก็คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งหนึ่งนั่นเอง สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงในฤดูร้อนก็จะได้พบกับทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยความสดใส กิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือการเช่าจักรยานปั่นชมวิวและเที่ยวรอบเกาะนาโอชิมะ
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจาก JR Uno และนั่งเรือเฟอร์รี่ 20 นาทีจาก Uno Port ไปลงที่ Miyaura Port หรือ Honmura Port บนเกาะ Naoshima Island
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย
เรียบเรียงใหม่: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)