ลายแทงเที่ยวจ.ฟุคุชิมะฉบับสมบูรณ์
จังหวัดฟุคุชิมะอยู่ทางใต้ของภูมิภาคโทโฮกุ ทิศเหนือติดกับจังหวัดยามางาตะและจังหวัดมิยางิ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนีงาตะ ทิศใต้ติดกับจังหวัดกุนมะ จังหวัดโทจิงิ และจังหวัดอิบารากิ และชายฝั่งด้านตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นจังหวัดขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น และมีแหล่งออนเซ็นมากกว่า 130 แห่ง ซึ่งนับว่ามีออนเซ็นมากเป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ฟุคุชิมะเป็นจังหวัดที่ผ่านอะไรมามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของภัยพิบัติที่สะเทือนใจไปทั้งโลก เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2011 เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับสึนามิลูกใหญ่ โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิของ บริษัทไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของฟุคุชิมะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหล ฟุคุชิมะต้องพบกับความสูญเสียอย่างมหาศาลทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของคนญี่ปุ่นก็ทำให้ฟุคุชิมะฟื้นฟูทั้งสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาอาศัยได้ (ปัจจุบันก็ยังมีพื้นที่ห้ามเข้าเหลืออยู่บ้าง แต่ไม่ใช่บริเวณท่องเที่ยวหลัก) ฟื้นสภาพเกษตรกรรม ฟื้นฟูสภาพการท่องเที่ยว และสภาพจิตใจก็ได้รับการเยียวยาตามลำดับ จนในปัจจุบันที่ใกล้จะถึงโตเกียวโอลิมปิก 2020 ก็มีการกำหนดว่าคบเพลิงของโตเกียวโอลิมปิกจะเริ่มวิ่งจากจังหวัดฟุคุชิมะด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการการันตีความปลอดภัยให้ผู้ที่จะเดินทางมาฟุคุชิมะ และนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติในจังหวัดฟุคุชิมะได้มั่นใจ
การเดินทางสู่จังหวัดฟุคุชิมะ
เราสามารถเข้าถึงจังหวัดฟุคุชิมะได้ทั้งทางรถไฟด่วนชินกังเซ็น รถไฟธรรมดา และรถบัส สำหรับรถไฟชินกังเซ็น เราแนะนำว่าซื้อ JR East Pass (Tohoku area) ดีกว่า ราคา 19,000 เยน แต่ได้ความสะดวกและคุ้มค่า เพราะค่าตั๋วชินกังเซ็นขาเดียวก็เกือบหมื่นเยนเข้าไปแล้ว
จาก Tokyo ไป Fukushima
- จากสถานี Tokyo หรือสถานี Ueno ขึ้นรถไฟชินกังเซ็น "Yamabiko" (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที) ไปลงสถานี Fukushima
- สำหรับคนที่อยากเซฟค่าใช้จ่ายก็สามารถเดินทางด้วยรถบัสได้ ขึ้นสาย Tokyo/Chiba - Fukushima/Sendai จากสถานี Shinjuku (ราคาตั๋วโดยสารอยู่ที่ประมาณ 2,700 – 7,000 เยนต่อเที่ยว)
จาก Sendai ไป Fukushima
- การเดินทางจากเซนไดระยะทางจะใกล้กว่าโตเกียว โดยจากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟชินกังเซ็น "Yamabiko" (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ไปลงสถานี Fukushima
- หรือจะเดินทางด้วยรถไฟธรรมดาเพื่อประหยัดงบจากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku Main Line (ค่าโดยสาร 1,320 เยน/เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 80 นาที) ไปลงสถานี Fukushima
วัฒนธรรมประเพณีของฟุคุชิมะ
จังหวัดฟุคุชิมะมีเทศกาลเก่าแก่และยิ่งใหญ่อย่างเทศกาลโคมไฟนิฮงมัตสึ (Nihonmatsu Lantern festival) เป็น 1 ใน 3 เทศกาลโคมไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว จัดขึ้นทุกวันที่ 4 - 6 ตุลาคมของทุกปี ไฮไลท์ของเทศกาลก็คือโคมไฟนั่นเอง ในงานจะมีการประดับโคมไฟสีแดงสดกว่า 3,000 ดวง พร้อมด้วยขบวนรถบุปผชาติที่เรียกว่า "ไทโกะได" ซึ่งมีขนาดใหญู่ ความสูงประมาณ 11 เมตรที่ตกแต่งด้วยโคมไฟกว่า 300 ดวงใน 1 คัน ระหว่างที่เคลื่อนขบวนรถบุปผชาติไปรอบเมืองก็จะมีวงดนตรีบรรเลงเพลงประกอบคลอไปด้วย สีแดงของโคมไฟตัดกับสีดำยามราตรีดูน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ
1 ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga Castle)
ปราสาทสึรุงะหรือปราสาทนกกระเรียน ตั้งอยู่ที่เมืองไอซึวากามัตสึ (Aizu- Wakamatsu) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1384 และโดนทำลายเสียหายหลังสงครามโบชิน (Boshin war) ในปี ค.ศ. 1868 ซึ่งตอนนั้นมีการต่อต้านรัฐบาลเมจิจนเกิดการจลาจลขึ้น ภายหลังได้มีการฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1960 ตัวปราสาทเป็นสีขาวนวลสวยหมดจด เป็นจุดชมซากุระที่สำคัญของฟุคุชิมะในฤดูใบไม้ผลิ กับซากุระกว่า 1,000 ต้นที่ล้อมรอบบริเวณปราสาท
เวลาทำการ
08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
410 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Aizuwakamatsu ขึ้นรถบัสสายสีเขียว (Haikarasan) หรือสายสีเเดง (Akabe) ไปลงป้าย Tsurugajo Iriguchi
2 หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
หมู่บ้านโออุจิจูกุเป็นถนนยาวกว่า 500 เมตรที่เรียงรายไปด้วยบ้านโบราณทั้งสองฟากฝั่ง บางบ้านทำเป็นร้านอาหารบ้าง ร้านขายของที่ระลึกบ้าง หมู่บ้านโออุจิจูกุนี้เมื่อสมัยเอโดะ ถนนเส้นที่ตัดผ่านหมู่บ้านถูกใช้เป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้าระหว่างเมืองสำคัญขณะนั้นคือเมืองไอซึ (Aizu city) กับเมืองอิมาอิจิ (Imaichi) หมู่บ้านโออุจิจูกุก็เลยเป็นที่พักแรมระหว่างทางของพวกขุนนางและพ่อค้าสมัยนั้น จุดชมวิวที่ห้ามพลาดอยู่ตรงสุดถนน เราสามารถมองเห็นภาพวิวหมู่บ้านโดยรวมที่สวยงามต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ยิ่งถ้าเป็นฤดูหนาว เราจะได้เห็นหิมะปกคลุมหลังคามุงหญ้าขาวบริสุทธิ์ไปทั้งหมู่บ้าน
เวลาทำการ
09.30 - 16.30 น.
การเดินทาง
จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟชินกังเซ็น Yamabiko ไปลงสถานี Koriyama แล้วต่อรถไฟสาย JR Banetsu West Line ไปลงสถานี Aizu-Wakamatsu จากนั้นขึ้นรถไฟสาย Aizu ไปลงสถานี Yunokami Onsen แล้วต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 10 นาที หรือจะเดินไปก็พอได้เหมือนกัน
3 บึงโกชิกินุมะ (Goshiki-numa)
บึงโกชิกินุมะ หรือแปลได้ว่าบึง 5 สี เป็นชื่อเรียกรวมของบึงน้ำขนาดเล็ก 20 - 30 บึงที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟบันได (Mt.Bandai) บึง 5 สีตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติบันไดอาซาฮิ (Bandai-Asahi) เราสามารถมองเห็นน้ำในบึงเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ เช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว ก็เพราะในน้ำมีกรดที่ทำปฏิกิริยากับหินภูเขาไฟ สีที่มองเห็นก็จะเปลี่ยนไปโดยขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศบวกการทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุในน้ำแต่ละบึง อย่างวันไหนฟ้าใสก็อาจเห็นเป็นสีฟ้าหรือสีเขียวมรกต หรือเวลาตะวันตกดินแสงก็ฉาบลงมาให้น้ำเป็นสีแดง เป็นต้น ซึ่งเป็นความน่ามหัศจรรย์ที่ควรมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองมากๆ นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ก็เป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดอีกด้วย
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัส Bandai Higashi Miyako Bus จากสถานี Inawashiro ของรถไฟสาย JR Banetsu West Line ลงป้าย Urabandai kogen-eki หรือ ป้าย Goshikinuma Iriguchi-eki ก็ได้
4 สวนฮานามิยามะ (Hanamiyama Park)
สวนฮานามิยามะ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่รายล้อมด้วยพื้นที่ทำการเกษตร เปิดให้เป็นสวนสาธารณะในปี ค.ศ. 1959 เป็นจุดชมดอกไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุคุชิมะเลยล่ะ ที่นี่มีดอกไม้และพันธุ์ไม้ญี่ปุ่นมากกว่า 60 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระสีชมพู สีขาวมากกว่า 10 สายพันธุ์บานสะพรั่งให้เราได้ชมกันเต็มๆ เป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่อของฟุคุชิมะที่เราต้องไม่พลาดการไปเยือน
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี Fukushima มี Shuttle bus หมายเลข 6 ไปที่สวน Hanamiyama ในช่วงฤดูใบไม้ผลิย มีรถออกทุกๆ 15-30 นาที
5 อความารีนฟุคุชิมะ (Aquamarine Fukushima)
อความารีนฟุคุชิมะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของจังหวัดฟุคุชิมะ จัดแสดงสัตว์น้ำให้เราได้เห็นระบบนิเวศในน่านน้ำของจังหวัดฟูคุชิมะและตามที่ต่างๆ ของโลก มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่ดีไซน์เป็นรูปสามเหลี่ยม ดูแล้วมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน แถมยังเป็นเท็งก์น้ำสามเหลี่ยมแห่งแรกของโลกด้วยนะ ในแท๊งก์สามเหลี่ยมที่ว่านี้เขาจัดแสดงจำลองให้เห็นกระแสน้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Current) จากทางทิศใต้ ที่ไหลมาบรรจบกับกระแสน้ำโอยาชิโอะ (Oyashio Current) จากทิศเหนือในมหาสมุทรแปซิฟิก แล้วเราก็จะได้เห็นปลาหลากหลายชนิดที่แหวกว่ายกันอยู่คนละกระแสน้ำได้อย่างชัดเจน เหมือนจำลองมหาสมุทรมาอยู่ในอาคารเลย
เวลาทำการ
09.00 - 17.30 น. (วันที่ 1 ธันวาคม - 20 มีนาคม ปิด 17.00 น.)
ค่าเข้าชม
1,800 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถบัสสายที่จะไป Onahama /Ena จากสถานี Izumi ของสาย JR Joban ไปลงป้าย Shisho-guchi แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 - 15 นาที
6 ฮิงาชิยามะ ออนเซ็น (Higashiyama Onsen)
ฟุคุชิมะมีออนเซ็นหลายแห่ง ดังนั้นเราก็น่าจะมาแช่ออนเซ็นของดีของที่นี่กันสักหน่อย โดยที่ฮิงาชิยามะ ออนเซ็นเป็นหมู่บ้านออนเซ็นท่ามกลางหุบเขาอยู่ใจกลางเมืองไอซึวากามัตสึ (Aizu-wakamatsu) เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี น้ำแร่ของที่นี่มีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาพวกอาการปวดตามข้อต่างๆ ได้ดี ในหมู่บ้านฮิยาชิมะออนเซ็นนี้มีเรียวกังให้เลือกพักมากมาย แต่เรียวกังที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือมุไกตากิ (Mukaitaki Ryokan) ที่เป็นจุดแลนด์มาร์กสำหรับการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ทิวทัศน์ของที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วงก็สวยจนบรรยายไม่ถูกเลย อยากให้ลองแวะมาแช่ออนเซ็นพร้อมกับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ดู
เวลาทำการ
ขึ้นอยู่กับเรียวกังแต่ละที่
ค่าเข้าชม
แช่ออนเซ็นเท้าได้ฟรีตรงที่แช่สาธารณะ ส่วนการแช่ออนเซ็นอื่นๆแต่ละเรียวกังราคาขึ้นอยู่กับการเข้าพัก
การเดินทาง
จากสถานี Aizu-Wakamatsu ขึ้นรถบัส Aizu Loop Bus ไปลงที่ Higashiyama Onsen
7 ทะเลสาบอินาวาชิโระ (Lake Inawashiro)
ทะเลสาบอินาวาชิโระ เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟข้างๆภูเขาบันได (Mt.Bandai) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นทางเข้าหลักสู่อุทยานแห่งชาติบันได อาซาฮิ (Bandai Asahi National Park) แต่ทะเลสาบอินาวาชิโระนี้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในน้ำน้อยมากเพราะน้ำมีความเป็นกรดสูง ทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ใสราวกับกระจกจนได้ชื่อเล่นว่า ทะเลสาบกระจกสวรรค์ (Tenkyoko) เราสามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลายด้วย แล้วช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปีก็จะมีฝูงหงส์กว่า 3,000 ตัวอพยพมาที่ทะเลสาบอินาวาชิโระด้วย เราจะได้ดูเจ้าพวกหงส์เล่นน้ำกันเพลินไปเลย
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
สถานี Inawashiro ของสาย Banetsu West Line สามารถเข้าถึงได้โดยการเริ่มจากสถานี Koriyama
8 เส้นทางบันไดอาซึมะ (Bandai Azuma Line)
เส้นทางบันไดอาซึมะ เป็นเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 3 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางบันไดอาซึมะ สกายไลน์ (Bandai-Azuma Sky Line) ซึ่งมีระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างทากายุ ออนเซ็น (Takayu Onsen) กับเส้นทางขึ้นภูเขาสึจิยุ (Tsujiyu Pass) เหมาะสำหรับการขับรถชมใบไม้แดงบนภูเขาอะซุมะ (Mount Azuma)
2. เส้นทางบันไดอาซึมะ เลคไลน์ (Bandai-Azuma Lake Line) เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านไปบนสันเขาที่ขนาบด้วยทะเลสาบ 2 ฝั่ง คือทะเลสาบอากิโมโตะ (Lake Akimoto) ทางทิศเหนือ และทะเลสาบโอโนงาวะ (Lake Onogawa) ทางทิศใต้ เราจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร
3. เส้นทางบันไดซัง โกลด์ไลน์ (Bandaisan Gold Line) เป็นเส้นทางที่ต้องขับเลาะไปและผ่าร่องเขาทางด้านทิศตะวันออกของภูเขาบันได (Mt. Bandai) ต้นไม้ตามเส้นทางนี้มักเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นสีเหลืองทอง
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ไม่สามารถชมวิวได้โดยรถไฟ เดินทางโดยเช่ารถยนต์จากสถานี Fukushima ขับชมวิวไปตามเส้นทางจะเหมาะสมที่สุด
9 รถไฟสายทาดามิ (Tadami Line)
รถไฟสายทาดามิ เป็นเส้นทางรถไฟที่กล่าวกันว่าทัศนียภาพของภูเขาและทะเลสาบในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวงดงามมากที่สุดเส้นทางหนึ่งของญี่ปุ่น รถไฟสายทาดามิเชื่อมต่อระหว่างสถานีไอซึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) เมืองไอซึวากามัตสึ จังหวัดฟุคุชิมะ กับสถานีโคอิเดะ (Koide) เมืองอุโอนุมะ (Uonuma) จังหวัดนีงาตะ จุดชมวิวยอดฮิตของเส้นทางรถไฟสายทาดามิจะอยู่ช่วงสถานีไอซึ คาวางุจิ (Aizu-Kawaguchi) กับสถานีไอซึ ยานะอิซึ (Aizu-Yanaizu) ตรงสะพานทาดามิกาวะ ไดอิจิ เคียวเรียว (Tadamigawa Dai-ichi Kyouryou Bridge)
เวลาทำการ
รถไฟสายทาดามิให้บริการวันละ 6 เที่ยว จาก Aizu-Wakamatsu ไป Aizu-Kawaguchi
เที่ยว 06.01/ 07.37 / 09.15 /13.03 /15.57/19.39
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
-ขึ้นรถไฟที่สถานี Aizu Wakamatsu มาลงสถานี Aizu Miyashita แล้วต่อรถตู้ที่ให้บริการพาไปจุดพักรถ Michima machi Onuma-gun ซึ่งเป็นที่ตั้งใกล้กับจุดชมวิวสะพานทาดามิกาวะ ไดอิจิ เคียวเรียว หรือถ้าออกกำลังหน่อยก็จะมีทางเดินขึ้นบันไดไปจุดชมวิวหลายจุด (ให้บริการขาไปเที่ยวเดียว 07.35 น. ขากลับเขียนใบจองรถกับพนักงานที่จุดพักรถ ค่ารถผู้ใหญ่ 500 เยน)
-ถ้าไม่ลงจุดชมวิวก็นั่งรถไฟชมวิวไปเรื่อยๆ จนถึง Aizu-Kawaguchi แล้วนั่งกลับ
10 สปารีสอร์ทฮาวาย (Spa Resort Hawaiians)
สปารีสอร์ทฮาวายมีทั้งสวนน้ำ ออนเซ็น สนามเด็กเล่น เวทีแสดงโชว์ และอีกมากมายที่จัดในธีมฮาวาย ที่นี่แบ่งเป็นหลายโซน เช่นโซนสวนน้ำ มีสระว่ายน้ำในร่ม สไลเดอร์ให้เล่น โซนสปาการ์เด้นกลางเเจ้ง มีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และอ่างจากุซซี่ โซนสปริงพาร์คก็เป็นแหล่งออนเซ็นที่ผุดขึ้นมาจากยุโมโตะ ออนเซ็น (Yumoto Onsen) สามารถลงไปแช่น้ำในสระว่ายน้ำอุ่นในร่มได้ทั้งชุดว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งเอโดะ โจวะ โยอิจิ (Edo-Jowa Yoichi) ที่ตกแต่งเป็นธีมสมัยเอโดะอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีศูนย์รวมความบันเทิงที่มีทั้งเกมเซ็นเตอร์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งมีการแสดงระบำฮาวาย และขบวนการ 5 สีให้ชมกันอย่างบันเทิงใจ
เวลาทำการ
วันธรรมดา 10.00 - 22.15 น.
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 09.00 - 22.15 น.
ค่าตั๋ว
3,500 เยน
หลัง 15.00 น. ลดเหลือ 3,000 เยน
หลัง 18.00 น.ลดเหลือ 2,800 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Yumoto มีรถบัสรับส่งทุกชั่วโมง