แนะนำข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมในญี่ปุ่น
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีสัดส่วนชาวมุสลิมไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันการท่องเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับชาวมุสลิมนั้นสามารถทำได้ง่ายและไม่มีอุปสรรคเหมือนในอดีต โดยมีทั้งเว็บไซต์และแอปที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลร้านอาหารและห้องละหมาด และเราได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาฝากกัน
การเตรียมข้อมูลเบื้องต้น
ปัจจุบันการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวมุสลิมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียวหรือโอซาก้านั้นก็มีการให้บริการทั้งในด้านอาหาร ที่พัก รวมถึงสถานที่ละหมาดเอาไว้อย่างครบถ้วน แต่เนื่องจากข้อมูลการท่องเที่ยวสำหรับชาวมุสลิมนั้นอาจเป็นข้อมูลที่มีความเฉพาะด้านพอสมควรทั้งสำหรับคนทั่วไปและชาวญี่ปุ่น การเตรียมข้อมูลไปล่วงหน้าจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ และปัจจุบันก็มีสื่อและเว็บไซต์มากมายที่นำเสนอข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับชาวมุสลิมโดยเฉพาะ เช่นเว็บไซต์ MuslimGuide.jp (ภาษาอังกฤษ) ที่มีทั้งการทำแผนที่และระบบค้นหาข้อมูลร้านอาหาร ที่พัก และห้องละหมาดตามเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นเอาไว้อย่างสะดวกสบาย
ในญี่ปุ่นมีโรงแรมที่เหมาะกับชาวมุสลิมหรือไม่?
จากจำนวนโรงแรมในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีโรงแรมหลายแห่งเพิ่มพื้นที่และการบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมด้วยเช่นกัน ทั้งร้านอาหารฮาลาล พรมสำหรับการละหมาด และพื้นที่ละหมาดที่หันไปทางเมกกะทั้งแบบในห้องส่วนตัวหรือพื้นที่ส่วนกลาง มีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เรื่องร้านอาหารฮาลาลและมัสยิดในท้องถิ่น ซึ่งที่พักและการบริการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะพบได้ตามเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นเช่นโตเกียวและโอซาก้า
ที่พักในรูปแบบอพาร์ทเมนต์ให้เช่าหรือห้องพักในโรงแรมแบบมีครัวพร้อมอุปกรณ์ทำครัวอยู่ในห้องก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่ต้องการมั่นใจถึงกระบวนการเตรียมอาหารที่ถูกหลักฮาลาลจริงๆ โดยสามารถซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่นมาปรุงอาหารในที่พักได้ด้วยตัวเอง
จะหาอาหารแบบฮาลาลในญี่ปุ่นได้ที่ไหนบ้าง?
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในญี่ป่น อาหารและวัตถุดิบต่างๆ ที่มีการรับรองว่าถูกหลักฮาลาลเช่นเนื้อสัตว์ (แช่แข็ง) เครื่องเทศ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจหาซื้อได้ยากตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป แต่ส่วนใหญ่จะมีจำหน่ายตามร้านขายของชำแนวเอเชียสโตร์ที่วางขายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย เช่นอินเดีย ไทย หรืออินโดนีเซีย ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์แบบฮาลาลรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ สำหรับชาวมุสลิมที่ท่องเที่ยวหรือพักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานาน ปัจจุบันก็สามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ฮาลาลทางอินเตอร์เน็ตได้จากเว็บไซต์ต่างๆ
อ่านบทความเต็ม: www.halalgourmet.jp (อังกฤษ)
ข้อควรระวังในเรื่องอาหาร
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีอาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่หลากหลายทั้งไก่ เนื้อ หรืออาหารทะเลหลากหลายชนิด แต่ข้อสำคัญก็คือวัตถุดิบหลักในการทำน้ำซุปพื้นฐาน รวมถึงน้ำจิ้มต่างๆ ในอาหารญี่ปุ่นหลายชนิดนั้นมักจะมีส่วนผสมของ “มิริน” ซึ่งถือเป็นแอลกอฮอล์ที่เป็นอาหารต้องห้ามของชาวมุสลิมอยู่ด้วย เว้นแต่ว่ามีการติดฉลากว่า 'mu-ten-ka' (無添加) ซึ่งหมายถึงอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเติมแต่งและส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ในขนมปัง ขนมขบเคี้ยว และของหวานต่างๆ ก็อาจมีส่วนผสมของเจลาตินและเนยที่ทำจากไขมันสัตว์ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักฮาลาลผสมอยู่เช่นกัน
ร้านอาหารบางแห่งในญี่ปุ่นอาจโฆษณาว่ามีอาหารที่ทำจากวัตถุดิบซึ่งถูกหลักของชาวมุสลิม แต่การปรุงอาหารอาจไม่ได้ทำในครัวแยกตามหลักฮาลาลโดยเฉพาะ รวมถึงร้านอาหารส่วนใหญ่ก็มักจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติด้วย จึงแนะนำให้นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมศึกษาและเตรียมข้อมูลร้านอาหารฮาลาลเอาไว้ล่วงหน้า หรือสอบถามข้อมูลจากผู้ที่มีความรู้เรื่องอาหารฮาลาลในพื้นที่นั้นๆ
ห้องละหมาด
ห้องละหมาดถือเป็นหัวใจหลักของชาวมุสลิมที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่กับแผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่นของตนเอง โดยจากข้อมูลเบื้องต้น ห้องละหมาดสามารถพบได้โดยทั่วไปตามเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นเช่นโตเกียว โอซาก้า รวมถึงซัปโปโร ซึ่งมีทั้งห้องละหมาดที่อยู่ในโรงแรม ร้านอาหารสำหรับชาวมุสลิม รวมถึงสมาคมเกี่ยวกับมุสลิมในญี่ปุ่น และยังพบได้ตามสนามบินและสถานีรถไฟหลักของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ในโรงแรมใหญ่ๆ บางแห่งยังมีการเตรียมห้องพักให้เหมาะสมกับเงื่อนไขในการใช้เป็นห้องละหมาดไปพร้อมกันอีกด้วย เช่นการทำกิบรัต การเตรียมพรมปูพื้น และผ้าขนหนูเพิ่มเติมสำหรับการทำความสะอาดร่างกาย
มัสยิดในญี่ปุ่น
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีสัดส่วนประชากรที่เป็นมุสลิมค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังมีการสร้างมัสยิดบ้าง ตามเมืองใหญ่หลายแห่งในญี่ปุ่น โดยสามารถหาข้อมูลของมัสยิดในแต่ละเมืองได้จากเว็บไซต์หรือแอปที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ มัสยิดบางแห่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีความสวยงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ตัวอย่างเช่น มัสยิดโตเกียวจามี (Tokyo Camii & Turkish Culture Center)
ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินโยโยงิ อุเอฮาระ (Yoyogi-Uehara Station) ประมาณ 5 นาที ถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1938 มีความสวยงามทั้งภายนอกและภายใน โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้นมีลักษณะที่คล้ายมัสยิดบลูมอสก์ (Blue Mosque) ชื่อดังของประเทศตุรกี ภายในมัสยิดก็มีการตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างสวยงาม เป็นที่เที่ยวสวยๆที่แนะนำอีกแห่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นมุสลิมหรือไม่
บริการนำเที่ยวสำหรับชาวมุสลิมในญี่ปุ่น
นอกจากการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเองแล้ว นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมยังสามารถใช้บริการทัวร์สำหรับชาวมุสลิมโดยเฉพาะได้จากแหล่งต่างๆ เช่นจองผ่านเว็บไซต์อย่าง Airbnb หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเมืองต่างๆ (อาจมีเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น) ซึ่งรูปแบบทัวร์ส่วนใหญ่จะเป็นการพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง รวมถึงพาไปทานอาหารในร้านที่รับรองหลักฮาลาล และมีกำหนดเวลาสำหรับการละหมาดในช่วงเวลาต่างๆ ของวันเอาไว้อย่างชัดเจน