สถานีนิชิจินอยู่ใกล้กับชายทะเล และมีย่านช้อปปิ้ง Nishijin Shopping Street แถวนี้จึงมีร้านอาหารให้เลือกสรรมากมาย เมื่อเข้าไปในย่านช้อปปิ้งก็จะได้พบกับร้านค้าสินค้าหลากหลายชนิด และยังมีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อม ร้านเครื่องสำอาง ร้านขายขนม นอกจากนี้ถัดไปไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอีกด้วย บรรยากาศจึงค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว

Fukuoka Tower
ฟุกุโอกะทาวเวอร์ เป็นแลนด์มาร์คและสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของฟุกุโอกะ เป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น รองจากโตเกียวสกายทรีและโตเกียวทาวเวอร์ โดยมีความสูงถึง 234 เมตร ด้านในมีจุดชมวิวที่อยู่สูงจากพื้นดิน 123 เมตร เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศรอบทางแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ทั้งแนวชายหาดฮากาตะ ทัศนียภาพของเมืองได้โดยรอบ และเกาะต่างๆในอ่าวฮากาตะ (Hakata Bay) และที่นี่ยังได้รับการคัดเลือกให้ติด 1 ใน 100 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

Momochi Seaside Park
ไม่ไกลจากฟุกุโอกะทาวเวอร์มีสวนสาธารณะริมทะเลที่น่าไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจแห่งหนึ่ง นั่นคือสวนริมทะเลโมโมจิ เป็นสวนที่มีการตกแต่งทันสมัย มีหาดทรายกว้างและยาวกว่า 1 กิโลเมตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวฮากาตะ โซนด้านบนเป็นสวนสนร่มรื่น ส่วนโซนที่เหมือนเป็นเกาะยื่นออกไปในทะเลเรียกว่ามาริซอน (Marizon) ซึ่งมีการออกแบบตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลี มีมุมนั่งเล่น ร้านอาหาร ร้านค้าของที่ระลึกน่ารัก และมีอาคารที่คนนิยมมาจัดงานแต่งงานกันด้วย

ที่นี่คือสวนสาธารณะสำคัญของฟุกุโอกะ ละแวกของสถานีโอโฮริโคเอ็นเป็นย่านที่พักอาศัยที่เต็มไปด้วยตึกคอนโดมิเนียมสูงๆ อพาร์ทเมนต์ แมนชั่น และโรงแรมดีไซน์เก๋มากมาย จึงมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ที่ตกแต่งน่ารัก อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อกระจายอยู่เป็นระยะๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับคนพักอาศัย

Ohori Park
สวนโอโฮริ สวนสาธารณะใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เปรียบเสมือนเป็นโอเอซิสของชาวเมืองเลยก็ว่าได้ การตกแต่งผสมผสานสไตล์ของจีน โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงศาลาทรงหกเหลี่ยมที่รอบล้อมด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแบบพาโนราม่า ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง มีการออกร้านขายอาหาร ตกกลางคืนก็เปิดไฟที่ประดับประดาต้นซากุระดูสวยงามอย่างยิ่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็เต็มไปด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นเหลืองบ้างแดงบ้างของต้นเมเปิ้ล จึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนนิยมแวะเวียนมาอีกด้วย

Fukuoka Castle
เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองฟุกุโอกะ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เป็นเพียงซากกำแพง ส่วนฐานของป้อมปราการ และหอคอยของปราสาทฟุกุโอกะ ซึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวซู ตั้งอยู่ภายในสวนไมซึรุ (Maizuru Park) ในส่วนของหอคอยหลักนั้นเปิดให้เข้ามาชมวิวทิวทัศน์ของเมืองได้ ที่นี่จะมีคนหนาตาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยม ตลอดทางเดินเรียงรายไปด้วยต้นซากุระที่ออกดอกบานสะพรั่ง หนาแน่นจนให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์ซากุระเลยทีเดียว

เมื่อออกมาจากสถานีเทนจินก็จะเจอกับตึกสูง อาคารทันสมัย ห้างร้านต่างๆ ที่เรียงรายเต็มฝั่งสองข้างทาง เรียกได้ว่าเป็นย่านศูนย์กลางความเจริญของฟุกุโอกะที่สำคัญก็ว่าได้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสดใสคึกคัก ผู้คนสัญจรไปมากันขวักไขว่

ย่านเทนจิน (Tenjin)
ย่านที่เป็นหัวใจสำคัญของฟุกุโอกะทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งรวมร้านค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าของแบรนเนมด์ เครื่องสำอาง และรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าดังขนาดใหญ่หลายแห่ง ตามตรอกซอกซอยก็มีร้านน่ารักมากมาย สามารถเดินเล่นได้ทั่ว รับรองว่าถูกใจขาช้อปแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะให้ใช้เป็นที่พักผ่อน ห้องสมุด และร้านอาหารยอดนิยมทั้งร้านแฟรนไชส์ต่างๆ และร้านที่ตกแต่งน่านั่งอีกด้วย

สถานีนาคาสึ คาวาบาตะ อยู่ใกล้กับ Kawabata Shopping Arcade พอดี ที่นี่เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ของฟุกุโอกะ มีร้านค้าเรียงรายให้เลือกซื้อมากกว่า 100 ร้าน อีกทั้งยังมีร้านอาหารอีกมากมาย ถ้ายังไม่จุใจก็สามารถเดินไปต่อที่ห้าง Canal City ที่รวมร้านค้าดังๆ และความบันเทิงอีกหลายอย่าง

Nakasu Yatai
ฟุกุโอกะขึ้นชื่อเรื่องของย่านแผงลอยยะไต (Yatai) ซึ่งย่านนาคาสึก็เป็นแห่งหนึ่งที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันมาก ตั้งอยู่ในเขตฮากาตะ (Hakata) ร้านแผงลอยจะเริ่มมากันในช่วงเย็นๆ ตั้งแต่ราว 6 โมงเย็นถึงประมาณตี 2 แต่ละร้านมีขนาดเล็กนั่งได้ประมาณ 5 - 10 ที่นั่ง อาหารที่ให้บริการจะมีประเภทราเม็ง โอเด้ง ของเสียบไม้ปิ้งย่าง หม้อไฟเครื่องในวัว เป็นต้น โดยอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือฮากาตะราเม็ง (Hakata Ramen) ซึ่งเป็นทงคตสึราเม็ง (Tonkotsu Ramen) หรือราเม็งซุปกระดูกหมูรสเข้มข้นสูตรพิเศษของเมืองนี้

แถวสถานีฮากาตะเต็มไปด้วยอาคารที่ใหม่และสวยงาม ที่พักทันสมัย โรงแรมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงและตกแต่งอย่างหรูหรา ถ้าต้องการที่พักค้างคืน โซนของสถานีฮากาตะก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว บรรยากาศไม่พลุกพล่าน และยังมีร้านอาหารให้บริการมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งบันเทิงอื่นๆ อีกหลายอย่างสำหรับคนกลางคืน อย่างร้านคาราโอเกะสำหรับใครที่อยากพักผ่อนร้องเพลงอีกด้วย

Yanagibashi Rengo Market
ตลาดยานางิบาชิ ได้ชื่อว่าเป็นห้องครัวของฮากาตะ เป็นแหล่งวัตถุดิบ ร้านอาหาร ร้านขนม ที่คนในท้องถิ่นและร้านอาหารต่างๆ แวะมาซื้อหากันอย่างคึกคัก วัตถุดิบของที่นี่มีความสดใหม่ทุกวัน โดยเน้นไปที่อาหารทะเลเป็นส่วนมาก ร้านค้าในตลาดมีอยู่รวมกันกว่า 50 ร้าน โดยมีระยะทางให้เดินซื้อของกันเพลินๆ ประมาณ 100 เมตร ในระหว่างปีที่นี่จะมีการจัดเทศกาลเกี่ยวกับอาหารให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกันตลอด เช่น กิจกรรมคูปองส่วนลด โชว์การแล่ปลา การจัดแสดงอาหาร เป็นต้น

ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย