รวมทะเลที่หนาวจนเป็นน้ำแข็งของญี่ปุ่น 5 แห่ง
1. ทะเลสาบชิคาริเบ็ทสึ จังหวัดฮอกไกโด (Lake Shikaribetsu, Hokkaido)
ทะเลสาบชิคาริเบ็ทสึ (Lake Shikaribetsu) ตั้งอยู่ในแถบโทคาจิ (Tokachi) บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึ (Daisetsu National Park) เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะได้พบกับวิวหิมะสีขาวปกคลุมและมีช่วงที่อุณหภูมิติดลบต่ำสุด ประมาณ -30 องศา ส่งผลให้ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งกับความหนาราวๆ 60 ซม. มองไปทางไหนก็กลายเป็นสีขาวโพลนราวกับไม่เคยมีทะเลสาบมาก่อน
และในเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี ที่นี่ก็จะมีการจัดงานเทศกาล Lake Shikaribetsu Igloo Village ซึ่งก็คือการสร้างหมู่บ้านด้วยน้ำแข็งเป็นบ้านรูปทรงคล้ายกระท่อมกลมๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวเอสกิโม ที่เรียกว่า อิกลู (Igloo) โดยข้างในจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มในแก้วทำจากน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งบนน้ำแข็งท่ามกลางหิมะกับน้ำแข็งด้วย ถ้าอยากไปชมเทศกาลนี้ต้องไปชมในช่วงที่หนาวที่สุดของปีเท่านั้น
การเดินทาง : จากสถานีโอบิฮิโระ (Obihiro) ขึ้นรถบัส Hokkaido Takushoku Bus ไปลงที่ป้าย Shikaribetsu Kohan Onsen ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที
2. ทะเลสาบซุวะ (จังหวัดนากาโนะ (Lake Suwa, Nagano)
ทะเลสาบซุวะ (Lake Suwa) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) ในฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมดและมีความหนาของน้ำแข็งมากกว่า 10 ซม.
เมื่อถึงช่วงที่อากาศเย็นจนอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10 องศา ติดต่อกันหลายวัน จะได้พบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า โอมิวาตาริ (Omiwatari) หรือทางข้ามของพระเจ้า เกิดจากการขยายตัวและหดตัวของน้ำแข็งจากความต่างของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งบางครั้งก็จะได้ยินเสียงรอยแตกบนพื้นน้ำแข็งฟังคล้ายเสียงฟ้าร้องที่เรียกกันว่า Ice Thunder อีกด้วย จึงทำให้รู้สึกเหมือนพระเจ้ากำลังเดินบนพื้นน้ำแข็ง และเป็นที่มาของชื่อ แต่ด้วยผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ปัจจุบันการเกิดปรากฏการณ์โอมิวาตาริ (Omiwatari) จึงพบได้ได้น้อยลงกว่าแต่ก่อน
การเดินทาง : จากสถานีคามิ-ซุวะ (Kami-Suwa Station) เดินไปยังทะเลสาบ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
3. ธารน้ำแข็งอาบาชิริ จังหวัดฮอกไกโด (Abashiri Drift Ice, Hokkaido)
เมืองอาบาชิริ (Abashiri) ทางฝั่งตะวันออกของฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเมืองที่หันหน้าออกสู่ทะเลโอคอสต์ (Okhotsk) เมื่อถึงฤดูหนาวช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ก็จะได้พบปรากฏการณ์ธารน้ำแข็ง (Drift Ice) จำนวนมากที่ไหลมาจากขั้วโลกเหนือ ท่ามกลางอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -10 องศา กิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ก็คือสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Icebreaking ship) ชมธารน้ำแข็ง และตกปลาบนพื้นน้ำแข็ง โดยวิธีการตกปลาก็คือ เจาะรูบนพื้นน้ำแข็งบนทะเลสาบแล้วหย่อนเบ็ดลงไปเพื่อตกปลาวาคาซางิ (Wakasagi) ซึ่งที่นี่นับว่าเป็นแหล่งตกปลาบนพื้นน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมมากในฤดูหนาว
การเดินทาง : จากสถานีอาบาชิริ (Abashiri Station) ขึ้นรถบัส Abashiri Tourist Bus ไปลงที่ป้าย Michinoeki Drift Ice Breaker Terminal ใช้เวลา 10 นาที
4. ทะเลสาบอะคัง จังหวัดฮอกไกโด (Lake Akan, Hokkaido)
ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอะคัง (Akan National Park) เมืองคุชิโระ(Kushiro) เมื่อถึงฤดูหนาวทะเลสาบน้ำตื้นที่นี่ก็จะกลายเป็นผืนน้ำแข็งทั้งหมด รวมทั้งมีปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งเกิดจากเกล็ดน้ำแข็งลักษณะคล้ายดอกไม้บานอยู่ในทะเลสาบที่สามารถพบเห็นได้เฉพาะเวลาเช้าที่อากาศหนาวจัดเท่านั้น เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ดอกไม้น้ำแข็ง (Frost Flower)
นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดงานเทศกาลทะเลสาบน้ำแข็งอะคัง (Akan Lake Ice Festival) บนทะเลสาบในช่วงที่หนาวจัดและผิวน้ำในทะเลสาบแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งหนาแล้ว พร้อมทั้งมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น การแสดงเลื่อยน้ำแข็ง เกมบนน้ำแข็ง การจุดดอกไม้ไฟไปบนท้องฟ้าในฤดูหนาว เป็นต้น
การเดินทาง : จากสถานีโอทาโนะชิเกะ (Otanoshike Station) ขึ้นรถบัสประจำทางไปลงที่ Lake Akan ใช้เวลาประมาณเวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
5. ทะเลสาบโนโทโระ จังหวัดฮอกไกโด (Lake Notoro, Hokkaido)
ทะเลสาบโนโทโระ (Lake Notoro) และแหลมโนโทโระ (Cape Notoro) ในเมืองอาบาชิริ (Abashiri) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมปรากฏการณ์น้ำกลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาวช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่มีทิวทัศน์งดงามแปลกตาจากอุณหภูมิที่เย็นจัดและกระแสน้ำทะเลโอคอสต์ (Okhotsk) ซึ่งมีทั้งธารน้ำแข็งในทะเลบริเวณหน้าผาแหลมโนโทโระ มีปรากฏการณ์ที่น้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งบริเวณที่ตั้งแคมป์มิซากิ (Misaki Campground) กลายเป็นน้ำแข็ง จึงเรียกกันว่ามิซากิเฮียวบาคุ หรือ Misaki Icefall โดยเฉพาะตรงหน้าผาที่น้ำตกไหลลงสู่ทะเลโอคอสต์ เมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็งจึงกลายเป็นภาพทิวทัศน์แปลกตาที่หาชมได้เฉพาะที่นี่ในฤดูหนาวเท่านั้น
การเดินทาง : จากสถานีอาบาชิริ (Abashiri Station) ขึ้นรถบัส Abashiri Bus สาย Tokoro-Saromako Sakaeura ไปลงที่ป้าย Sango-Kusa Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)