All About Japan

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคโทโฮคุ

ใบไม้แดง Akita Aomori Fukushima Iwate Miyagi โทโฮคุ โทโฮคุฝั่งแปซิฟิค
แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคโทโฮคุ

ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่จะได้พบกับทิวทัศน์ที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นถือเป็นพื้นที่อุณหภูมิต่ำและใบไม้เปลี่ยนสีค่อนข้างเร็วโดยจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่เดือนตุลาคม และส่วนใหญ่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทางธรรมชาติหลากหลายสามารถเดินทางจากเมืองเซนได (Sendai) ทั้ง 10 แห่ง ดังต่อไปนี้

1. ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda), จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

1. ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda), จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

https://pixta.jp/

ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda) ตั้งอยู่ในในจังหวัดอะโอโมริ (Aomori) เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอีกทั้งยังเป็นจุดแรกๆ ที่เริ่มชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในฤดูใบไม้ร่วง บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,324 เมตร ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งกระเช้าไฟฟ้า (Hakkoda Ropeway) ขึ้นไปยังสถานีปลายทางบนยอดเขาโดยระหว่างทางก็จะได้เพลิดเพลินกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีด้านล่างรวมถึงทิวทัศน์ป่าไม้บนภูเขาที่แต่งแต้มไปด้วยสีเหลือง ส้ม แดง เป็นมุมกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้บางไปถ้าโชคดีก็มีโอกาสได้เห็นทั้งใบไม้เปลี่ยนสีกับหิมะสีขาวบนยอดเขาที่สถานีปลายทาง ซึ่งเป็นหิมะแรกของปีอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

เวลาทำการ :
เดือนมีนาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน 09.00-16.20 น.
กลางเดือนพฤศจิกายน -ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 09.00-15.40 น.
(หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

ค่าใช้จ่าย :
ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน / เด็ก 700 เยน
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,250 เยน / เด็ก 450 เยน

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วต่อนั่งรถบัสไปลงป้ายสถานีกระเช้าโรปเวย์ฮักโกะ Hakkoda Ropeway Eki-Mae ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

2. เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

2. เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) มีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามราวภาพวาดหลายจุดเนื่องจากมีธรรมชาติคือภูเขาและป่าที่โอบล้อม เช่น สถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ซึ่งเป็นสถานีที่สามารถชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจุดถ่ายภาพรถไฟช่วงที่กำลังข้ามสะพานไดอิจิเคียวเรียว (Tadami Daiichi Kyoryo Bridge) ซึ่งถือว่าเป็นวิวอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ และเป็นหนึ่งในวิวใบไม้เปลี่ยนสีคู่กับรถไฟที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) ต่อรถไฟสาย Ban-etsu West Line ไปลงสถานีไอซุ-วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tadami Line เพื่อไปยังจุดชมวิวรถไฟวิ่งข้ามสะพานที่สถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ซึ่งเป็นสถานีที่รถไฟสายทาดามิวิ่งผ่านโดยมีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง รวมใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที

หรืออีกวิธีหนึ่งคือเช่ารถยนต์ขับจากสถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ไปตามจุดชมวิว เช่น จุดพักรถโอเซะไคโดะ มิชิมะจุกุ (Michi no Eki Ozekaido Mishimajuku) ซึ่งอยู่ใกล้กับทางขึ้นจุดชมวิวหลัก

3. ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

3. ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

https://pixta.jp/

ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) ในเมืองเซนได (Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหนึ่งคือเป็นถนนที่มีต้นไม้ตลอดสองข้างทางหนาแน่นมากจนทำให้เซนได้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งต้นไม้ แขวงที่ถนนโจเซนจิตั้งอยู่ก็มีชื่อว่า แขวงอาโอบะ (Aoba-ku) ซึ่งแปลว่าใบไม้เขียวชอุ่ม

แต่เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง แนวต้นไม้ระยะทางราวๆ 700 เมตร แห่งนี้ก็จะเปลี่ยนปีสีเหลือง แต่ไม่ใช่สีเหลืองของใบแปะก๊วยเพราะต้นไม้ที่ปลูกริมสองฝั่งถนนนี้คือต้นเซลโคว่า (Zelkova) เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศของถนนโจเซนจิโดริก็จะมีลักษณะคล้ายอุโมงค์สีเหลืองที่สวยงามแปลกตาเหมาะกับการเดินชมวิวเพลินๆ เป็นอย่างยิ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถบัส Loople Sendai bus ลงที่ป้าย Jozenji-dori Ave. ใช้เวลาประมาณประมาณ 1 ชั่วโมง

4. หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

4. หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

https://pixta.jp/

หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley) ตั้งอยู่ในเมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นจุดชมวิวใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของภูมิภาค โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงแม่น้ำที่ไหลผ่านช่องหุบเขา เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ภาพใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง ที่ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าของแม่น้ำถือเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามมาก โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิวสะพานคามิโนะ-อิวาฮาชิ (Kamino Iwahashi) นอกจากนี้รอบๆ พื้นที่หุบเขาก็ยังมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากลักษณะภูมิประเทศให้ได้ชม เช่น น้ำตกที่เกิดจากธรรมชาติ เกาะแก่งและหินรูปทรงแปลกตา เหล่านี้เป็นต้น

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีรถบัสให้บริการรับส่งจากสถานีคาคุโนะดาเตะ แนะนำให้สอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านหน้าสถานี

5. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

5. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

https://pixta.jp/

หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen-kyo Hot Springs Village) เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของภูเขานิวโตะ (Mt. Nyuto) ในเขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาชิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) ประกอบด้วยหมู่บ้านซึ่งมีบริการที่พักให้เลือกหลายรูปแบบหรือหากไม่ต้องการพักแรมก็มีโรงอาบน้ำสาธารณะเป็นทางเลือกเช่นกันและช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วง ทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาแช่อนเซ็นกลางแจ้งซึ่งจะได้ผ่อนคลายกับทิวทัศน์ธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีที่รายล้อม

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วต่อรถบัสไปลงที่ Nyuto Onsen bus stop ใช้เวลา 45 นาที

6. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

6. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

https://pixta.jp/

หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village) เป็นหมู่บ้านอนเซ็นทางตอนเหนือของจังหวัดมิยางิ (Miyagi) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงนอกจากจะได้แช่อนเซ็นแล้วก็ยังได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามและได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะที่บริเวณหุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านโดยมีจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดอย่าง นารุโกะเรสต์เฮาส์ (Naruko Rest House) บริเวณเลียบหุบเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปสะพานอันมีชื่อเสียง และที่น่าสนใจอีกอย่างคือตุ๊กตาไม้แกะสลักแบบโบราณ นารุโกะ โคเคชิ (Naruko Kokeshi) ของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของที่นี่

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีฟุรุคาวะ (Furukawa Station) ใช้เวลา 12 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Rikuu East Line ไปลงที่สถานีนารุโกะอนเซ็น (Naruko-Onsen Station) ใช้เวลาอีกประมาณ 45 นาที

7. ฮาชิมันไต (Hachimantai), จังหวัดอาคิตะ (Akita) และอิวาเตะ (Iwate)

7. ฮาชิมันไต (Hachimantai), จังหวัดอาคิตะ (Akita) และอิวาเตะ (Iwate)

https://pixta.jp/

ฮาชิมันไต (Hachimantai) คือพื้นที่ราบสูงภูเขาไฟขนาดใหญ่มีความสูงราวๆ 1,400-1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและครอบคลุมระหว่าง 2 จังหวัดคือจังหวัดอาคิตะ (Akita) กับอิวาเตะ (Iwate) ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบน้อยใหญ่หลายจุด ในฤดูใบไม้ร่วงพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยสีสันของทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเหลือง ส้ม แดง สุดลูกหูลูกตา และจุดที่ได้รับความนิยมมากคือถนนแอสพีทไลน์ (Hachimantai Aspite Line) ซึ่งเป็นเส้นทางตัดผ่านภูเขาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีตลอดสองข้างทางสุดตระการจึงมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจขับรถชมวิวในฤดูใบไม้ร่วงกันมากในทุกๆ ปี

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน-กลางเดือนตุลาคม

หมายเหตุ : เส้นทางแอสไปต์ไลน์ (Aspite Line) จะปิดเส้นทางในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ของทุกปี

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโมริโอกะ (Morioka Station) ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ Hachimantai-chojo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจะเช่ารถยนต์ขับเที่ยวชมวิวก็ได้

8. อุระบันได (Urabandai) และทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

8. อุระบันได (Urabandai) และทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

อุระบันได (Urabandai) เป็นพื้นที่ธรรมชาติบริเวณทางเหนือของจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) ที่แวดล้อมไปด้วยป่า ภูเขาและบึงน้ำขนาดใหญ่ ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้พบกับทิวทัศน์ที่แต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้เหลือง ส้ม แดง และมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์หลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ เช่น เส้นทางเทรคกิ้งชมใบไม้แดงบริเวณเชิงเขาอุระบันได ชมทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma) หรือจะเลือกสัมผัสประสบการณ์พายเรือแคนูในบึงยานากิ (Yanaginuma) พร้อมทั้งชมภาพใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนจากผืนน้ำก็เป็นอีกทิวทัศน์ที่ได้รับความสนใจมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Ban-Etsu West Line ไปลงรถที่สถานีอินาวะชิโระ (Inawashiro Station) รวมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20นาที จากนั้นต่อรถบัส Bandai-tobu ไปลงที่ Urabandai ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที

9. หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge), จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)

9. หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge), จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)

https://pixta.jp/

หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge) มีลักษณะเป็นหุบเขาที่ห้อมล้อมด้วยโขดหินขนาดใหญ่กับช่องเขาที่มีหน้าผาสูงประมาณ 50 เมตรตั้งตระหง่านอยู่สองฝั่ง รวมทั้งเกาะแก่งกับหินผาจำนวนมาก ไฮไลท์ของที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วงคือการนั่งเรือชมทิวทัศน์ใบไม้แดงอย่างใกล้ชิดไปตามลำธาร เป็นระยะเวลาราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง และไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวธรรมชาติเท่านั้นเพราะขณะล่องเรือยังจะได้ฟังเสียงเพลงพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ขับกล่อมโดยคนพายเรือ อีกทั้งจุดชมวิวบนฝั่งก็เป็นมุมมองที่แตกต่างออกไปซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
ค่าเข้าชม : หากสนใจล่องเรือ มีค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีอิจิโนเซกิ (Ichinoseki Station) ต่อรถไฟสาย JR Ofunato Line ไปลงสถานีเกบิเค (Geibikei Station) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นเดินอีกประมาณ 5 นาที

10. บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

10. บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline) คือชื่อถนนเส้นทางพิเศษในจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราวๆ 1,500 เมตร และถือเป็นถนนสายท่องเที่ยวสำหรับการขับรถยนต์ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงโดยมีระยะทางรวมประมาณ 28.7 กิโลเมตร โดยเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างทาคายุอนเซ็น (Takayu Onsen) กับเส้นทางขึ้นไปสู่ภูเขาสึจิยุ (Tsujiyu Pass) เมื่อขับรถผ่านโค้งต่างๆ ก็จะได้พบสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีรอบตัว นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวโจโดไดระเรสต์เฮาส์ (Jodo-daira Rest House) ที่สามารถพักชมได้ทัศนียภาพมุมสูงโดยของภูเขาไฟตัดกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีแบบพาโนรามาด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

เวลาทำการ : 09.00-16.30 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีฟุคุชิมะ (Fukushima Station) ใช้เวลา 26 นาที จากนั้นต่อรถบัส Fukushima Kotsu – Azuma Skyline Tour Bus ไปลงที่จุดชมวิว Jodo-daira Rest House ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
(รถบัสวิ่งให้บริการช่วงฤดูใบไม้ร่วงทุกวันระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน นอกเหนือจากนี้ให้บริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์) หรืออีกวิธีก็คือเช่ารถยนต์เพื่อขับชมวิวไปตามถนน Bandai-Azuma Skyline

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)

know-before-you-go