allabout japan
allabout japan

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคโทโฮคุ

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคโทโฮคุ

ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่จะได้พบกับทิวทัศน์ที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นถือเป็นพื้นที่อุณหภูมิต่ำและใบไม้เปลี่ยนสีค่อนข้างเร็วโดยจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่เดือนตุลาคม และส่วนใหญ่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทางธรรมชาติหลากหลายสามารถเดินทางจากเมืองเซนได (Sendai) ทั้ง 10 แห่ง ดังต่อไปนี้

By Japan Travel Editor
1. ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda), จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

https://pixta.jp/

1. ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda), จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

ภูเขาฮักโกดะ (Mt.Hakkoda) ตั้งอยู่ในในจังหวัดอะโอโมริ (Aomori) เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอีกทั้งยังเป็นจุดแรกๆ ที่เริ่มชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในฤดูใบไม้ร่วง บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,324 เมตร ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งกระเช้าไฟฟ้า (Hakkoda Ropeway) ขึ้นไปยังสถานีปลายทางบนยอดเขาโดยระหว่างทางก็จะได้เพลิดเพลินกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีด้านล่างรวมถึงทิวทัศน์ป่าไม้บนภูเขาที่แต่งแต้มไปด้วยสีเหลือง ส้ม แดง เป็นมุมกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้บางไปถ้าโชคดีก็มีโอกาสได้เห็นทั้งใบไม้เปลี่ยนสีกับหิมะสีขาวบนยอดเขาที่สถานีปลายทาง ซึ่งเป็นหิมะแรกของปีอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

เวลาทำการ :
เดือนมีนาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน 09.00-16.20 น.
กลางเดือนพฤศจิกายน -ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 09.00-15.40 น.
(หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

ค่าใช้จ่าย :
ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน / เด็ก 700 เยน
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,250 เยน / เด็ก 450 เยน

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วต่อนั่งรถบัสไปลงป้ายสถานีกระเช้าโรปเวย์ฮักโกะ Hakkoda Ropeway Eki-Mae ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

2. เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

2. เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

เส้นทางรถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) มีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามราวภาพวาดหลายจุดเนื่องจากมีธรรมชาติคือภูเขาและป่าที่โอบล้อม เช่น สถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ซึ่งเป็นสถานีที่สามารถชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจุดถ่ายภาพรถไฟช่วงที่กำลังข้ามสะพานไดอิจิเคียวเรียว (Tadami Daiichi Kyoryo Bridge) ซึ่งถือว่าเป็นวิวอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ และเป็นหนึ่งในวิวใบไม้เปลี่ยนสีคู่กับรถไฟที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) ต่อรถไฟสาย Ban-etsu West Line ไปลงสถานีไอซุ-วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tadami Line เพื่อไปยังจุดชมวิวรถไฟวิ่งข้ามสะพานที่สถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ซึ่งเป็นสถานีที่รถไฟสายทาดามิวิ่งผ่านโดยมีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง รวมใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที

หรืออีกวิธีหนึ่งคือเช่ารถยนต์ขับจากสถานีไอซึ-มิยาชิตะ (Aizu-Miyashita Station) ไปตามจุดชมวิว เช่น จุดพักรถโอเซะไคโดะ มิชิมะจุกุ (Michi no Eki Ozekaido Mishimajuku) ซึ่งอยู่ใกล้กับทางขึ้นจุดชมวิวหลัก

3. ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

https://pixta.jp/

3. ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) ในเมืองเซนได (Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหนึ่งคือเป็นถนนที่มีต้นไม้ตลอดสองข้างทางหนาแน่นมากจนทำให้เซนได้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งต้นไม้ แขวงที่ถนนโจเซนจิตั้งอยู่ก็มีชื่อว่า แขวงอาโอบะ (Aoba-ku) ซึ่งแปลว่าใบไม้เขียวชอุ่ม

แต่เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง แนวต้นไม้ระยะทางราวๆ 700 เมตร แห่งนี้ก็จะเปลี่ยนปีสีเหลือง แต่ไม่ใช่สีเหลืองของใบแปะก๊วยเพราะต้นไม้ที่ปลูกริมสองฝั่งถนนนี้คือต้นเซลโคว่า (Zelkova) เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศของถนนโจเซนจิโดริก็จะมีลักษณะคล้ายอุโมงค์สีเหลืองที่สวยงามแปลกตาเหมาะกับการเดินชมวิวเพลินๆ เป็นอย่างยิ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถบัส Loople Sendai bus ลงที่ป้าย Jozenji-dori Ave. ใช้เวลาประมาณประมาณ 1 ชั่วโมง

4. หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

https://pixta.jp/

4. หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

หุบเขาดาคิกะเอริ (Dakigaeri Valley) ตั้งอยู่ในเมืองเซมโบกุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นจุดชมวิวใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของภูมิภาค โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงแม่น้ำที่ไหลผ่านช่องหุบเขา เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ภาพใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง ที่ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าของแม่น้ำถือเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามมาก โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิวสะพานคามิโนะ-อิวาฮาชิ (Kamino Iwahashi) นอกจากนี้รอบๆ พื้นที่หุบเขาก็ยังมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากลักษณะภูมิประเทศให้ได้ชม เช่น น้ำตกที่เกิดจากธรรมชาติ เกาะแก่งและหินรูปทรงแปลกตา เหล่านี้เป็นต้น

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีรถบัสให้บริการรับส่งจากสถานีคาคุโนะดาเตะ แนะนำให้สอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านหน้าสถานี

5. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

https://pixta.jp/

5. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village), จังหวัดอาคิตะ (Akita)

หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen-kyo Hot Springs Village) เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของภูเขานิวโตะ (Mt. Nyuto) ในเขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาชิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) ประกอบด้วยหมู่บ้านซึ่งมีบริการที่พักให้เลือกหลายรูปแบบหรือหากไม่ต้องการพักแรมก็มีโรงอาบน้ำสาธารณะเป็นทางเลือกเช่นกันและช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วง ทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาแช่อนเซ็นกลางแจ้งซึ่งจะได้ผ่อนคลายกับทิวทัศน์ธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีที่รายล้อม

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีทาซาวะโกะ (Tazawako Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วต่อรถบัสไปลงที่ Nyuto Onsen bus stop ใช้เวลา 45 นาที

6. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

https://pixta.jp/

6. หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village), จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

หมู่บ้านน้ำพุร้อน นารุโกะอนเซ็น (Naruko Onsen Hot Springs Village) เป็นหมู่บ้านอนเซ็นทางตอนเหนือของจังหวัดมิยางิ (Miyagi) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงนอกจากจะได้แช่อนเซ็นแล้วก็ยังได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามและได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะที่บริเวณหุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านโดยมีจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดอย่าง นารุโกะเรสต์เฮาส์ (Naruko Rest House) บริเวณเลียบหุบเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปสะพานอันมีชื่อเสียง และที่น่าสนใจอีกอย่างคือตุ๊กตาไม้แกะสลักแบบโบราณ นารุโกะ โคเคชิ (Naruko Kokeshi) ของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของที่นี่

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับโรงแรมและอนเซ็นแต่ละแห่ง

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีฟุรุคาวะ (Furukawa Station) ใช้เวลา 12 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Rikuu East Line ไปลงที่สถานีนารุโกะอนเซ็น (Naruko-Onsen Station) ใช้เวลาอีกประมาณ 45 นาที

7. ฮาชิมันไต (Hachimantai), จังหวัดอาคิตะ (Akita) และอิวาเตะ (Iwate)

https://pixta.jp/

7. ฮาชิมันไต (Hachimantai), จังหวัดอาคิตะ (Akita) และอิวาเตะ (Iwate)

ฮาชิมันไต (Hachimantai) คือพื้นที่ราบสูงภูเขาไฟขนาดใหญ่มีความสูงราวๆ 1,400-1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและครอบคลุมระหว่าง 2 จังหวัดคือจังหวัดอาคิตะ (Akita) กับอิวาเตะ (Iwate) ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบน้อยใหญ่หลายจุด ในฤดูใบไม้ร่วงพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยสีสันของทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเหลือง ส้ม แดง สุดลูกหูลูกตา และจุดที่ได้รับความนิยมมากคือถนนแอสพีทไลน์ (Hachimantai Aspite Line) ซึ่งเป็นเส้นทางตัดผ่านภูเขาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีตลอดสองข้างทางสุดตระการจึงมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจขับรถชมวิวในฤดูใบไม้ร่วงกันมากในทุกๆ ปี

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน-กลางเดือนตุลาคม

หมายเหตุ : เส้นทางแอสไปต์ไลน์ (Aspite Line) จะปิดเส้นทางในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ของทุกปี

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโมริโอกะ (Morioka Station) ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ Hachimantai-chojo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจะเช่ารถยนต์ขับเที่ยวชมวิวก็ได้

8. อุระบันได (Urabandai) และทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

8. อุระบันได (Urabandai) และทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

อุระบันได (Urabandai) เป็นพื้นที่ธรรมชาติบริเวณทางเหนือของจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) ที่แวดล้อมไปด้วยป่า ภูเขาและบึงน้ำขนาดใหญ่ ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้พบกับทิวทัศน์ที่แต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้เหลือง ส้ม แดง และมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์หลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ เช่น เส้นทางเทรคกิ้งชมใบไม้แดงบริเวณเชิงเขาอุระบันได ชมทะเลสาบห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma) หรือจะเลือกสัมผัสประสบการณ์พายเรือแคนูในบึงยานากิ (Yanaginuma) พร้อมทั้งชมภาพใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนจากผืนน้ำก็เป็นอีกทิวทัศน์ที่ได้รับความสนใจมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Ban-Etsu West Line ไปลงรถที่สถานีอินาวะชิโระ (Inawashiro Station) รวมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20นาที จากนั้นต่อรถบัส Bandai-tobu ไปลงที่ Urabandai ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที

9. หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge), จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)

https://pixta.jp/

9. หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge), จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)

หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge) มีลักษณะเป็นหุบเขาที่ห้อมล้อมด้วยโขดหินขนาดใหญ่กับช่องเขาที่มีหน้าผาสูงประมาณ 50 เมตรตั้งตระหง่านอยู่สองฝั่ง รวมทั้งเกาะแก่งกับหินผาจำนวนมาก ไฮไลท์ของที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วงคือการนั่งเรือชมทิวทัศน์ใบไม้แดงอย่างใกล้ชิดไปตามลำธาร เป็นระยะเวลาราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง และไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวธรรมชาติเท่านั้นเพราะขณะล่องเรือยังจะได้ฟังเสียงเพลงพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ขับกล่อมโดยคนพายเรือ อีกทั้งจุดชมวิวบนฝั่งก็เป็นมุมมองที่แตกต่างออกไปซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
ค่าเข้าชม : หากสนใจล่องเรือ มีค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน

การเดินทาง: จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีอิจิโนเซกิ (Ichinoseki Station) ต่อรถไฟสาย JR Ofunato Line ไปลงสถานีเกบิเค (Geibikei Station) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นเดินอีกประมาณ 5 นาที

10. บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

https://pixta.jp/

10. บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline), จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

บันได-อาซุมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Skyline) คือชื่อถนนเส้นทางพิเศษในจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราวๆ 1,500 เมตร และถือเป็นถนนสายท่องเที่ยวสำหรับการขับรถยนต์ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงโดยมีระยะทางรวมประมาณ 28.7 กิโลเมตร โดยเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างทาคายุอนเซ็น (Takayu Onsen) กับเส้นทางขึ้นไปสู่ภูเขาสึจิยุ (Tsujiyu Pass) เมื่อขับรถผ่านโค้งต่างๆ ก็จะได้พบสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีรอบตัว นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวโจโดไดระเรสต์เฮาส์ (Jodo-daira Rest House) ที่สามารถพักชมได้ทัศนียภาพมุมสูงโดยของภูเขาไฟตัดกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีแบบพาโนรามาด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

เวลาทำการ : 09.00-16.30 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : จากสถานีเซนได (Sendai Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีฟุคุชิมะ (Fukushima Station) ใช้เวลา 26 นาที จากนั้นต่อรถบัส Fukushima Kotsu – Azuma Skyline Tour Bus ไปลงที่จุดชมวิว Jodo-daira Rest House ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
(รถบัสวิ่งให้บริการช่วงฤดูใบไม้ร่วงทุกวันระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน นอกเหนือจากนี้ให้บริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์) หรืออีกวิธีก็คือเช่ารถยนต์เพื่อขับชมวิวไปตามถนน Bandai-Azuma Skyline

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)

Japan Travel Editor

เรารวบรวมไอเดียเที่ยวญี่ปุ่นอันหลากหลายมาให้คุณ ตั้งแต่ถนนใหญ่สายช้อปปิ้งในเมืองโตเกียว วัดและศาลเจ้าโบราณสุดขลัง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งดอกซากุระสีชมพู ใบไม้แดง วิวหิมะขาวๆ ทีมงานของเราจะนำข้อมูลดีๆมาให้คุณ