All About Japan

"ฮานามิ" ไปปิกนิกชมซากุระกันค่ะ

สวน สวนสาธารณะ ซากุระ ดอกไม้ เบนโตะ รู้ลึกเรื่องญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ เที่ยวญี่ปุ่นเดือนห้า
"ฮานามิ" ไปปิกนิกชมซากุระกันค่ะ

พอเข้าฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นรอคอยคือเวลาที่ดอกซากุระบานค่ะ เพราะที่นี่จะมีวัฒนธรรมการชมดอกซากุระ ซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ฮานามิ" ค่ะ ใครที่อยากมีประสบการณ์ชมดอกไม้แบบญี่ปุ่นแท้ๆตามมาอ่านเลย

ฮานามิ หมายถึงการชมดอกซากุระ นอกจากดูความสวยงามของดอกไม้แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆมากมาย เช่น การปิกนิก เล่นกีฬา พบปะสังสรรค์ หรือกินบาร์บีคิว วันนี้เราจะพามาชมวิธีการเตรียมตัวไปปิกนิกใต้ดอกซากุระแบบคนญี่ปุ่นกันค่ะ รวมไปถึงประวัติของฮานามิ และการเตรียมตัวเพื่อไปปิกนิกค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งดอกไม้บาน

ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งดอกไม้บาน

ฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ในช่วงเดือนนี้มีดอกไม้ที่เริ่มบานก่อนซากุระ นั่นคือดอกบ๊วย การชมดอกบ๊วยนั้นก็เป็นประเพณีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเช่นกัน สถานที่ที่นิยมคือตามเนินเขา แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาตินัก หลังจากดอกบ๊วยร่วงโรยผลิใบอ่อน อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยค่ะ เวลาที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ผู้คนต่างไปเดินชม จับจองที่นั่ง ปูเสื่อปิกนิก ถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งบรรยากาศนั้นอบอวลไปด้วยความสุข อบอุ่นดั่งฤดูใบผลิจริงๆค่ะ

ฮานามิ การชมดอกซากุระ ที่มีมานานนับพับปี

ฮานามิ การชมดอกซากุระ ที่มีมานานนับพับปี

ฮานามิ (花見) แปลตรงตัวว่า การชมดอกไม้ แต่วิธีใช้ที่พบบ่อยที่สุดของคำนี้คือ การชมดอกซากุระ เป็นหลักค่ะ ซึ่งหากไปดูดอกไม้ชนิดอื่นจะมีชื่อดอกไม้ชนิดนั้นด้วย ในฤดูใบไม้ผลิ มีดอกไม้บานนานาชนิด สำหรับดอกไม้ที่ทุกคนรอคอยที่สุดคือดอกซากุระ จึงเป็นที่เข้าใจกันดีของคนญี่ปุ่นว่าการชมดอกไม้คือดอกซากุระ นั่นเองค่ะ

ประเพณีชมซากุระบาน มีมานานตั้งแต่ยุคเฮอัง (ช่วง ค.ศ. 794 - ค.ศ. 1185 ในยุคนั้นเมืองหลวงคือเมืองเกียวโต) ในสมัยก่อนนั้นการชมดอกไม้จะมีความรื่นรมย์ด้วยการขับกลอนญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีแล้วค่ะในปัจจุบันนี้ มีเพียงการปิกนิกเฮฮาปาร์ตี้ค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกแห่งนะคะที่สามารถปิกนิกได้ เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะไปค่ะ

วันนี้เราจะไปปิกนิกชมซากุระที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในจังหวัดคานากะวะ เป็นสวนสาธารณะที่คนในพื้นที่นิยมไปชมซากุระกันค่ะ

เตรียมตัวไปปิกนิกกันค่ะ

เตรียมตัวไปปิกนิกกันค่ะ

เมื่อเราตกลงได้แล้วว่าจะไปปิกนิกที่ใด อย่างแรกที่ต้องเตรียมคือของกินค่ะ สำหรับการปิกนิกส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นนิยมทำเบนโตะไปเองค่ะ จัดแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ไปกันแบบครอบครัว หรือกับแฟน คุณผู้หญิงก็จะได้โชว์ความเป็นแม่ศรีเรือนก็งานนี้แหละค่ะ การจัดเบนโตะนั้นไม่มีแบบแผนใดๆค่ะ แค่ชอบทานอะไรก็ใส่เข้าไปให้ดูเต็มๆกล่องเป็นอันสวยงามค่ะ

เครื่องดื่ม

เครื่องดื่ม

ต่อมาก็เครื่องดื่มค่ะ น้ำชา น้ำอัดลม เบียร์ แอลกอฮอล์นานาชนิด เตรียมกันมาได้เลย ไม่มีการห้ามค่ะ เพียงแต่เมาแล้วอย่ารบกวนคนอื่นก็พอ

น้ำอีกอย่างที่เห็นจะนิยมมากในหมู่เด็กญี่ปุ่นช่วงนี้ก็คือน้ำเปล่ารสชาติต่างๆ อย่างเช่นยี่ห้อ I LOHAS ค่ะเช่น รสส้ม รสเลม่อน ได้ยินว่าช่วงนี้ในหมู่นักท่องเที่ยวไทยเองก็ชื่นชอบเหมือนกันค่ะ

และอีกอย่างที่สำคัญคือขนมขบเคี้ยวค่ะ เตรียมไปเยอะๆนะคะ เพราะตามสวนสาธารณะที่เราจะไปนั้นมักไม่มีร้านค้าขายของกิน จะมีก็แต่ตู้กดน้ำหยอดเหรียญค่ะ

สำหรับนักท่องเที่ยว หลังจากซื้อน้ำและของกินพร้อม อย่าลืมอุปกรณ์การกินนะคะ ช่วงซากุระนี้พิเศษหน่อย สามารถซื้อแก้วกระดาษและจานชามช้อนส้อมลายซากุระได้ง่ายๆตามร้าน100เยนค่ะ ซึ่งช่วงซากุระบานนี้ก็มักจะมีสินค้าลายซากุระขายมากมายค่ะ

เสื่อปูนั่งและถุงขยะ

เสื่อปูนั่งและถุงขยะ

อีกอย่างที่ต้องเตรียมนะคะ เสื่อปูนั่ง เบาะรองนั่ง(ข้อนี้ห้ามมองข้ามนะคะ เพราะพื้นที่นั่งอาจเป็นพื้นปูนหรือดินแห้งๆก็ได้ ถ้าไม่มีรับรองว่าเจ็บก้นแน่นอนค่ะ) ร้าน100เยนก็มีขายเช่นกัน เป็นแบบใช้แล้วทิ้งค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ชอบอากาศหนาวนักก็เตรียมผ้าห่มกันหนาวผืนเล็กๆพอคลุมไหล่ไปด้วยก็ดีค่ะ นอกจากกันหนาวแล้วยังสามารถใช้รองนั่งนิ่มๆได้ด้วยค่ะ

และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญมาก คือทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดมือและถุงขยะค่ะ เพราะตามสวนสาธารณะส่วนใหญ่ไม่มีถังขยะนะคะ เราต้องเอาขยะกลับไปทิ้งที่บ้านหรือโรงแรมที่พักค่ะ

เรามาปิกนิกกันค่ะ

เรามาปิกนิกกันค่ะ

เมื่อถึงสวนสาธารณะ เราต้องปฎิบัติตามกฎของสวนค่ะ สวนแต่ละแห่งมีข้อห้ามแตกต่างกัน สามารถดูป้ายได้ที่ทางเข้าสวนค่ะ ข้อห้ามที่มี เช่น ห้ามปั่นจักรยานหรือขับมอเตอร์ไซค์ในสวน ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามเล่นกีฬาที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น ห้ามทำลายพืชหรือทำให้ต้นไม้เสียหาย สำหรับสวนสาธารณะในโตเกียว หรือสวนสาธารณะขนาดเล็กๆส่วนใหญ่นั้นจะห้ามกางเต็นท์ด้วยค่ะ

และสิ่งที่ควรสังเกตให้ดีก่อนเริ่มปาร์ตี้ก็คือห้องน้ำ โดยส่วนใหญ่มักอยู่ใกล้บริเวณทางเข้าหรือทางออกค่ะ ควรหาเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ และสุดท้ายที่ไม่ควรลืมก็คือเรื่องเวลาทำการ สวนสาธารณะบางที่นั้นมีประตู และไม่ได้เปิด24ชั่วโมง เราควรเก็บสิ่งของให้เรียบร้อยก่อนเวลาปิดครึ่งชั่วโมงค่ะ

พอเข้าไปด้านในสวน บริเวณชมซากุระ เราก็จับจองที่ปูเสื่อนั่งรับประทานอาหารพร้อมเมาท์มอยได้เลยค่ะ หากมีเต็นท์เราควรระวังเต็นท์บังผู้อื่น และไม่ควรวางข้าวของหรือปูเสื่อปิดกั้นทางเดินของผู้อื่นค่ะ

รับประทานอาหารกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นเซลฟี่ค่ะ สวนสาธารณะตามต่างจังหวัดส่วนใหญ่นั้นเราสามารถทิ้งเสื่อไว้และเดินชมซากุระได้ แต่ในโตเกียวและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติควรมีคนนั่งเฝ้าเสื่ออย่างน้อยซักหนึ่งคนค่ะ

ซากุระที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ

ซากุระที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ

ซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ (ソメイヨシノ) เริ่มปลูกในช่วงปลายยุคเอโดะ (ประมาณศตวรรษที่18) เป็นพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและปลูกแพร่หลายทั่วประเทศญี่ปุ่นมาจนทุกวันนี้ค่ะ ลักษณะดอกมี 5 กลีบ มีสีชมพูอ่อน บานทีละภูมิภาคไล่จากทางใต้ที่อากาศอุ่นกว่า ค่อยๆขึ้นไปทางเหนือของประเทศค่ะ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพันธุ์นะคะ พันธุ์ที่เด่นเช่น ยาเอะซากุระ (ヤエザクラ) มีลักษณะกลีบซ้อนกันเป็นพวงใหญ่ ดอกสีชมพูเข้ม และ ชิดาเระซากุระ (シダレザクラ) ลักษณะดอกและสีคล้ายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ จะต่างกันที่กิ่งก้านสาขาที่ห้อยระย้าลงมาเป็นเส้นค่ะ

ซากุระพันธ์โซเมโยชิโนะ ที่สามารถพบได้ทั่วไป

ชิดาเระซากุระ พันธ์กิ่งย้อยที่สวยงามไม่แพ้กันและดูมีความลึกลับน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย

สุดท้ายนี้ สำหรับท่านที่มีโอกาสเที่ยวญี่ปุ่น ลองมองหาสวนสาธารณะรอบนอกโตเกียวบ้างนะคะ จะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของญี่ปุ่น เพื่อที่จะได้ลองปิกนิกอย่างอบอุ่น ไร้คนเมาสุราและกองขยะ หากเทียบกับสวนที่คนเยอะๆ อย่างที่ท่องเที่ยวชมซากุระชื่อดัง สวนอุเอโนะ ที่เรารู้จักกันดีแล้วละก็ สวนเงียบๆในย่านที่พักอาศัยหรือต่างจังหวัดนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับนักเที่ยวผู้มีประสบการณ์ค่ะ

know-before-you-go