(2020) แนะนำจุดชมซากุระในฟุกุโอกะ
Sakura in Fukuoka
1 สวนไมซุรุ (Maizuru Park)
สวนสาธารณะไมซุรุที่ปราสาทฟุกุโอกะ ซึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่สุดของคิวชู เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของฟุกุโอกะ จุดชมซากุระที่เด่นที่สุดตั้งอยู่บริเวณซากกำแพงของปราสาทฟุกุโอกะ ในสวนมีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นบานสะพรั่งให้เราได้ชมกัน สวนนี้เขามีจัดงานเทศกาลซากุระปราสาทฟุกุโอกะ Fukuoka Castle Sakura Festival เป็นประจำทุกปีด้วยนะ งานจัดระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน มีการออกร้านมากมาย และช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มก็มีการเปิดไฟไลท์อัพที่ดอกซากุระ และประดับประดาไฟตามกำแพงปราสาทจนเป็นวิวที่สวยงามน่าประทับใจมากอีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนช่วงกลางวัน
เวลาทำการ
เปิดตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Airport Line หรือ Kuko Line) ไปลงสถานี Akasaka แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 8 นาที
2 สวนโอโฮริ (Ohori Park)
สวนโอโฮริ เป็นสวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ มีจุดเด่นคือทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่กลางสวน เป็นอีกจุดชมดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ที่เดินทางมาเที่ยวชมกันได้สะดวก ที่นี่มีการจัดงานเทศกาลฮานามิด้วย โดยจะมีร้านค้าต่างๆ มาออกบูธขายกันเยอะมากมาย เราสามารถเดินชมซากุระได้ชิลๆและมีจุดชมซากุระต้นใหญ่หลายจุดให้ถ่ายรูปกันเต็มที่ มีอุโมงค์ต้นซากุระยาวประมาณ 150 เมตรที่แผ่กิ่งก้านซึ่งเต็มไปด้วยดอกซากุระให้ชมกันเต็มอิ่ม บรรยากาศช่วงเทศกาลซากุระก็จะคึกคักน่าดู มีคนมาปูเสื่อจองที่ไว้ปิกนิกให้เห็นเป็นระยะๆ ถ้าอยากชมฮานามิใต้ต้นซากุระแบบนี้บ้างก็ต้องรีบหาทำเลเหมาะๆ จับจองกันหน่อย
เวลาทำการ
เปิดตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Airport Line หรือ Kuko Line) ไปลงสถานี Ohorikoen
3 สวนนิชิ (Nishi Park)
สวนนิชิ (ซึ่งชื่อแปลว่าตะวันตก) เป็นอีกจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยม ตั้งอยู่บนเนินเขาติดชายฝั่งทะเลทางตะวันตกนับจากใจกลางเมืองที่ย่านฮากาตะหรือเทนจิน วิวทิวทัศน์ของที่สวนนี้จึงสวยเลิศมากๆ อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 อันดับจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยที่นี่ปลูกซากุระไว้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 1,300 ต้น ในสวนมีศาลเจ้าเทรุโมะ (Terumo) ซึ่งถ้าเดินเลาะเลียบไปทางด้านซ้ายของศาลเจ้าก็จะเป็นโซนที่มีต้นซากุระปลูกเรียงรายตามริมรั้วไม้ และริมทางเดินเป็นสีชมพูหวานสวยงามมาก ธรรมชาติแวดล้อมต่างๆ ในสวนก็เขียวขจี เหมาะกับการมาพักผ่อนและจับจองที่นั่งปิกนิกชมซากุระเป็นอย่างยิ่ง
เวลาทำการ
เปิดตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Airport Line, Kuko Line) ไปลงสถานี Ohorikoen แล้วเดินต่อไปประมาณ 15 นาที อยู่ทางทิศเหนือของสถานีใกล้กับชายทะเล (สวนโอโฮริจะอยู่ทาทิศใต้)
4 สวนเท็นจิน เซ็นทรัล ปาร์ค (Tenjin Central Park)
สวน Tenjin Central Park เป็นสวนสาธารณะขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะในย่านเท็นจินซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นจุดรวมแหล่งบันเทิงและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่สำคัญๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นย่านเศรษฐกิจของฟุกุโอกะด้วย เทียบกับที่ๆแนะนำก่อนหน้านี้แล้วจะเล็กกว่าและรอบๆจะเต็มไปด้วยตึกสูง แต่ก็เดินทางใกล้กว่าพอสมควร
สวนเท็นจิน เซ็นทรัล ปาร์คแม้จะอยู๋ท่ามกลางความเจริญเหล่านี้แต่ก็เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมากๆอีกแห่งให้คนเมืองฟุกุโอกะที่ไม่ค่อยมีเวลามากนักได้ชื่นชมกัน เราสามารถหาทำเลเหมาะๆ สำหรับปิกนิกชมฮานามิในสวน หรือเดินชมซากุระที่บานสะพรั่งแผ่กิ่งก้านคลุมไปตามทางเดินเลียบคลองของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งจะมีต้นซากุระปลูกไว้เป็นแนวยาวตลอดทางสองฝั่ง
เวลาทำการ
เปิดตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Airport Line, Kuko Line) ไปลงสถานี Tenjin แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
5 ปราสาทโคกุระ (Kokura Castle)
ปราสาทโคคุระ เป็นปราสาทเก่าแก่ซึ่งเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมปราสาทหลายๆ แห่งของญี่ปุ่นที่เราเห็นกัน ตั้งอยู่ที่เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) บริเวณรอบปราสาทจะเป็นจุดชมซากุระที่สำคัญอีกแห่งของฟุกุโอกะ มีซากุระให้ชมกว่า 300 ต้น นอกจากจะได้ชมซากุระสวยๆ แล้วที่นี่เขามีจัดเทศกาลชมดอกซากุระ Kokura Castle Sakura Festival ซึ่งก็มีทั้งการออกร้านค้าหลากหลาย การจัดกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุก และมีการแสดงบนเวทีด้วยนะ
เวลาทำการ
สวนเปิดตลอด
งานเทศกาลเริ่ม 10.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี JR Hakata สามารถขึ้นได้ทั้งรถไฟชินกังเซ็นขบวน Kodama หรือรถด่วนพิเศษ Limited Express SONIC หรือรถธรรมดาสาย JR Kagoshima Main Line ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่ารีบแค่ไหน ไปลงสถานี JR Kokura แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย