All About Japan

รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "อิบารากิ" ครั้งแรก

Ibaraki Kanto

สวนฮิตาชิซีไซต์ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)

สวนฮิตาชิซีไซต์ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)

https://pixta.jp

สวนสาธารณะริมชายทะเลฮิตาชิ เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ริมทะเลมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ชื่อว่าเป็นสรวงสวรรค์แห่งดอกไม้ในทุกฤดูกาล โดยมีโซนหลักทั้งหมด 8 โซน ซึ่งเต็มไปด้วยมีดอกไม้ประจำฤดูกาลหลายสายพันธุ์ ผลิบานผลัดเปลี่ยนสีสันให้ชมตลอดทั้งปี เช่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกไม้สีฟ้าชื่อ เนโมฟิลลา (Nemophila) กว่า 4,500,000 ดอก

ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็เป็นช่วงเวลาที่ที่สวนแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างในการเดินทางมาชมความสวยงามแปลกตาของ เทศกาลทุ่งดอกโคเคีย (Kochia) ราว 32,000 ต้น จะเริ่มต้นเปลี่ยนสีจากสีเขียวสดเป็นสีส้มและแดงส้ม แดงเลือดหมู และน้ำตาลไปตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ที่บานตามฤดูกาลชนิดอื่นๆ ให้ได้ชมอีก เช่น ดอกซุยเซ็น (Narsisus) ทิวลิป และกุหลาบ

เวลาทำการ : 1 มีนาคม -20 กรกฎาคม, 1 กันยายน -31 ตุลาคม ตั้งแต่ 09.30-17.00 น.

21 กรกฎาคม -31 สิงหาคม ตั้งแต่ 09.30–18.00 น.

1 พฤศจิกายน-สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 09:30–16.30 น.


ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 410 เยน, เด็ก 80 เยน, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน


การเดินทาง : จากสถานี Katsuta ขึ้นรถบัส Ibaraki Kotsu Bus ไปลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi

พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu)

พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu)

https://pixta.jp

พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่า เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปปางยืน ที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่แถบชานเมืองของจังหวัดอิบารากิ มีความสูง 120 เมตร (ส่วนของรูปปั้นสูง 100 เมตร ส่วนฐานสูง20เมตร) สร้างขึ้นเมื่อ ปีค.ศ. 1992 บนพื้นที่ของสุสาน จากนั้นในปีต่อมาพื้นที่รอบๆ ก็มีการปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะ ภายในองค์พระมีจุดชมวิวที่สามารถใช้ลิฟท์ขึ้นไปได้ ซึ่งความสูงจากจุดนี้ถ้าวันไหนอากาศแจ่มใส ก็จะมองไปเห็นถึงโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) อีกทั้งยังมีห้องจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ให้ผู้ที่สนใจได้ชมด้วย


เวลาทำการ : เดือนมีนาคม - กันยายน วันธรรมดา 09.30-17.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.30-17.30 น.

ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมภายในองค์พระพุทธรูปไดบุทสึ นักเรียนมัธยมต้น-ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็กอนุบาล-ประถม 400 เยน

การเดินทาง : จากสถานี Ushiku ขึ้นรถบัส Kanto Tetsudo Bus ไปลงที่ป้าย Ushiku Daibutsu

ศาลเจ้าคาชิมะ (Kashima Shrine)

ศาลเจ้าคาชิมะ (Kashima Shrine)

https://pixta.jp

เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู่แห่งญี่ปุ่น ชื่อ เทเกะ มิคาซูชิ และเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน โดยเฉพาะในยุคที่โชกุนมีอำนาจในการปกครอง นอกจากนี้ในส่วนของสถาปัตยกรรมก็สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบญี่ปุ่นที่เก่าแก่และทรงคุณค่า โดยเฉพาะ ประตูศาลเจ้าที่เรียกว่า “โรมอน” ซึ่ง ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
ในช่วงปีใหม่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นจุดที่มีผู้คนนิยมมาขอพรรับปีใหม่นับแสนคนในแต่ละปี เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์สำหรับขอพรให้ชนะการแข่งขันกีฬา ศิลปะกาต่อสู้ เรื่องของความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังด้านการเงิน ธุรกิจ เป็นต้น

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Kashima ไปลงที่สถานี Kashima-Jingu และเดินอีก 10 นาที

สวนมิโตะไคราคุเอ็น (Mito Kairakuen Garden)

สวนมิโตะไคราคุเอ็น (Mito Kairakuen Garden)

https://pixta.jp

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิโตะ (Mito) และเป็น 1 ใน 3 สวนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นในด้านการเป็นจุดชมดอกบ๊วย (Plum) ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม บรรยากาศที่สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม และกลิ่นหอมของดอกบ๊วยกว่า 100 สายพันธุ์ มากกว่า 3,000 ต้น โดยจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกบ๊วยแห่งมิโตะ (Mito Plum Blossom Festival) ในฤดูใบไม้ผลิราวๆปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมทุกปีอย่างยิ่งใหญ่ และมีกิจกรรมชงชา ดื่มชาเขียวมัทฉะแบบกลางแจ้งพร้อมทั้งชมดอกบ๊วยไปด้วย

นอกจากบ๊วย ที่นี่ก็ยังมีพืชพรรณไม้ชนิดอื่นๆ เช่น ป่าไผ่, แนวต้นสนซีดาร์, สวนดอกฟูจิโนะฮานะ หรือดอกวิสทีเรีย (Wisteria) เหล่านี้เป็นต้น


เวลาทำการ : 20 กุมภาพันธ์ - 30 กันยายน : 06.00-19.00 น.

1 ตุลาคม-19 กุมภาพันธ์ 07.00-18.00 น.


ค่าเข้าชม : ฟรี


การเดินทาง : จากสถานี Mito ขึ้นรถบัสสาย Ibaraki Kotsu Bus ไปลงที่ป้าย Kairakuen-Tokiwa Jinja Mae

ตลาดปลานากามินาโตะ (Nakaminato Fish Market)

ตลาดปลานากามินาโตะ (Nakaminato Fish Market)

https://pixta.jp

ตลาดปลาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักว่าคือตลาดปลาที่เป็นแหล่งอาหารทะเลสด เช่น ปลาหมึก ปู หอยนางรม ทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศกันไม่น้อย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ไปซื้อปลาก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการลองรับประทานอาหารทะเลสดซึ่งมีขายอย่างหลากหลายในร้านอาหารและบาร์ซูชิแบบสายพาน

ที่อาคารสีฟ้าชื่อว่าโมริตะซุยซัง (Morita Suisan)ซึ่งด้านในเป็นตลาดปลา ชั้นหนึ่งของอาคารหลังนี้นอกจากจะเป็นร้านขายของทะเลสดๆ และแห้งแล้ว บนชั้นสองก็มีทั้งร้านอาหารเมนูทำจากปลาสดๆ กับอาหารทะเลสดจากตลาดที่นี่รวมทั้งร้านซูชิสายพาน ราคาไม่แพงที่มีให้นักท่องเที่ยวเลือกรับประทานซูชิอร่อยขึ้นชื่อจากตลาดปลาแห่งนี้

เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Hitachinaka Kaihin Tetsudo ไปลงที่สถานี Nakaminato และเดินอีก 10 นาที

สะพานแขวนริวจิน (Ryujin Bridge)

สะพานแขวนริวจิน (Ryujin Bridge)

https://pixta.jp

สะพานแขวนริวจินอยู่ในวนอุทยานโอคุคุจิ ถูกสร้างขึ้นเหนือเขื่อนริวจิน โดยมีแม่น้ำจากเขื่อนไหลผ่านหุบเขาตัววีที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก สะพานมีความยาวทั้งหมดถึง 375 เมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น จากสะพานแขวนแห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์พาโนรามาอันสวยงามได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล

โดยในช่วงปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคม ที่นี่จะมีการประดับธงปลาคาร์ฟหลากหลายสีสัน เนื่องในเทศกาลวันเด็กผู้ชายของญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง สะพานแห่งนี้ก็เป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยงามมากอีกแห่งของภูมิภาคคันโต

เวลาทำการ : 08.30-17.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 310 เยน , เด็ก 210 เยน

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Suigun ไปลงที่สถานี Hitachi ota แล้วต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Ryujin o-tsuribashi และเดินอีก 20 นาที

  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
know-before-you-go