ชาเขียวเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้อเป็นของฝากมากที่สุด และถ้าจะซื้อชาเขียวก็ต้องของจังหวัดชิซุโอกะ เพราะคุณภาพชาเขียวของที่นี่การันตีได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 30 ปีแล้วจ้า ส่วนการผลิตชานั้นจังหวัดชิซุโอกะก็มีประวัติศาสตร์การผลิตใบชามายาวนานมากตั้งแต่ประมาณ 800 กว่าปีก่อนได้ พื้นที่ปลูกชาของจังหวัดชิซุโอกะก็มีมากกว่า 40% ของพื้นที่ไร่ชาทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะเนื้อดินที่มีความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากมีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน และต้นน้ำก็มาจากน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งของภูเขาไฟฟูจิซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เพราะอย่างนี้ถ้าคิดจะซื้อชาเขียว คราวหน้าขอแนะนำให้ลองของชิซุโอกะ

คนญี่ปุ่นน้อยคนที่จะไม่รู้จักขนมอุอิโร (Uiro) ซึ่งเป็นขนมเก่าแก่ชื่อดังของเมืองนาโกย่าที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นขนมที่มีความนุ่มคล้ายขนมโมจิ ทำมาจากแป้งข้าวเจ้านวดแล้วผสมกับน้ำตาล เสริมรสชาติด้วยส่วนผสมของชาเขียวหรือถั่วแดงแล้วนำไปนึ่ง นิยมรับประทานเป็นของว่างพร้อมน้ำชา เวลาเคี้ยวให้ความรู้สึกนุ่มเหนียวกำลังดีและไม่หวานมาก นอกจากทำเป็นลักษณะรูปแท่งยาวซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมแล้วยังมีแบบเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำด้วย คนนิยมซื้อไปเป็นของฝากกันทั้งนั้น

เครื่องเหล็กนัมบุเทคคิ (Nanbutekki) เป็นสินค้าศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นของจังหวัดอิวาเตะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นผลิตภัณฑ์ศิลปะอุตสาหกรรมท้องถิ่นอันดับแรกของญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของเครื่องเหล็กอยู่ที่เมืองโมริโอกะ (Morioka) ประมาณศตวรรษที่ 17 ตอนนั้นมีช่างฝีมือที่มาจากเกียวโตเริ่มผลิตพวกเครื่องเหล็กต่างๆ จากนั้นพวกเครื่องเหล็กเหล่านี้ก็เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากขึ้น มีการนำไปใช้ในครัวเรือนมากมาย ว่ากันว่าเมื่อปรุงอาหารหรือต้มน้ำในหม้อ หรือกาเหล็กแล้วจะทำให้มีธาตุเหล็กในน้ำในปริมาณเล็กน้อย พอรับประทานเข้าไปร่างกายก็ได้รับธาตุเหล็กไปด้วย เครื่องเหล็กนัมบุเทคคิมีหลายแบบหลายดีไซน์ ผลิตโดยการเทเหล็กหลอมลงไปในพิมพ์ เพิ่มสีสันต่างๆ ซึ่งแต่เดิมนั้นมีสีดำเพียงสีเดียว แต่ในปัจจุบันมีหลายสีสันให้เลือกซื้อหาเป็นของฝากที่โดนใจ เช่น สีขาว สีชมพู สีฟ้า และสีเขียว เป็นต้น นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกอยู่เสมอ

จังหวัดอิบารากิเพิ่งประกาศผลรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของจังหวัดไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา และผลิตภัณฑ์เมล่อนก็ได้รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมสาขาของฝากไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจังหวัดอิบารากิได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าแห่งเมล่อน” นั่นเอง เมล่อนของที่นี่มีคุณภาพดีที่สุดในญี่ปุ่น และมีส่วนแบ่งในตลาดถึง 26% ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นอีกเช่นเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้เมล่อนของจังหวัดอิบารากิคุณภาพล้นปรี่ก็เพราะภูมิประเทศเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกเมล่อน ทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดปี ได้ดินจากภูเขาไฟที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันกับกลางคืน รสชาติของเมล่อนที่ได้จึงหอมหวาน กลมกล่อม เนื้อนุ่มกำลังดี อร่อยชื่นใจสมเป็นของฝากขึ้นชื่อ

งานหัตถกรรมไม้โยเซงิไซกุ (Yosegizaiku) เป็นงานไม้โบราณซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำเมืองฮาโกเนะ จังหวัดคานางาวะ ที่อยู่คู่เมืองฮาโกเนะมายาวนานราว 200 ปีแล้ว โยเซงิไซกุ (Yosegizaiku) คือเทคนิคที่นำไม้หลากหลายชนิดมาเรียงประกอบกัน โดยอาศัยสีสันของไม้ต่างชนิดกันสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นลวดลายหลายรูปแบบ แต่ละชิ้นที่ทำออกมาสวยงามไม่มีซ้ำกันเลยเพราะสีและลวดลายของเนื้อไม้แตกต่างกันไป เรียกว่าเป็นงานไม้ทำมือที่มีอยู่ชิ้นเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ งานไม้โยเซงิไซกุมีการผลิตออกมาเป็นสินค้าหลากประเภท ตั้งแต่จานรองแก้ว ที่คั่นหนังสือ ที่วางตะเกียบ กล่องใส่ของกระจุกกระจิกเล็กๆ กล่องใส่เครื่องประดับ กล่องทิชชู่ เคสสำหรับสมาร์ทโฟน ไปจนถึงตู้ลิ้นชักขนาดใหญ่ ถ้ามีโอกาสมาแช่ออนเซ็นที่ฮาโกเนะก็ไม่มีอะไรจะเหมาะเป็นของฝากเท่างานหัตถกรรมไม้โยเซงิไซกุอีกแล้วล่ะ

ผู้เขียน: hikawasa
นักแปลภาษาญี่ปุ่น-ไทย-อังกฤษ
นักเขียนของ AAJ
ทำงานเบื้องหลังเล็กๆ น้อยๆ เช่น รับจ๊อบรีวิวหนังสือเพื่อคัดเลือกต้นฉบับมาแปล/อีดิท/พรูฟรีด
รักการ์ตูนเรื่อง Kuroko no Basket มากทุกรูปแบบทั้งอนิเมะ มังงะ เกม กู๊ดส์