เริ่มจากช่วงเช้า เราจะเริ่มเดินทางจากบริเวณสถานีโมโตมาชิ-ชูคะไก (Motomachi-Chukagai Station) และเริ่มเที่ยวจากสถานีนี้ค่ะ ใครที่พักที่อื่นให้เดินทางมาที่นี่ก่อน

แต่ใครที่เริ่มจากจากโตเกียว เราไม่แนะนำให้นั่งชินคังเซนไปลงที่ Shin-Yokohama นะคะ เพราะต้องต่อรถไฟใต้ดินอีกครั้งและโดยรวมจะช้ากว่า (เพราะโยโกฮามานั้นใกล้โตเกียวนิดเดียว) จึงขอแนะนำให้นั่งรถธรรมดาสาย JR Yokosuka, JR Keihin Tohoku หรือ JR Tokaido ไปลงที่สถานีโยโกฮามาได้โดยตรงค่ะ (ไม่ใช่ Shin-Yokohama) ถึงแล้วก็นั่งรถไฟ Minatomirai Line ต่อไปสถานีโมโตมาชิ-ชูคะไก ได้เลย

จุดหมายแรกของเราคือ สวนยามาชิตะ (Yamashita Park) ตั้งอยู่ริมทะเลของอ่าวโยโกฮาม่า ที่นี่เป็นทั้งสวนสาธารณะเพื่อพักผ่อนหย่อนใจและจุดชมวิวท่าเรือโยโกฮาม่า ที่มองเห็นเรือหลากหลายประเภทได้อย่างใกล้ชิด ภายในบริเวณสวนก็มีจุดให้เราเดินเที่ยว ถ่ายรูปวิวสวยๆ อย่างเพลิดเพลินทั่วทั้งสวน เช่น ดอกไม้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะสวนดอกกุหลาบสีสันต่างๆ ที่มีให้ชมตลอดปีค่ะ แต่ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ว่ากันว่าจะสวยที่สุด

สวนยามาชิตะ (Yamashita Park)
การเดินทาง : เดินประมาณ 3 นาที จากสถานีโมโตมาชิ-ชูคะไก (Motomachi-Chukagai Stattion)

ต่อจากสวนยามาชิตะ จุดหมายต่อไปเราก็จะเดินต่ออีกนิดหน่อยไปที่สวนโซโนะฮานะ (Zou-no-hana Park) หรือสวนงวงช้าง Elephant Nose Park ชื่อนี้มีที่มาจากการที่แนวป้องกันคลื่นด้านติดชายฝั่งของสวนสาธารณะแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายงวงช้างนั่นเองค่ะ เป็นสวนอีกแห่งที่บรรยากาศดีมาก จากสวนนี้มองเห็นตึกสำคัญๆของโยโกฮามาหลายแห่ง วิวริมทะเลสวยงาม เดินเล่นถ่ายรูปกันได้หลายมุมเลย มีพื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้งริมอ่าว มุมนี้ถ่ายรูปสวยมาก แล้วก็ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ชื่อ Zou-no-hana Café ถ้าสนใจก็เข้าไปหาอะไรดื่ม นั่งเล่นชมวิวด้วยก็ได้ค่ะ ถ้ากินข้าวตอนก่อนออกเดินทาง ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะกับกาแฟซักแก้วพอดี

สวนโซโนะฮานะ (Zou-no-hana Park)
การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาที จากสวนยามาชิตะ (Yamashita Park)

จากสวนโซโนะฮานะเราจะเดินต่อไปถึงโกดังอิฐแดง (Yokohama Red Brick Warehouse) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ไปถึงก็จะเจอตึกสีแดงทรงยุโรปโบราณโดดเด่นเป็นสง่า เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์วินเทจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งหมด 2 หลัง เดินถึงกันได้ ด้านในมีการจัดพื้นที่เป็นศูนย์การค้า ร้านอาหาร คอฟฟี่ช็อป ร้านค้าหลากหลายประเภท ส่วนรอบๆ พื้นที่ภายนอกอาคารก็มีอีเวนท์ที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การแสดงดนตรี แล้วก็มีซุ้มขายอาหารแบบแผงลอยที่รับประทานไป ชมวิวทะเลไปพร้อมๆกันได้ด้วย สำหรับที่นี่จะใช้เวลานานแค่ไหนก็แล้วแต่ค่ะ ถ้าชอบช้อปปิ้งก็ใช้เวลาที่นี่เพิ่มได้เลย ถ้าไม่ช้อปก็เดินต่อไปยังที่ต่อไปค่ะ

Yokohama Red Brick Warehouse
การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาที ต่อไปจากสวนโซโนะฮานะ (Zou-no-hana Park) ในทิศทางตรงกันข้ามกับสวนยามาชิตะ

และก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของช่วงเช้านี้ค่ะ เดินจากโกดังอิฐแดงไปประมาณ 8 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วย (CUPNOODLES MUSEUM YOKOHAMA) ด้านในมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของบะหมี่ของบริษัทนิชชินที่คนไทยเราก็รู้จักกันดีตั้งแต่สมัยริเริ่มจนถึงปัจจุบัน รวมถึงประวัติศาสตร์ของบะหมี่สำเร็จรูปชนิดแรกของโลก Chicken Ramen

หลังจากนั้นเราก็ได้ลองเวิร์กชอปทำบะหมี่ถ้วยกันด้วยค่ะ โดยหลังจากซื้อตั๋วและต่อคิวแล้ว สถานที่ก็จะอยู่บนชั้น 3 ทุกคนที่เข้าร่วมจะต้องซื้อถ้วยบะหมี่เปล่าคนละถ้วยจากเครื่องขายอัตโนมัติเพื่อตกแต่งถ้วยบะหมี่หนึ่งเดียวในโลกของตัวเอง จากนั้นก็นำบะหมี่ใส่ถ้วย แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือเลือกซุปและเครื่องปรุงรส เช่นรสแกงกะหรี่ เลือกท้อปปิ้งอีก 4 อย่างตามใจชอบ ปิดฝา ห่อพลาสติก ซีลด้วยความร้อน ก็จะได้ออกมาเป็นคัพนู้ดเดิ้ลออริจินัลที่เราทำเอง ได้เป็นของที่ระลึกกลับบ้านค่ะ (ไม่ได้เอาไว้กินทันทีนะ)

CUPNOODLES MUSEUM YOKOHAMA
การเดินทาง : เดินประมาณ 8 นาที จาก โกดังอิฐแดง (Yokohama Red Brick Warehouse)
เวลาทำการ : 10:00-18:00 น. (ทางเข้าเปิดถึง 17:00 น.) ปิดทำการในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และหยุดทุกวันอังคาร (แต่ถ้าอังคารเป็นวันหยุดจะเลื่อนไปปิดวันต่อไป)
มีค่าเข้าชม 500 เยน นักเรียนมัธยมปลายลงไปฟรี

ทำบะหมี่เสร็จก็ชักจะเริ่มหิวแล้วค่ะ มื้อเที่ยงวันนี้แพลนไว้ว่าจะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่ไชน่าทาวน์โยโกฮาม่า ก่อนอื่นก็ต้องเดินจากมิวเซียมไปขึ้นรถไฟสถานีมินาโตะมิไร (Minatomirai Station) ไปลงที่สถานี โมโตมาชิ-ชูคะไก (Motomachi-Chukagai Station) ซึ่งก็คือสถานีที่เป็นจุดเริ่มต้นทริปของเราเมื่อเช้า แต่คราวนี้เราจะไม่เดินไปทางสวนยามาชิตะแล้ว เราเดินออกทางออกหมายเลย 3 ตรงไปย่านไชน่าทาวน์ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที ก็ถึงแล้ว และก็จะได้พบกับสองข้างทางที่แน่นอนว่าเต็มไปด้วยร้านขายอาหารสไตล์จีนๆให้เลือกมากมาย บรรยากาศโดยรวมที่นี่ก็เป็นย่านไชน่าทาวน์ที่คึกคัก สนุกสนาน ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูติ่มซำ เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาที่มีใส้ให้เลือกหลากหลาย อาหารประเภทเส้นต่างๆ อาหารจีนทั่วไปเช่นข้าวผัดให้เลือกรับประทานได้ตามใจชอบ มีทั้งแบบนั่งรับประทานในร้านแล้วก็แบบสตรีทฟู้ดเดินกินได้ด้วย ถ้าใครชอบอาหารยังไงก็ขอแนะนำให้มาลองที่นี่

Chinatown Yokohama
การเดินทาง : เดิน 3 นาทีจาก สถานีโมโตมาชิ-ชูคะไก (Motomachi-Chukagai Stattion)

หลังจากทานมื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายเราจะพาไปเดินช้อปปิ้งกันค่ะ จากไชน่าทาวน์เดินต่อไปประมาณ 10 นาที ก็จะถึงย่านช้อปปิ้ง โมโตมาชิ ช้อปปิ้งสตรีท (Motomachi shopping street) ไปถึงตรงทางเข้าก็จะเห็นซุ้มประตูนกฟีนิกซ์ที่เป็นสัญลักษณ์บอกว่าเรามาถึงถนนสายช้อปปิ้งแล้ว ระหว่างทางเดินทั้งสองฝั่งถนนก็จะได้พบกับร้านค้ามากมายหลายประเภท เช่นสินค้าแบรนด์เนมท้องถิ่นสไตล์โยโกฮาม่า รวมถึงแบรนด์เนมดังระดับโลกแบรนด์อื่นก็มีเช่นกัน แล้วก็ยังมีคาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านขนมอร่อยๆ บรรยากาศดีตลอดสองข้างทางเลยค่ะ นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช้อปปิ้งที่เราอยากแนะนำ ใกล้เคียงกับย่านกินซ่าหรือชินจูกุ แต่คนน้อยบรรยากาศดีกว่ามากค่ะ

Motomachi shopping street
การเดินทาง: เดินเท้าไม่เกิน 10 นาที จากย่านไชน่าทาวน์โยโกฮาม่า

และก่อนจะไปยังที่ต่อไป มาเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนกันก่อนมั้ย? สถานที่ๆเราจะไปต่อไปคือบ้านชาวต่างชาติในย่านยามาเตะซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปและคอสเพลย์ยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง โดยชุดที่คนนิยมใส่มาถ่ายรูป ณ ที่แห่งนี้ก็คือชุดกิโมโนแบบโบราณที่เรียกว่า ไฮคาระ ชุดกิโมโนแบบนี้เป็นชุดที่นิยมใส่ในช่วงที่เรียกว่ายุคไทโชของญี่ปุ่น (1912-1926) เป็นชุดที่เข้ากับบรรยากาศของบ้านเรือนแบบตะวันตกเป็นอย่างมาก

ใครที่อยากลองใส่กิโมโนแบบนี้ไปถ่ายรูปสามารถเช่าได้ที่ Haikara Kimono-kan อยู่ที่บริเวณสถานีนิฮงโอโดริ (Nihon-Odori Station) ถ้าเช่าถ่ายรูปเล่นในสตูดิโออย่างเดียวอยู่ที่ 2,000 เยน ถ้าจะเช่าใส่เดินทั้งวันก็อยู่ที่ 4,900 เยน ใครที่อยากใส่เดินถ่ายรูปให้ทั่วเมืองจะมาให้เร็วหน่อยเช่นตั้งแต่เช้าก็ย่อมได้

Yokohama Haikara Kimono-kan
การเดินทาง: เดินเท้า 3 นาทีจากสถานี Nihon-Odori
เวลาทำการ: 10:00-18:00 น.

จากโมโตมาชิ ช้อปปิ้งสตรีท เราสามารถเดินทะลุไปถึงบ้านเรือนสวยๆของชาวต่างชาติ ซึ่งเคยใช้เป็นอดีตบ้านพักทูตต่างชาติในย่านยามาเตะ (Yamate Seiyokan) ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 1910 ที่ย่านชิบุย่า (Shibuya) ใจกลางเมืองโตเกียวที่เรารู้จักกันดี ก่อนจะโดนย้ายมาตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสไตล์อิตาลีที่ Yamate Italian Garden ในช่วงปี 1997 โดยย่านยามาเตะนี้แต่เดิมเป็นย่านที่พักชาวต่างชาติอยู่แล้ว นอกจากบ้านพักทูตที่เป็นสถานที่หลัก ก็ยังมีอาคารแบบตะวันตกอื่นๆอีก 7 หลังให้เราเลือกไปเข้าชมกันได้แบบฟรีๆ

ในระยะทางประมาณ 500 เมตรรอบๆย่านนี้ในอดีตเคยเป็นชุมชนชาวยุโรป บ้าน สวนสาธารณะ อาคารสถาปัตยกรรมต่างๆ ก็จะเป็นแบบยุโรปทั้งหมด มีจุดชมวิวสวยๆ และจุดถ่ายภาพหลายจุด เช่นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีจุดชมวิวอ่าวโยโกฮาม่าและ Yokohama Bay Bridge แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์กับคริสตจักรในบริเวณใกล้ๆกันด้วย

Yamate Seiyokan
การเดินทาง: เดินเท้าประมาณ 10 นาที จากถนนช้อปปิ้ง Motomachi Shopping Street
วันหยุด: ปิดทำการทุกวันพุทธที่ 4 ของเดือน

ถึงช่วงเวลาแดดร่มลมตก เราก็จะเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการไปชมวิวกลางคืนริมอ่าวโยโกฮาม่า โดยจะต้องเดินย้อนกลับไปที่สถานีโมโตมาชิ-ชูคะไก (Motomachi-Chukagai Stattion) เพื่อขึ้นรถไฟไปลงที่สถานีซากุระกิโช (Sakuragicho Station) ใช้เวลา 13 นาที แล้วก็เดินต่อประมาณ 7 นาที ถึงจุดชมวิวที่แรกคือคิชามิชิ พรอมานาด (Kishamichi Promenade) จุดชมวิวที่มีทางเดินผ่ากลางน้ำ ซึ่งมองเห็นท่าท่าเรือโยโกฮาม่าและแสงสีของย่านมินาโตะมิไรได้ทั้งหมด รวมถึงชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ Cosmo Clock 21 เป็นวิวกลางคืนยอดนิยมที่หลายๆคนชอบมาถ่ายรูปวิวกลางคืนกันมาก ใกล้ๆกันก็มีเรือญี่ปุ่นสุดคลาสสิก Nippon Maru Memorial Park จอดอยู่ท่ามกลางแสงไฟให้ได้ชมและถ่ายรูปด้วยค่ะ

Kishamichi Promenade
การเดินทาง : เดิน 7 นาที จากสถานีซากุระกิโช (Sakuragicho Station)

จาก Kishamichi Promenade อากาศเย็นสบายแบบนี้ เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ หรือแวะถ่ายรูปบ้าง แล้วพักเหนื่อย จะรับประทานมื้อค่ำที่ศูนย์การค้าใน Yokohama Red Brick Warehouse ก็ได้ มีร้านอร่อยๆ ให้เลือกเยอะเลย ทานข้าวเสร็จก็เดินไปต่อกันกันที่ จุดชมวิวโอซังบาชิ (Osanbashi) เป็นจุดชมวิวบนดาดฟ้าเรือที่สวยมาก มีทางเดินพื้นไม้รอบๆ จากจุดชมวิวนี้ เราสามารถมองเห็นท่าเรือโยโกฮามา มินาโตะ มิไร รวมถึงแลนด์มาร์กอีกหลายแห่งของเมืองได้ในอีกมุมหนึ่ง และบนดาดฟ้านี้ก็ยังมีร้านอาหารที่มองเห็นวิวท่าเรือแบบพาโนรามิควิวซึ่งบรรยากาศดีมาก

Osanbashi
การเดินทาง: เดิน 10 นาที จาก Yokohama Red Brick Warehouse

หาที่นอนกันเถอะ

สำหรับเรื่องที่พักนั้น หลายคนอาจจะเลือกพักที่โตเกียวแล้วไปโยโกฮามาแบบเช้าไปเย็นกลับ แต่สิ่งที่เราแนะนำจริงๆคือให้พักในโยโกฮามาเลย เพราะสะดวก วิวสวย และอากาศดีกว่าใจกลางโตเกียวแบบรู้สึกได้ เนื่องจากใกล้ทะเลและถนนจะกว้าง รถจะน้อยกว่าในโตเกียว

สำหรับโรงแรมแนะนำ จากจุดชมวิวโอซังบาชิ เราก็เดินย้อนไปขึ้นรถไฟที่สถานี นิฮงโอโดริ (Nihon-Odori Station) ไปลงสถานีมินาโตะมิไร แล้วเดินต่ออีก 5 นาที ก็จะถึงที่พักของเราคือ Yokohama Minato Mirai Manyo Club

ที่เราเลือกพักโรงแรมนี้ก็เพราะว่า เป็นไม่กี่แห่งในเมืองใหญ่อย่างโยโกฮามาที่มีออนเซ็นอย่างดี แถมรอบๆอาคารก็บรรยากาศสงบ เงียบ เป็นส่วนตัวกว่าโรงแรมย่านดังแถวโตเกียวเยอะเลย ทำเลของโรงแรมก็ดีมาก วางแผนเดินทางไปเที่ยวรอบๆโซนนี้ก็ง่ายดาย เพราะส่วนใหญ่เดินถึงกันได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนานๆ ทำให้ได้เที่ยวตั้งแต่เช้ายันค่ำอย่างเช่นแพลนวันนี้ แถมยังมีออนเซ็นกลางแจ้งแบบส่วนตัวให้ด้วย สะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกอย่างจริงๆค่ะ

โรงแรม Yokohama Minato Mirai Manyo Club
การเดินทาง : จากสถานีมินาโตะมิไร (Minatomirai Station) เดินประมาณ 5 นาที
หรือจากสถานีโยโกฮาม่า (Yokohama Station) ขึ้นรถ Shuttle Bus บริการรับส่งฟรีสำหรับลูกค้าของโรงแรม จุดขึ้น-ลงรถจะอยู่ตรงทางออก West Exit มีรถรับส่งชั่วโมงละ 1 คัน รอบสุดท้ายจากสถานีโยโกฮาม่า ประมาณ 22:35 น.