รวมข้อมูลที่เที่ยวที่ฟรีค่าเข้าในฮอกไกโด
การเที่ยวญี่ปุ่นนั้น นอจากเรื่องค่าเดินทางและค่าอาหารแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีทั้งถูกแพงแตกต่างกันออกไป แต่สถานที่สำคัญหลายแห่งในญี่ปุ่นนั้นก็เปิดให้เข้าได้ฟรี ซึ่งใครที่มีแผนจะเดินทางไปเยือนฮอกไกโด วันนี้เราได้รวบรวม 12 ที่เที่ยวฟรีมาให้ ซึ่งมีทั้งตลาดปลา โรงงานช็อคโกแลต พิพิธภัณฑ์เบียร์ และอีกมากมาย
1. สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park)
สวนสาธารณะสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวขนานไปกับถนนสองฟาก ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้มากกว่า 4,000 ต้น และมักจะใช้เป็นที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีก็คืองานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของหอคอยซัปโปโร (Sapporo TV Tower) แลนด์มาร์คและจุดชมวิวของเมืองซัปโปโรที่สามารถชมทัศนียภาพของเมืองในมุมสูงได้แบบ 360 องศา
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ (Odori Station)
2. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชาวไอนุ (Ainu Culture Promotion Center)
ในอดีตนั้น พื้นที่ฮอกไกโดเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมืองที่มีชื่อเรียกว่า “ไอนุ” ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าชาวไอนุนั้นสืบเชื้อสายมาจากใคร และอพยพมาอยู่ในบริเวณฮอกไกโดได้อย่างไร โดยภายในพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชาวไอนุนั้นจะบอกเล่าประวัติความเป็นมา วิถีชีวิต รวมถึงจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สำคัญต่างๆ ของชาวไอนุ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับชาวพื้นเมืองกลุ่มนี้ได้ดีขึ้น พื้นที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ยังมีทั้งโซนที่เป็นสวน และโซนที่จัดแสดงบ้านทรงโบราณของชาวไอนุ นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงการเวิร์กช็อปทำเครื่องประดับหรืองานศิลปะรูปแบบอื่นๆ ในสไตล์ของชาวไอนุอีกด้วย
เวลาเปิดปิด : 08.45 – 22.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร ขึ้นรถบัส Kaisoku หมายเลข 7 หรือ 8 ไปลงที่ป้าย Koganeyu
3. สาธารณะโมเอะเรนุมะ (Moerenuma Park)
สวนสาธารณะในเมืองซัปโปโรที่พัฒนาขึ้นจากพื้นที่ทิ้งขยะ และกลายเป็นจุดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงจากการออกแบบสวนอย่างสวยงาม ซึ่งทั้งหมดเป็นฝีมือของอิซามุ โนะกุจิ (Isamu Noguchi) ภูมิสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในระดับโลกซึ่งได้ผสมผสานภูมิทัศน์รูปแบบต่างๆ ทั้งเนินดิน สนามหญ้า และสิ่งก่อสร้างหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันจนให้ความรู้สึกเหมือนสวนทั้งสวนนี้คืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง ภายในสวนมีจุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญอย่างอาคารปิรามิดที่ทำจากกระจกชื่อว่าฮิดามาริ (Hidamari) และภูเขาโมเอะเร (Mount Moere) เนินเขาขนาดย่อมความสูง 62 เมตรที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงของสวนโมเอะเรนุมะได้อย่างสวยงาม และเนื่องจากการออกแบบภูมิทัศน์เอาไว้อย่างสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาที่สวนแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าจะเป็นในฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนก็ตาม
เวลาเปิดปิด : 07.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีคันโจโดริ ฮิกาชิ (Kanjodori-higashi Station) จากนั้นต่อรถบัสหมายเลข 69 หรือ 79 ไปลงป้าย Moerenuma Koen Higashi-guchi
4. สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)
นอกจากสวนสาธารณะโอโดริแล้ว สวนสาธารณะมารุยามะก็ถือเป็นสวนอีกหนึ่งแห่งที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมทั้งจากชาวเมืองและนักท่องเที่ยว โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้ถือเป็นจุดชมซากุระที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของซัปโปโร นอกจากนี้ภายในสวนยังเป็นที่ตั้งของอีกสองสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือสวนสัตว์มารุยามะ (Maruyama Zoo) สวนสัตว์ประจำเมืองที่มีไฮไลท์สำคัญคือสัตว์เขตหนาวอย่างมีขั้วโลกและนกเพนกวินสายพันต่างๆ และศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าเก่าแก่ไม่กี่แห่งที่พบได้ในฮอกไกโด และในช่วงวันปีใหม่นั้นจะมีชาวเมืองเดินทางมาขอพรกันอย่างเนืองแน่น
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีมารุยามะ โคเอน (Maruyama Koen Station)
5. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่พบได้เพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น โดยในอดีตนั้นอาคารที่สร้างขึ้นด้วยอิฐแดงอันสวยงามของพิพิธภัณธ์แห่งนี้ก็เคยเป็นโรงเบียร์เก่าแก่ที่เปิดทำการตั้งแต่ในยุคเมจิของญี่ปุ่น และเป็นแหล่งกำเนิดของเบียร์ยี่ห้อซัปโปโร จากนั้นก็ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1978 โดยพื้นที่ด้านในมีการจัดแสดงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตเบียร์ การบอกเล่าประวัติและพัฒนาการของการผลิตเบียร์ในซัปโปโร ไปจนถึงมุมที่สามารถแวะชิมเบียร์ได้ฟรี แต่ถึงจะไม่ใช่คอเบียร์ อาคารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีความใหญ่โตสวยงามที่เหมาะแก่การแวะมาถ่ายรูปสวยๆ ที่ได้ทั้งกลิ่นอายของความเป็นยุโรปและความย้อนยุคในที่เดียวกัน
เวลาเปิดปิด : 11.30 – 20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : จากบริเวณหน้าสถานีซัปโปโร ขึ้นรถบัส Loop 88 Factory Line
6. ตลาดนิโจ (Nijo Market)
ตลาดปลาเก่าแก่ที่เปิดทำการแห่งแรกในเมืองซัปโปโร โดยในปัจจุบันมีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี และยังคงเป็นศูนย์รวมในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากท้องทะเลหลากหลายชนิดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปู หอยเม่นทะเล และปลาสดหลากหลายชนิด และยังมีตรอกเล็กๆ ที่ชื่อว่าโนเร็นโยโคโจ (Noren Yokocho) ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านอาหารที่นำวัตถุดิบสดใหม่จากตลาดมาให้ได้ชิมกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นเมนูซูชิ ซาชิมิ หรือข้าวหน้าต่างๆ และความพิเศษของตลาดปลาแห่งนี้คือไม่ได้เปิดทำการถึงแค่ตอนเที่ยงเหมือนกับตลาดปลาแห่งอื่นๆ ในญี่ปุ่น แต่เปิดทำการยาวไปจนถึงตอนเย็น แถมช่วงกลางคืนยังมีผับบาร์บางส่วนเปิดทำการต่อไปอีก จึงสามารถแวะมาสัมผัสกับเมนูอร่อยๆ จากท้องทะเลซัปโปโรได้ตลอดเวลา
เวลาเปิดปิด : 07.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : จากรถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ (Odori Station) เดินต่อประมาณ 7 นาที
7. อดีตที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโด (Former Government Office Building)
อดีตที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโด หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “ตึกอิฐแดง” ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองซัปโปโร และยังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) และหอคอยซัปโปโร (Sapporo TV Tower) ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มักจะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยือนอยู่ตลอดทั้งวัน ความโดดเด่นของอดีตที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโดแห่งนี้คือรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอบารอคสไตล์อเมริกัน และความเก่าแก่กว่า 100 ปี และการก่อสร้างที่ใช้ก้อนอิฐมากกว่า 2 ล้าน 5 แสนก้อน พื้นที่ด้านในอาคารก็ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และยังมีการบอกเล่าเรื่องราวทั้งของตัวอาคารและการปกครองซัปโปโรในอดีต นอกจากนี้ถนนสายสั้นๆ ที่ทอดยาวไปยังตัวอาคารยังมีการปลูกต้นแป๊ะก๊วยเอาไว้ตลอดสองข้างทาง ทำให้เป็นจุดที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
เวลาเปิดปิด : ในอาคาร 08.45-18.00 น.
หน้าอาคาร 07.00-21.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ (Odori Station)
8. สวนสาธารณะนากาจิมะ (Nakajima Park)
อีกหนึ่งสวนสาธารณะของเมืองซัปโปโร และยังเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง ภายในสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ และมีการแบ่งพื้นที่ย่อยๆ ออกเป็นสวนญี่ปุ่น และพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ทั้งสี่ฤดู จึงทำให้สวนสาธารณะนากาจิมะแห่งนี้มีความสวยงามในทุกฤดูกาล และเป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อของซัปโปโร และนอกจากความร่มรื่นสวยงามแล้ว ภายในสวนยังมีสถานที่สำคัญอยู่มากมาย ทั้งอาคารโฮเฮคัน (Hoheikan) อาคารทรงยุโรปสีฟ้าสดใสที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คประจำสวน หอดูดาวซัปโปโร (Sapporo Astronomical Observatory) ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาสัมผัสกับเรื่องราวด้านดาราศาสตร์และความสวยงามของดวงดาว และกิตะระคอนเสิร์ตฮอลล์ (Kitara Concert Hall) หอแสดงดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีนากาจิมะโคเอ็น (Nakajima-Koen Station)
9. ตลาดซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market)
นอกจากตลาดปลานิโจที่อยู่คู่เมืองซัปโปโรมากว่า 100 ปีแล้ว ภายในเมืองก็ยังมีตลาดอีกแห่งหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายๆกัน คือตลาดซัปโปโรโจไก ซึ่งแม้จะเป็นตลาดที่เน้นการขายส่งเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารทะเลสดใหม่มาวางจำหน่ายมากมายไม่แพ้ตลาดปลาแห่งอื่นๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบทานปู ตลาดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมปูขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็นปูทาราบะ ปูขน หรือปูหิมะ และก็ยังมีโซนร้านอาหารให้ชิมเมสูสดใหม่กันอย่างเต็มที่ และยังเปิดทำการถึงช่วงเย็นเหมือนกับตลาดปลานิโจเช่นกัน
เวลาเปิดปิด : 07.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีโซเอ็น (Soen Station) เดินต่อเล็กน้อย
10. พิพิธภัณฑ์เมืองซัปโปโร (Sapporo City Archive Museum)
เป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ในด้านประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองซัปโปโรตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านการจัดนิทรรศการให้ความรู้และการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์นั้นดัดแปลงมาจากศาลประจำเมืองในอดีต จึงทำให้มีห้องจำลองของศาลและการพิจารณาคดีรวมอยู่ด้วย และนอกจากความรู้มากมายที่อยู่ภายในอาคารแล้ว พื้นที่ด้านของของพิพิธภัณฑ์เมืองซัปโปโรยังมีทั้งสวนสไตล์ตะวันตกอันสวยงาม รวมถึงตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้อาคารสำคัญอื่นๆ ในเมืองซัปโปโร จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน
เวลาเปิดปิด : 09.00 – 19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานี Nishi-Juitchome
11. ซัปโปโร แฟคทอรี่ (Sapporo Factory)
ซัปโปโร แฟคทอรี่ เป็นย่านการค้าที่ดัดแปลงพื้นที่มาจากโรงเบียร์เก่าแก่ของซัปโปโรที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยในปัจจุบันได้มีการต่อเติมเพื่อเป็นพื้นที่ขายสินค้าและอาหารซึ่งมีร้านรวงรวมกันมากถึง 160 ร้าน จุดเด่นของซัปโปโร แฟคทอรี่ คือความสวยงามของตัวอาคารที่สร้างขึ้นจากการก่ออิฐสีแดง และพื้นที่ด้านในยังถูกปรับให้เป็นโถงกว้างสำหรับนักพักผ่อนและจัดกิจกรรมต่างๆ อาคารรอบนอกบางส่วนก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ และเปิดเป็นโรงเบียร์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบเครื่องทั้งในเรื่องของการช้อปปิ้ง กินดื่ม และถ่ายรูปสวยๆ
เวลาเปิดปิด : 10.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานี Bus Center-mae
12. โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยที่มาเยือนซัปโปโร เพราะได้ทั้งถ่ายรูปกับตึกสวยๆ ได้ชมขั้นตอนการผลิตขนมแสนอร่อย และยังได้เลือกซื้อของฝากหลากหลายชนิด สำหรับใครที่มีเวลาน้อยหรือไม่ได้ต้องการเข้าไปชมกระบวนการผลิตช็อคโกแลตในโรงงาน พื้นที่รอบนอกของโรงงานช็อคโกแลตแห่งนี้ซึ่งมีทั้งหอนาฬิกา และสวนกุหลาบสไตล์อังกฤษแสนสวยนั้นสามารถเข้าชมได้ฟรี และยังเหมาะแก่การถ่ายรูปสวยๆ เป็นที่ระลึกในการมาเยือนอีกด้วย
เวลาเปิดปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีมิยาโนะซาวะ (Miyanosawa Station)
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย