ยามากาตะ (Yamagata) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้มีสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลาย ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งเพาะปลูกทำเกษตรกรรมขนาดใหญ่ของภูมิภาค โดยมีผลิตที่มีชื่อเสียงมากนั่นคือเชอร์รี่ ที่เป็นแหล่งปลูกอันดับ 1 ของประเทศ ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยว เทศกาลงานประเพณีต่างๆ ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการเดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่ก็สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียว

จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย Yamagata Shinkansen ไปถึงสถานี Yamagata ใช้เวลา 2ชั่วโมง 30นาที และมีพาสรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง นั่นคือ JR East Tohoku Area Pass

อิโมะนิ นาเบะ (Imoni Nabe) หม้อไฟสูตรท้องถิ่นที่นิยมรับประทานกันในยามากาตะและภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ทำจะเน้นมันฝรั่งที่ปลูกในจังหวัดและเนื้อสัตว์เช่นหมู ไก่ สูตรการทำและปรุงรสจะแตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น บ้างก็ปรุงรสด้วยโชยุ บ้างก็ใช้มิโสะ เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงชาวจังหวัดยามากาตะมักจะชวนเพื่อนสนิทมิตรสหาย ทำอิโมะนินาเบะรับประทานกันที่ริมแม่น้ำคิมิงาซากิเป็นจำนวนมาก จึงเรียกว่าเป็นงานอิโมะนิไค (Imoni-Kai)

และถ้าหากได้เดินทางไปยามากาตะในช่วงฤดูร้อนราวๆเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ก็สามารถลิ้มลองผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัดอย่างเชอร์รี่สายพันธุ์ซาโตนิชิกิ (Sato Nishiki) ที่มีรสชาติหอมหวานอร่อย ตามร้านขนมหรือคาเฟ่ทั้งหลายในเมืองก็จะมีเมนูจากเชอร์รี่ที่ขายเฉพาะช่วงเวลานี้ด้วย

ยามากาตะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีงานเทศกาลเก่าแก่และประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละเทศกาลก็สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของที่นี่ได้เป็นอย่างดี สำหรับงานเทศกาลเด่นๆที่จะแนะนำ ได้แก่ เทศกาลยามากาตะฮานางาสะ เทศกาลฤดูร้อนที่จัดขึ้นช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปีกลางเมืองยามากาตะ ในวันงานชาวเมืองจะออกมาเดินขบวนพาเหรดและเต้นรำในชุดพื้นเมืองสีสันสดใสพร้อมทั้งถือหมวกประดับด้วยดอกคำฝอยท่ามกลางเสียงดนตรีที่ครึกครื้น มีชีวิตชีวา

อีกหนึ่งงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงของจังหวัดที่จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีก็คือเทศกาลซาคาตะ (Sakata Festival) ซึ่งไฮไลท์ของงานนี้คือขบวนแห่โอจิชิ (Ojishi) สัตว์ขนาดยักษ์สีแดงน่าเกรงขามในตำนาน ที่มักจะได้เห็นเด็กๆ ที่มาร่วมงานถูกอุ้มเข้าไปอยู่ในปากของโอจิชิระหว่างเดินแห่ตามความเชื่อว่าจะทำให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง รวมทั้งมีขบวนแห่รถอื่นๆอย่างอลังการด้วย

และถ้าเป็นฤดูหนาวที่นี่ก็มีงานเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมายาวนานอย่างเทศกาลปีศาจหิมะซาโอะ (Zao Snow Monster Festival) ซึ่งจะมีกิจกรรมทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดการจัดงานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ไฮไลท์อยู่ที่การนั่งโรปเวย์ชมวิวปีศาจหิมะที่ประดับไฟยามค่ำคืนอย่างสวยงาม มีสีสัน

นอกจากงานเทศกาลกับอาหารท้องถิ่นน่าลิ้มลองที่ได้แนะนำไปแล้ว ในส่วนของสถานที่เที่ยวเด่นที่เหมาะสำหรับใครที่จะเดินทางไปจังหวัดยามากาตะครั้งแรกก็มีมาแนะนำ ดังนี้

มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดริชชะคุจิ (Risshakuji) เป็นสถานที่อายุเก่าแก่นับพันปีที่มีมนต์ขลังและได้รับความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคโทโฮคุ สามารถเดินทางเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าจากสถานีรถไฟ Yamadera เพียง 6 นาทีเท่านั้น อาณาเขตของวัดแห่งนี้ครอบคลุมไปถึงบนเนินเขาลาดชัน จึงเป็นจุดชมทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงามมาก

เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงวัดยามาเดระก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาชมความงามเป็นจำนวนมาก และเนื่องจากพื้นที่วัดจะมีบริเวณกว้าง อีกทั้งแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายโซน แต่ละโซนนอกจากมีใบไม้แดงให้ได้ชมแล้วก็ยังได้ชมสถาปัตยกรรมวัดเก่าแก่อันทรงคุณค่าด้วย

ตั้งอยู่ในเมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa) ที่มาของชื่อกินซัน (Ginzan) ก็เพราะว่าเมื่อสมัย 400 ปีที่แล้วที่นี่เคยมีภูเขาซึ่งเป็นเหมืองแร่เงินมาก่อน (กินซันแปลว่าเหมืองแร่เงิน) บรรยากาศอันโดดเด่นของเมืองออนเซ็นแห่งนี้ก็คือสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในหมู่บ้านญี่ปุ่นยุคโบราณ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีหิมะสีขาวปกคลุม ซึ่งเป็นภาพที่งดงามมาก ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นหลายเรื่องเช่น โอชิน ที่หลายๆคนน่าจะเคยได้ชม

สำหรับคุณสมบัติของแหล่งน้ำพุร้อนที่นี่ก็คือเป็นบ่อออนเซ็นกำมะถันใสซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาโรคผิวหนัง บาดแผลจากของมีคม และโรคหลอดเลือดแข็ง หากต้องการพักแรมที่กินซันออนเซ็นก็มีเรียวกังให้เลือกใช้บริการหลายแห่งในราคาแตกต่างกันไป

การเดินทางมากินซันออนเซ็น จากสถานีรถไฟ Oishida (ซึ่งเป็นสถานีทางผ่านของ Yamagata Shinkansen) จะมีรถบัสสาย Ginzan Hanagasa ที่สามารถนั่งต่อมาลงที่ป้าย Ginzan Onsen ได้อย่างสะดวก

ตัวเมืองยามากาตะอยู่ติดกับบริเวณสถานีรถไฟ Yamgata เหมาะกับการมาเดินเล่นชมบรรยากาศของเมืองซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทั้ง อาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยเอโดะ ร่องรอยประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น โซนอาคารที่ได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากตะวันตก, หอวัฒนธรรม (Bunshokan) ที่ออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาสถาปัตยกรรมยุคเรเนซองส์ในอังกฤษ เป็นต้น

หรืออาจจะเดินไปเรื่อยๆจนถึงสวนสาธารณะคาโจ (Kajo Castle Park) สวนสาธารณะประจำเมืองขนาดใหญ่ ที่มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นจุดชมดอกซากุระพันธุ์กว่า 1,500 ต้น ที่ปลูกเป็นแถวเลียบริมคลองทั้ง 4 ด้าน กว่า ซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนเมษายนของฤดูใบไม้ผลิ

สวนสาธารณะในเมืองซากาเอะ (Sagae) ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ JR Sagae ที่นี่มีชื่อเสียงโดดเด่นในการเป็นทั้งแหล่งชมดอกไม้ตลอดปี จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะมีการจัดงานชมประดับไฟชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนพร้อมทั้งกิจกรรมมากมาย ส่วนในช่วงฤดูกาลอื่นๆ สวนแห่งนี้ก็มักจะมีการจัดอีเวนท์เกือบตลอดทั้งปีเลยทีเดียว เช่นงานประดับไฟอุโมงค์แห่งแสง (Winter Illumination) ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี ส่วนในฤดูหนาวก็จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะอีกแห่งของเมืองยามากาตะ โดยที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการตกแต่งพื้นที่ด้วยตุ๊กตาหิมะความสูง 6 เมตร พร้อมทั้งมีการแสดงดอกไม้ไฟในยามค่ำคืน หรือการแสดงดนตรีบนเวทีเป็นต้น

ภูเขาซาโอะ (Mount Zao) เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่อาณาเขตอยู่ใน 2 จังหวัดของภูมิภาคโทโฮคุนั่นคือจังหวัดมิยางิและยามากาตะ ภูเขาไฟซาโอะนั้นมีความสูง 1,841 เมตร รายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยิ่งใหญ่และสวยงาม สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ด้วยรถบัสประจำทางจากสถานีรถไฟ Yamagata วิ่งตรงมาถึงป้าย Zao Onsen Bus Terminal

ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามมากของภูมิภาคโทโฮคุ อีกทั้งยังมีบริการโรปเวย์สำหรับนั่งขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงด้วย และเมื่อถึงฤดูหนาวราวๆต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ถ้าใครเดินทางเที่ยวช่วงนี้ก็พลาดไม่ได้เลยกับงานเทศกาลปีศาจหิมะซาโอะ (Zao Snow Monster Festival) ที่เรียกว่าปีศาจก็มาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หิมะและเกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากตกมาทับถมต้นสนบนภูเขาซาโฮะจนมีรูปร่างคล้ายปีศาจนั่นเอง ที่สำคัญที่นี่ในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟไลท์อัพสีสันต่างๆ ก็ยิ่งได้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางปีศาจเลยทีเดียว