รวม 20 จุดชมวิวหิมะแสนสวยทั่วประเทศญี่ปุ่น
11. รถไฟสายทาดามิ จ.ฟุกุชิมะ (Tadami Line, Fukushima)
สำหรับใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศในการชมความสวยงามของฤดูหนาว หรือใครที่ไม่สะดวกในการออกไปลุยท่ามกลางหิมะหนาวๆ โดยตรง การนั่งรถไฟชมวิวในฤดูหนาวก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยสายรถไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวก็คือรถไฟสายทาดามิ ซึ่งเชื่อมต่อสองจังหวัดหลักในภูมิภาคโทโฮคุคือสถานีไอซึ วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) ในจังหวัดฟุคุชิมะ กับสถานีโคอิเดะ (Koide Station) ในจังหวัดนีงาตะ โดยทิวทัศน์ระหว่างการเดินทางบนรถไฟสายนี้จะเต็มไปด้วยภูมิทัศน์อันสวยงามของภูเขา ป่าไม้ และลำธาร ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกปลกคลุมด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์เหมือนภาพฝัน
สำหรับใครที่อยากแวะถ่ายรูปจุดแลนด์มาร์คของรถไฟสายทาดามิ ซึ่งก็คือบริเวณสะพานทาดามิกาวะ ไดอิจิเคียวเรียว (Tadamigawa Dai-ichi Kyoryo Bridge) ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำทาดามิ และมีขบวนรถไฟกำลังแล่นผ่านท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปราย ก็ต้องแวะลงที่สถานีไอซึ มิยาชิตะ (Aizu Miyashita Station) จากนั้นมีสามตัวเลือกคือขึ้นรถตู้ รถแท็กซี่ หรือเดินเท้า (ประมาณ 20 นาที) ไปยังจุดพักรถ Ozekaido Mishima Juku Roadside Station ซึ่งจุดชมวิวจะอยู่ห่างจากจุดพักรถแห่งนี้เพียงไม่กี่นาที
การเดินทาง : สถานีรถไฟไอซึ วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) หรือสถานีรถไฟโคอิเดะ (Koide Station)
12. เมืองซัปโปโร จ. ฮอกไกโด (Sapporo, Hokkaido)
เมื่อพูดถึงฤดูหนาวในญี่ปุ่นแล้วก็คงไม่สามารถลืมซัปโปโร เมืองหลักแห่งภูมิภาคฮอกไกโดไปได้ โดยนอกจากจะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการเดินทางไปยังลานสกี หรืออุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในเมืองโดยรอบแล้ว ภายในเมืองซัปโปโรเองก็ยังมีจุดชมวิวหิมะสวยๆ อยู่มากมาย เริ่มตั้งแต่สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์กประจำเมืองอย่างหอคอยซัปโปโร (Sapporo TV Tower) และยังมีที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Government Office Building) ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน และแน่นอนว่าสวนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ในการจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรอันมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้วที่หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido) ก็ยังเป็นอีกจุดที่สามารถสัมผัสกับวิวหิมะคู่กับตึกสวยๆ หลากหลายรูปแบบได้พร้อมกัน ปิดท้ายด้วยสวนโมเอเระนุมะ (Moerenuma Park) สวนที่สร้างโดยภูมิสถาปนิกระดับโลก ซึ่งได้มีการออกให้พื้นที่ต่างๆ รวมถึงภูมิทัศน์ภายในสวนมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ แม้จะเป็นในช่วงฤดูหนาวที่มีแต่หิมะปกคลุมจนมองไม่เห็นพื้นหญ้าสีเขียวขจีเลยก็ตาม
การเดินทาง : สถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station)
13. กินซันออนเซ็น จ.ยามากาตะ (Ginzan Onsen, Yamagata)
ฤดูหนาวกับการแช่ออนเซ็นนั้นถือเป็นของคู่กัน และสำหรับใครที่อยากแวะไปออนเซ็นสักแห่งในญี่ปุ่นที่สามารถแช่น้ำพุร้อนไปพร้อมกับการชมวิวหิมะสวยๆ กินซันออนเซ็น ในจ. ยามากาตะ ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการเดินทางไปเยือน เพราะออนเซ็นแห่งนี้มีทั้งความเก่าแก่ และความเงียบสงบจากธรรมชาติที่ห้อมล้อมอยู่รอบด้าน โดยภาพที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักกินซันออนเซ็น ก็คือภาพของบรรยากาศยามค่ำคืนที่บรรดาเรียวกังต่างๆ จุดโคมไฟสีเหลืองนวลส่องสว่างท่ามกลางหิมะสีขาวที่กำลังโปรยปรายลงมา บวกด้วยสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำ ทั้งหมดนั้นให้บรรยากาศที่เหมือนความฝันและย้อนเวลากลับไปยังอดีต จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างต้องการแวะมาสัมผัสบรรยากาศนี้ด้วยตัวเองดูสักครั้ง
การเดินทาง : สถานีรถไฟโอชิดะ (Oishida Station) จากนั้นต่อรถบัสไปลงป้าย Ginzan Onsen
14. เมืองนิกโก้ จ. โทชิงิ (Nikko, Tochigi)
นิกโก้นั้นได้ชื่อว่าเป็นทั้งเมืองธรรมชาติและเมืองมรดกโลกที่เดินทางมาได้ง่ายจากโตเกียว โดยในฤดูหนาวนั้น นิกโก้ก็ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากภาพของธรรมชาติสีเขียวขจีที่หลายคนคุ้นตานั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนจากหิมะที่ขาวโพลนไปทั่วทั้งบริเวณ น้ำตกสวยๆ อย่างน้ำตกเคงอน (Kegon Falls) กลายเป็นน้ำตกน้ำแข็งที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) และวัดวาอารามเก่าแก่อีกมากมายตั้งอยู่อย่างสงบท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา และสะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) สะพานสีแดงสดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนิกโก้ที่ยังคงความโดดเด่นและสวยงามท่ามกลางฤดูหนาว ทั้งหมดนี้ทำให้เมืองนิกโก้ในช่วงฤดูหนาวยังคงมีเสน่ห์ไม่แพ้ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูอื่นๆ เลย
การเดินทาง : สถานีรถไฟนิกโก้ หรือโทบุ นิกโก้ (Nikko, Tobu Nikko Station)
15. เมืองฮาคุบะ จ. นากาโน่ (Hakuba, Nagano)
เมืองฮาคุบะในจ. นากาโน่ถือเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของบรรดานักเล่นสกีทุกระดับจากทั่วโลก เพราะภายในเมืองนี้เต็มไปด้วยลานสกีที่เป็นมาตรฐานระดับโลกอยู่นับสิบแห่งจากการที่เคยเป็นเจ้าภาพในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวเมื่อปี 1998 หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อนในชีวิต หลายคนก็ต้องการขึ้นกระเช้าไปสัมผัสกับความสวยงามของแนวภูเขาหิมะต่างๆ ที่โอบล้อมไปทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเทือกเขาเจแปนแอลป์ เทือกเขาที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามมากที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้บรรดาเรียวกังและโรงแรมต่างๆ ในฮาคุบะก็ยังมีบ่ออนเซ็นคอยให้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าความโดดเด่นก็คือบ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถแช่น้ำร้อนไปพร้อมกับชมวิวของภูเขาหิมะสวยๆ ได้อย่างเต็มตา
การเดินทาง : สถานีรถไฟฮาคุบะ (Hakuba Station)
16. เมืองนิเซโกะ จ. ฮอกไกโด (Niseko, Hokkaido)
นอกจากเมืองฮาคุบะแล้ว เมืองนิเซโกะในภูมิภาคฮอกไกโดก็เป็นอีกหนึ่งเมืองของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเรื่องการเล่นสกี โดยหิมะในบริเวณนิเซโกะนั้นได้รับการยกย่องว่ามีความนุ่มนวลราวกับแป้ง จึงเปรียบสมือนสถานที่ในฝันของคนเล่นสกี และนอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโยเท (Yotei Mountain) ภูเขาไฟทรงสมมาตรที่ใครหลายคนขนานนามว่า “ภูเขาไฟฟูจิแห่งฮอกไกโด” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คประจำภูมิภาคที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องเดินทางมาบันทึกภาพเก็บเอาไว้
การเดินทาง : สถานีรถไฟนิเซโกะ (Niseko Station)
17. เมืองโยโกเตะ จ. อากิตะ (Yokote, Akita)
เมืองโยโกเตะอาจะเป็นเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูหนาว เมืองนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีการจัดงานเทศกาลหิมะโยโกเตะ (Yokote Kamakura Festival) เทศกาลหิมะเก่าแก่และมีชื่อเสียงของจ. อากิตะ โดยรูปแบบการจัดงานนั้นจะไม่เหมือนกับเทศกาลหิมะซัปโปโรเลย ซึ่งจุดเด่นของเทศกาลคือการสร้างกระท่อมหิมะที่เรียกว่า “คามาคุระ” (kamakura) ตามสถานที่ต่างๆทั่วเมือง เพื่อใช้เป็นที่ขอพรเทพเจ้าให้มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ และให้ชาวเมืองรวมถึงนักท่องเที่ยวเข้าไปปิ้งขนมและทานสาเก พื้นที่บางจุดมีการสร้างกระท่อมหิมะแบบนี้เอาไว้กว่าร้อยแห่ง เมื่อตกกลางคืนก็จะมองเห็นกระท่อมแต่ละแห่งจุดตะเกียงสีเหลืองสว่างไสว และมีผู้คนมากมายมาร่วมงานเฉลิมฉลองจนกลายเป็นภาพที่ดูสวยงามและแสนอบอุ่น
การเดินทาง : สถานีรถไฟโยโกเตะ (Yokote Station)
เทศกาลหิมะโยโกเตะจะจัดขึ้นทุกวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์
18. เมืองฮิโรซากิ จ. อาโอโมริ (Hirosaki, Aomori)
หลายคนอาจจะรู้จักชื่อเมืองฮิโรซากิ ในจ. อาโอโมริในฐานะจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง แต่ในฤดูหนาวนั้น เมืองฮิโรซากิก็มีจุดเด่นที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ไม่แพ้กัน นั่นคืองานเทศกาลฤดูหนาวอันยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นถึงสองงาน งานแรกคือเทศกาลโคมไฟหิมะที่ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle Snow Lantern Festival) ซึ่งจะมีการแกะสลักหิมะบนพื้นที่รอบปราสาทให้เป็นรูปโคมไฟรูปทรงต่างๆ ก่อนจะค่อยๆ ส่องสว่างสร้างความสวยงามในยามค่ำคืน และอีกงานที่จัดคู่กันคือ SAKURA BLOSSOM IN WINTER LIGHT UP ซึ่งเป็นการประดับแสงไฟสีชมพูตามต้นซากุระที่เรียงรายอยู่รอบคูเมืองของปราสาท จนทำให้กลายเป็นภาพเหมือนดอกซากุระกำลังบานท่ามกลางฤดูหนาว ถือเป็นการจัดงานที่ทั้งไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์จนน่าประทับใจ
การเดินทาง : สถานีรถไฟฮิโรซากิ (Hirosaki Station)
Hirosaki Castle Snow Lantern Festival จัดขึ้นประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์
SAKURA BLOSSOM IN WINTER LIGHT UP จัดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
19. ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ จ. ยามานะชิ (Fuji 5 lakes, Yamanashi)
ภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นจุดหมายที่มักจะอยู่ในแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวเสมอไม่ว่าจะฤดูไหนๆ แม้ว่าภาพของรูปทรงอันสมมาตรของตัวภูเขา และผิวหิมะที่ปกคลุมอยู่บริเวณปากภูเขาไฟจะเป็นภาพที่ทั้งคุ้นตาและสวยงามของภูเขาลูกนี้อยู่แล้ว แต่การไปเยือนพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 เพื่อชมความงามของภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูหนาวนั้นก็ยิ่งสร้างประทับใจได้ไม่แพ้ฤดูอื่นๆ โดยเฉพาะบรรยากาศของพื้นที่รอบทะเลสาบที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนรู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับภูเขา ไปจนถึงการแวะชมจุดท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ อย่างหมู่บ้านน้ำใส (Oshino Hakkai) ที่จะได้พบกับหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา และมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง หรือทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako Lake) ที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์สีขาวลอยตัวอยู่บนผืนน้ำที่ปกคลุมด้วยไอเย็น ตัดกับแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่สาดส่องมาในยามเช้า
การเดินทาง : สถานีรถไฟคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Station)
20. น้ำแข็งย้อยมิโซะทสึจิ จ. ไซตามะ (The Icicles of Misotsuchi, Saitama)
นอกจากบรรดาลานสกีชื่อดังรอบโตเกียว มีสถานที่อีกหนึ่งแห่งในฤดูหนาวที่มีความน่าสนใจและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก นั่นก็คือน้ำแข็งย้อยมิโซะทสึจิที่เทือกเขาโอะคุชิชิบุ (Okuchichibu) ในจ. ไซตามะ โดยน้ำแข็งย้อยเหล่านี้เกิดจากน้ำที่ไหลจากหน้าผาลงมาที่ลำธารด้านล่าง แต่เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่หนาวจัด จึงเกิดการแข็งตัวเป็นรูปทรงเหมือนหินงอกหินย้อนจำนวนมากตามหน้าผา นอกจากนี้ยังมีการจัดเทศกาลหิมะโอทาคิ (Otaki Ice Festival) ซึ่งภายในงานจะประดับแสงไฟตามน้ำแข็งย้อยเหล่านี้ในยามค่ำคืนจนกลายเป็นภาพที่ดูมหัศจรรย์และแปลกตา
การเดินทาง : สถานีรถไฟเซบุ ชิชิบุ (Seibu Chichibu Station) จากนั้นต่อรถบัสไปลงป้าย Misoba
เทศกาลหิมะโอทาคิจัดขึ้นประมาณต้นเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย