งานเทศกาลชมซากุระคาวาสึนี้มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1980 จัดโดยชาวเมืองคาวาสึ (Kawazu City) ในเขตอิสุเพนนินซูล่า (Izu Peninsula) จังหวัดชิสึโอกะ (Shizuoka) ซึ่งในปี 2022 นี้งานเทศกาลถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 32 แล้วค่ะ ซึ่งในช่วงโควิดก็จะมีมาตรการด้านความปลอดภัยและการป้องกันโรคติดต่อเพิ่มขึ้นมา โดยทุกคนที่เข้าร่วมงานจะต้องผ่านการวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และรับสติ๊กเกอร์ว่าผ่านเกณฑ์แล้วจึงจะเข้าร่วมงานได้

การเดินทางในครั้งนี้เราเริ่มต้นจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) โดยนั่งรถด่วนเพียงขบวนเดียวตรงปรู้ดดดถึงสถานีคาวาสึ (Kawazu Station) จังหวัดชิสึโอกะ (Shizuoka) เลยค่ะ เราใช้พาสสุดประหยัดและคุ้มค่าสำหรับนักเดินทางชื่อว่า TOKYO Wide Pass ซึ่งเหมาะกับการเดินทางจากโตเกียวไปสู่จังหวัดรอบ ๆ ในภูมิภาคคันโต ใช้เดินทางได้สามวันต่อเนื่องกันแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในราคา 10,180 เยน (รวมภาษีแล้ว) เท่านั้น

และพาสตัวนี้เป็นตัวที่เราใช้บ่อยมาก ๆ เลยนะ โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยวอย่างใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีนี่คุ้มมากกกก นั่งชินคันเซ็นจนเกือบครบทุกขบวนเลยค่ะ

สำหรับการจองตั๋วรถไฟก็ไม่ยากเลย ไปหาเจ้าหน้าที่ใจดีที่ JR Ticket Counter สีเขียว แล้วบอกว่าเราจะไปที่คาวาสึ (Kawazu) โดยรถด่วน ODORIKO ส่วนใหญ่รอบเช้าจะมีขาไป (โตเกียว) 9:00 น.– 11.36 น. (คาวาสึ) กับ (โตเกียว) 11:00 น. – 13:18 น.(คาวาสึ) ส่วนขากลับ (คาวาสึ) 14:24 น.– 16.49 น. (โตเกียว) กับ (คาวาสึ) 16:51 น. – 19:19 น.(โตเกียว)นั่งเล่นชมวิวทะเลสีน้ำเงินครามเพลิน ๆ ราวสองชั่วโมงครึ่งก็ถึงจุดหมายแล้วค่ะ แนะนำให้ซื้อของกินไปทานบนรถไฟด้วยนะคะ

ในทุก ๆ ปีชาวเมืองในละแวกนี้ก็จะพากันมาออกร้านอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นยากิโซบะ ราเม็ง ซอฟครีมซากุระ สาเกหวาน โมจิซากุระ ฯลฯ คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือนถิ่นซากุระพันธุ์บานเร็วนี้ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม

และขนมฮอตฮิตที่สุดที่หาได้เฉพาะในงานนี้ก็จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก “ไทยากิซากุระ” (Taiyaki Sakura) สีหวานเข้ากันที่สุดกับซากุระและท้องฟ้าสีฟ้าสดใส พร้อมกลิ่นหอมซากุระอ่อน ๆ จากร้าน Inaka Honpo Yamada (แต่ต้องเข้าใจนิดนึงว่าคนต่อคิวเยอะมากกกก และคนทำก็ทำจนมือเป็นระวิงเลย น้องปลาที่ได้บางตัวอาจจะน่วมนิ่มไปบ้าง พยายามประคองถ่ายรูปให้สวย ๆ กันเอานะคะ)

※ ขนมไทยากิ (Taiyaki) คือขนมที่ทำจากแป้งสาลีแล้วนำไปอบในแม่พิมพ์รูปปลา มีไส้แบบต้นตำรับคือไส้ถั่วแดง

เมื่อเราเดินมาจากสถานีจนถึงปากทางแยก จะมองเห็นสะพานและจะมีป้ายบอกว่าฝั่งซ้ายไปด้านริมทะเล ส่วนฝั่งขวาจะไปด้านต้นแม่น้ำ ใครชอบวิวแบบในหน้าปกรีวิวนี้ ให้เดินไปทางขวาค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าช่วงต้นทางเราจะถูกดักด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอยู่เป็นระยะ ๆ เราขอแนะนำให้หักห้ามใจไว้ก่อนแล้วมุ่งหน้าเดินเข้าไปด้านในเลยค่ะ คนจะน้อยลงและเราจะได้พบกับวิวสวย ๆ เหล่านี้

ด้านริมแม่น้ำจะเป็นที่โล่งกว้าง สามารถถ่ายรูปได้ตามสบาย พร้อมกันนั้นระหว่างทางก็จะมีออนเซ็นสำหรับแช่เท้าตั้งอยู่ด้วยกันสามแห่ง (ปิดให้บริการช่วงโควิด-19) เหมาะกับการแช่ผ่อนคลายความเมื่อยล้าของน่องขาและเท้าของเรา ซึ่งขอแนะนำให้เตรียมผ้าขนหนูผืนเล็กมาไว้เช็ดทำความสะอาดเท้าหลังแช่เสร็จนะคะ และเมื่อหายเมื่อยแล้วก็ออกเดินถ่ายรูปชมซากุระสวย ๆ กันต่อค่ะ

ผู้คนหนาแน่นบ้าง เบาบางบ้างเป็นจุด ๆ ไป จะมีโซนแออัดกันบ้างตรงบริเวณที่มีซากุระโค้งมาบรรจบกัน เพราะใคร ๆ ก็อยากได้รูปอุโมงค์ซากุระกันทั้งนั้นใช่มั้ยล่ะคะ มันสวยนี่เนอะ

และเฉพาะสำหรับผู้อ่าน All About Japan เรามีคาเฟ่หลักร้อยวิวหลักล้านมาฝากกันด้วยนะ ให้เดินไปทางด้านริมชายฝั่งทะเลจนเจอสะพานสุดท้าย มองหาตึกเล็ก ๆ สีเทาชื่อร้านว่า LOKANTA kitchen&café เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ อยู่บนชั้นสอง มีอาหารจานหลักนิดหน่อย เช่น สปาเกตตี้ ฮันนี่โทสต์ ส่วนใหญ่เมนูจะเน้นไปที่เครื่องดื่มเช่น กาแฟ ค็อกเทล ช็อคโกแลต และชาร้อน ให้สั่งมาประกอบการนั่งชมวิวและพูดคุยกัน โอ้ยยย ฟินแหละ

ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรที่มีต้นซากุระเรียงรายตลอดทั้งสาย แถมยังมีวิวซากุระทั้งสองฝั่งแม่น้ำคาวาสึ ทำให้เราหลุดเข้าไปในโลกแห่งสีชมพูหวานแห่งนี้จนลืมเวลาได้ไม่ยากเลย ทั้งหยิบกล้องสลับกับมือถือถ่ายรูป หรือบางทีก็ไปเป็นนางแบบเสียเอง

ทริปคาวาสึซากุระนี้เป็นทริปที่สวยงามเพลิดเพลิน อิ่มอร่อยและสบายใจ ทำให้ได้ฮีลร่างกายและรีเฟรชตัวเองดีจริง ๆ เลยค่ะ ยังไงจัดไว้ในทริปหน้าได้เลยรับรองไม่ผิดหวังแน่

ส่วนถ้าใครอยากชมทริปซากุระในช่วงเดือนเมษายน เราขอแนะนำงานซากุระคุมางายะ (Kumagaya Sakura Festival) จังหวัดไซตามะ (Saitama) ที่สามารถใช้ตั๋วรถไฟ TOKYO Wide Pass ได้ ที่นี่มีจุดเด่นคือเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น มีต้นซากุระกว่า 500 ต้นบานสะพรั่งเรียงรายไปตามริมแม่น้ำอาราคาวะ (Arakawa River) อีกทั้ง ในช่วงเวลากลางคืนยังมีการจัดเทศกาลประดับไฟ (Light Up) ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของซากุระกันอีกด้วย

ช่วงเวลาจัดงาน： วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2022 - วันพุธที่ 6 เมษายน 2022
วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น. - 20.00 น.
วันศุกร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 น. - 21.00 น.

การเดินทาง：นั่งรถไฟชินคันเซนจากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) ลงที่สถานีคุมางายะ (Kumagaya Station) ใช้เวลา 33 นาที

หรือจะขยับขึ้นไปเส้นทางภูมิภาคโทโฮขุ (Tohoku) เช่น ริมแม่น้ำชิโรอิชิ สวนฟุนาโอกะโจชิ (Funaokajoshi Park) เมืองชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) โดยใช้ตั๋วรถไฟ JR EAST PASS (Tohoku Area) ก็ได้เช่นกัน

ผู้เขียน: Kotobuki Jaa ญี่ปุ่นอยู่ได้
Japan Travel Photographer & Blogger
จับพลัดจับผลูมาอยู่ญี่ปุ่น + ชอบตะลอนเที่ยวไปเรื่อยๆ เลยหยิบกล้องมาชวนไปอัพเดทญี่ปุ่นกันค่ะ!