มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่าคุซัตสึออนเซ็นเป็นที่รู้จักกันมานานมากแล้ว โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ขุนพลคนสำคัญผู้รวมญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่น ก็รู้จักคุซัตสึออนเซ็น และว่ากันว่าเป็นคนแนะนำโชกุนคนแรก โทกุงาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu) ให้ไปแช่ออนเซ็นที่นี่ด้วย

คุซัตสึออนเซ็นตั้งอยู่บนภูเขาสูง 1200 เมตรจากระดับน้ำทะเลในจังหวัดกุนมะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีออนเซ็นดีที่สุดในญี่ปุ่น คุซัตสึออนเซ็นเป็นออนเซ็นที่ถามคนญี่ปุ่นใครๆก็รู้จักแน่นอน เพราะเป็นเจ้าแห่งออนเซ็นที่ติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับ Top 100 ออนเซ็นของญี่ปุ่นติดต่อกันถึง 13 ปี แหล่งน้ำร้อนธรรมชาติหลักของเมืองคือยูบาตาเกะ (Yubatake) ที่เป็นจุดถ่ายรูปที่เด่นชัดอยู่กลางเมืองคุซัตสึ มีปริมาณน้ำร้อนไหลออกมาประมาณ 4600 ลิตรต่อนาที น้ำร้อนของคุซัตสึออนเซ็นมีแร่ธาตุคุณภาพสูงอยู่หลายชนิด ว่ากันว่าสามารถรักษาโรคได้หลายโรคเลยล่ะ แต่สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายก็อาจต้องระวังกันหน่อย เนื่องจากน้ำแร่ของที่นี่มีความเป็นกรดสูงกว่าน้ำปกติ (แต่ไม่ได้เป็นอันตราย) สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี ใครผิวบอบบางอาจระคายเคืองหรืออักเสบได้

เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Agatsuma มาลงสถานี Naganohara-kusatsuguchi แล้วจะมีรถบัสรับ-ส่งไปออนเซ็น หรือถ้าจองโรงแรมไว้อย่าลืมตรวจสอบว่าโรงแรมมีรถรับส่งถึงสถานีหรือไม่

มินาคามิออนเซ็น เป็นออนเซ็นอีกแห่งของจังหวัดกุมมะฟที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งออนเซ็นชั้นเลิศคู่กับคุซัตสึออนเซ็น ตั้งอยู่กลางภูเขาในเมืองมินาคามิ (Minakami) ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดกุมมะ อีกทั้งขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นกลางแจ้งที่มีสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยสุดประทับใจ อย่างเช่น ทาคารางาวะ ออนเซ็น (Takaragawa Onsen) หนึ่งในออนเซ็นรีสอร์ทของมินาคามิออนเซ็น ก็ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงแรมออนเซ็นที่มีห้องอาบน้ำกลางแจ้งที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นด้วย

ต้นกำเนิดน้ำร้อนของมินาคามินั้นมาจากแม่น้ำโทเนะ (Tone River) ออนเซ็นของที่นี่เป็นออนเซ็นแคลเซียมซัลเฟต (Calcium Sulfate) ซึ่งแคลเซียมซัลเฟตช่วยเกี่ยวกับผิว มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลภายนอกอย่างเช่นแผลที่โดนของมีคมบาด แผลฟกช้ำ แผลรอยจ้ำเขียว แผลไฟไหม้ แผลโดนน้ำร้อน รวมถึงช่วยเรื่องรอยดำสิวและผื่นแดงบนผิวหนังด้วย

เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก โดยรวมเปิดประมาณ 09.00 - 21.00 น. ค่าบริการออนเซ็นแบบไม่ค้างคืนอยู่ที่ประมาณ 500 - 1500 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟชินกังเซ็นสาย Joetsu จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Jomo-Kogen จากนั้นต่อรถบัส Kan-etsu Kotsu ไปลงป้าย Minakami

ฮาโกเนะเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากโตเกียวและน่าจะเดินทางสะดวกที่สุดในบรรดาออนเซ็นที่เราแนะนำวันนี้ ฮาโกเนะออนเซ็นตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปีด้วย การได้มาแช่ออนเซ็นที่ฮาโกเนะเป็นที่นิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเพราะสามารถแช่ออนเซ็นไปด้วยและชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามไปด้วยได้อย่างรื่นรมย์ ฮาโกเนะออนเซ็นถูกค้นพบตั้งแต่ก่อนสมัยเอโดะ ซึ่งตอนนั้นพบแค่ 7 แห่งเรียกว่า ฮาโกเนะชิจิโต (Hakone Shichito) หรือเจ็ดบ่อน้ำร้อนแห่งฮาโกเนะ ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็น 8 แห่ง 17 แห่ง และปัจจุบันคือ 20 แห่ง เรียกว่าฮาโกเนะนิจูโต (Hakone Nijuto) ซึ่งยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ออนเซ็นทั้ง 20 แห่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป อย่างออนเซ็นที่ผสมแร่ธาตุเหล็กก็มีสรรพคุณช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ออนเซ็นเกลือช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ออนเซ็นกรดกำมะถันช่วยรักษาโรคผิวหนังพวกผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น

การเดินทางที่เราแนะนำเป็นวิธีไปยังศูนย์กลางของแหล่งออนเซ็นในฮาโกเนะที่มีชื่อว่า Hakone Yumoto ที่ชื่อแปลว่า ต้นทางน้ำร้อนแห่งฮาโกเนะ ถือว่าเป็นออนเซ็นดังที่สุดในหมู่ออนเซ็น 20 แห่งของฮาโกเนะ

เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก ออนเซ็นแบบสาธารณะก็มี ค่าบริการประมาณ 500 - 1450 เยน
การเดินทาง
ขึ้น Tokaido Shinkansen ขบวน Kodama จากสถานี Tokyo มาลงสถานี Odawara แล้วเปลี่ยนขบวนเป็น Hakone Tozan Train ไปลงสถานี Hakone Yumoto

ยุงาวาระออนเซ็น เป็นอีกแหล่งออนเซ็นที่คนรู้จักกันมานานแล้ว อยู่ในเมืองยุงาวาระที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของจังหวัดคานางาวะ ใกล้เมืองท่องเที่ยวอย่างฮาโกเนะ อาตามิ และคาบสมุทรอิซุ จึงเหมาะมากที่จะใช้เป็นที่พักเพื่อเที่ยวอิซุต่อ

ภูมิประเทศทางทิศเหนือและตะวันตกล้อมรอบด้วยหุบเขาของอุทยานแห่งชาติอิซุฮาโกเนะ (Izu-Hakone National Park) ส่วนทิศตะวันออกติดกับอ่าวซางามิ (Sagami) จึงเป็นแหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นออนเซ็นแห่งเดียวที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือรวมบทกวีนิพนธ์เก่าแก่มันโยชู (Man’yoshu) สมัยเฮอัน เป็นที่นิยมต่อมาจนถูกจัดเป็นหนึ่งในสามออนเซ็นที่ดีที่สุดในสมัยเอโดะ และได้รับการกล่าวถึงทัศนียภาพที่สวยงามของออนเซ็นไว้ในงานเขียนของนักประพันธ์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงหลายคน อย่างเช่น นัตสึเมะ โซเซกิ (Natsume Soseki) และอาคุตางาวะ ริวโนะสุเกะ (Akutagawa Ryunosuke) เป็นต้น ทำให้เป็นออนเซ็นที่คนญี่ปุ่นรู้จักเป็นอย่างดี ออนเซ็นของยุงาวาระมีสรรพคุณช่วยรักษารอยฟกช้ำและบาดแผลต่างๆ ผิวหนังอักเสบต่างๆ อีกทั้งช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายด้วย

เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Main Line จากสถานี Tokyo มาลงสถานี Yugawara

คินุงาวะออนเซ็น เป็นแหล่งออนเซ็นอีกแห่งที่ใกล้โตเกียวอีกแห่ง ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทจิงิ (Tochigi) จุดเด่นของที่นี่คือทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ฤดู มีที่พักเรียวกังกว่า 70 แห่งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำคินุงาวะ (Kinugawa River)

กล่าวกันว่าคินุงาวะออนเซ็นถูกค้นพบโดยคนท้องถิ่นเมื่อราวปี 1692 และเป็นออนเซ็นที่ใช้แค่ในชุมชนชื่อว่า ทากิออนเซ็น (Taki Onsen) แต่หลังโดนบากุฟุควบคุม ก็กลายเป็นออนเซ็นที่มีไว้สำหรับพระและบุคคลสำคัญใช้เท่านั้น แล้วถึงเปิดเป็นสาธารณะเมื่อปี 1869 พร้อมกับมีการค้นพบออนเซ็นแหล่งใหม่เพิ่มชื่อว่าฟุจิวาระออนเซ็น (Fujiwara Onsen)

ในปี 1927 ทากิออนเซ็นกับฟุจิวาระออนเซ็นถึงมารวมกัน กลายเป็นคินุงาวะออนเซ็นมาจนถึงปัจจุบัน คินุงาวะออนเซ็นมีคุณสมบัติเป็นด่าง น้ำใส ไร้สีไร้กลิ่น และอ่อนโยนต่อผิว มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทที่ตึงเครียด ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ อาการปวดไขข้อต่างๆ และโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังด้วย

เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก เป็นแบบสาธารณะก็มี ค่าบริการออนเซ็นประมาณ 250 - 1000 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Tobu เช่นรถด่วน SPACIA จากสถานี Asakusa มาลงที่ Kinugawa Onsen ได้เลย

ผู้เขียน: hikawasa
นักแปลภาษาญี่ปุ่น-ไทย-อังกฤษ
นักเขียนของ AAJ
ทำงานเบื้องหลังเล็กๆ น้อยๆ เช่น รับจ๊อบรีวิวหนังสือเพื่อคัดเลือกต้นฉบับมาแปล/อีดิท/พรูฟรีด
รักการ์ตูนเรื่อง Kuroko no Basket มากทุกรูปแบบทั้งอนิเมะ มังงะ เกม กู๊ดส์