All About Japan

รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "นีงาตะ" ครั้งแรก

Niigata Chubu Hokuriku

จังหวัดนีงาตะ (Niigata) ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชูในภูมิภาคชินเอ็ทสุ (Shinetsu) หรือ โฮคุริคุ (Hokuriku) และอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นมากนัก ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นแนวเทือกเขาความสูงกว่า 2,000 เมตร จึงทำให้จังหวัดนี้มีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องของลานสกี รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจที่จะมาแนะนำในบทความนี้

แนะนำข้อมูลเบื้องต้นจังหวัดนีงาตะ (Niigata)

นีงาตะเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจในหลายๆแง่มุม ที่มากกว่าแค่เป็นลานสกีในฤดูหนาว สำหรับคนญี่ปุ่นจังหวัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นแหล่งปลูกข้าวแบบญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพและอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ บวกกับมีที่ตั้งอยู่ติดทะเล เรื่องของอาหารทะเลจึงมีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะที่เต็มไปด้วยสถานที่จัดแสดงงานศิลปะหลายแห่ง รวมทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์กับวัฒนธรรมด้วย ที่สำคัญคืออยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและเดินทางสะดวกมากๆ ด้วยชินคันเซ็น

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปจังหวัดนีงาตะ

จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสาย Joetsu Shinkansen ไปลงที่สถานี Niigata ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และมีพาสรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางในพื้นที่นี้โดยเฉพาะนั่นคือ JR EAST PASS Nagano-Niigata Area

อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของนีงาตะ

อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของนีงาตะ

https://pixta.jp

เมนูอาหารท้องถิ่นขึ้นที่จะแนะนำก็คือ ไทชาซึเกะ (Tai-chazuke) ข้าวราดน้ำชาใส่เนื้อปลากะพง เนื่องจากจังหวัดนีงาตะมีชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลและปลารสสดรสชาติอร่อยมากมาย (เช่นปลากะพง หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า ปลาไท) จึงเป็นที่มาของเมนูไทชาซึเกะ

ไทชาซึเกะคือการนำเอาเนื้อปลากะพงวางบนข้าวสวย พร้อมเครื่องเคียงอื่นๆเช่น สาหร่าย วาซาบิ แล้วรินน้ำชาร้อนๆลงไปจนท่วม คล้ายกับข้าวต้มของบ้านเราแต่ข้าวจะยังคงความเป็นเม็ดมากกว่าเพราะไม่ได้ถูกนำลงไปต้ม จุดเด่นของเมนูนี้คือรสหวานของเนื้อปลากะพงที่เข้ากับความนุ่มของข้าวและกลิ่นหอมของชาอย่างลงตัว เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากอีกทั้งยังมีหลากหลายสูตรที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ หรือใส่ปลาชนิดอื่นก็ได้ด้วย

เทศกาลที่น่าสนใจในนีงาตะ

นีงาตะก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีงานเทศกาลตลอดทั้งปี และหลายๆงานก็เป็นงานเทศกาลเก่าแก่มีชื่อเสียงที่สืบทอดกันมายาวนาน เช่น เทศกาลดอกไม้ไฟนากาโอกะ (Nagaoka Fireworks Festival) 1 ใน 3 งานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี จุดเด่นของงานเทศกาลนี้อยู่ที่ดอกไม้ไฟอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ดอกไม้ไฟเปิดงานสีขาวล้วนขนาดใหญ่ที่แสดงถึงความไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับจากเหตุการณ์ระเบิดในอดีต และดอกไม้ไฟชุดฟีนิกซ์ (Phoenix) สีแดงเพลิงสว่างเจิดจ้าเป็นทางยาวถึง 2 กิโลเมตร และในฤดูหนาวก็มีงานเทศกาลหิมะเมืองโทคามาชิ (Tokamachi Snow Festival) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีราวๆ กลางเดือนกุมภาพันธ์ ต่อเนื่องยาวนานมาถึง 68 ปี ไฮไลท์ของงานก็คือกิจกรรมสโนว์ คาร์นิวัล การแสดงของวงดนตรีและการจัดแสดงดอกไม้ไฟบนเวทีที่สร้างด้วยหิมะที่ขนาดใหญ่

นอกจากงานเทศกาลแล้ว ที่จังหวัดนีงาตะก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ทีเหมาะกับผู้เดินทางมาครั้งแรกมากมาย

ศาลเจ้ายาฮิโกะ (Yahiko Shrine)

ศาลเจ้ายาฮิโกะ (Yahiko Shrine)

https://pixta.jp/

ตั้งอยู่ในเมืองยาฮิโกะ เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์อายุราวๆ 1,300 ปี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นจุดพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ (Power Spot) เกี่ยวกับการขอพรให้สมหวังในความรัก อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าหลักที่ทรงคุณค่า ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติในปี ค.ศ. 1988 บรรยากาศร่มรื่นล้อมไปด้วยภูเขาและป่า ทางเข้าที่อยู่ในตัวเมืองมีสัญลักษณ์เป็นเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ (มาก) ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะพบกับทิวทัศน์ที่สวยงามต่างกันไป และในเดือนพฤศจิกายนที่นี่ก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกเบญจมาศที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Yahiko line ไปลงที่สถานี Yahiko และเดินอีก15นาที

สะพานบันได (Bandai Bridge)

สะพานบันได (Bandai Bridge)

https://pixta.jp/

สะพานบันได เป็นสะพานทรงประตูโค้งที่ทอดข้ามแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) ซึ่งเปรียบเหมือนแลนมาร์คอีกแห่งประจำเมืองนีงาตะ ตั้งแต่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันนี้มีอายุราวๆ 90 ปีแล้ว ด้วยสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ทรงคุณค่าทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของญี่ปุ่นด้วย สะพานแห่งนี้มีความยาว 306.9 เมตร กว้าง 21.9 เมตร นอกจากจะเป็นสะพานสัญจรไปมาของรถยนต์ ก็ยังมีบริเวณที่เป็นจุดชมวิวสะพานกับแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ได้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อยเลย

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Shinetsu Main Line ไปลงที่สถานี Niigata และเดินอีก 15 นาที

ลานเล่นสกี กาล่า ยูซาวะ (GALA Yuzawa Snow Resort)

ลานเล่นสกี กาล่า ยูซาวะ  (GALA Yuzawa Snow Resort)

https://pixta.jp/

สถานที่เล่นสกียอดนิยมในฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของญี่ปุ่น ซึ่งตัวลานสกีตั้งอยู่ติดกับสถานี JR GALA Yuzawa Station ทำให้เดินทางจากโตเกียวได้สะดวกสุดๆโดยไม่ต้องต่อรถเลย เนินสำหรับเล่นสกีหิมะที่นี่แบ่งออกเป็น 3 โซน ตามระดับความชำนาญของผู้เล่นตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญระดับโปร เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนได้ทั้งครอบครัว ที่สำคัญคือมีการสอนเล่นสกีเป็นภาษาไทยด้วย

ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้บริการ เช่น ค่าเช่าชุด ค่าเช่าอุปกรณ์ นอกจากนี้บริเวณลานสกีก็ยังมีบริการร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่มไว้อย่างครบครัน หรือจะเลือกผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเล่นสกีด้วยการแช่ออนเซ็นที่ สปา กาล่าโนะยุ (Spa Gala-no-yu) ที่มีทั้งบ่อออนเซ็นและสระว่ายน้ำให้เลือกใช้บริการ

เวลาทำการ : เปิดให้บริการสกีรีสอร์ทในช่วง กลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (เวลาเปิดปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

ค่าใช้จ่าย : ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ (คอร์สสอนเล่นสกีรวมกับค่าเช่าอุปกรณ์สกี 12,900 เยน)

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Joetsu Shinkansen ไปลงที่สถานี Gala-Yuzawa

เทศกาลดอกไม้ไฟนากาโอกะ (Nagaoka Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟนากาโอกะ (Nagaoka Fireworks Festival)

https://pixta.jp/

จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 2-3 สิงหาคม ที่เมืองนากาโอกะ (Nagaoka) บริเวณริมแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) ตลอดช่วงเวลา 2 วันที่จัดงานจะมีการจุดดอกไม้ไฟถึง 2 หมื่นนัด เป็นงานใหญ่อันดับต้นๆของญี่ปุ่นที่แต่ละปีมีผู้คนเดินทางมาร่วมชมงานมากกว่า 1 ล้านคน

ไฮไลท์ของงานนี้ก็คือดอกไม้ไฟทรงกลมขนาดยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 650 เมตร ที่แตกตัวเป็นรัศมีกว้างประมาณ 500 เมตรอย่างงดงามตระการตา และดอกไม้ไฟชุดฟีนิกซ์ (Phoenix) ที่ยิงดอกไม้ไฟสีแดงต่อกันเป็นทางยาว 2 กิโลเมตร

นอกจากนี้คืนก่อนวันเทศกาล ก็ยังมีพิธีลอยโคมไฟกระดาษลงในแม่น้ำอีกด้วย (Toro Nagashi) ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่สืบทอดต่อกันมาว่ากันว่าเป็นการแสดงความอาลัยให้กับดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าหากไปค้างคืนก็สามารถชมได้ทั้งสองเทศกาล

ช่วงเวลาที่จัดงาน : วันที่ 2-3 สิงหาคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 19.15-21.15 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Joetsu Line หรือ Joetsu Shinkansen ไปลงที่สถานี Nagaoka และเดิน 15 นาที

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมารีนเพีย นิฮงไค (Aquarium Marinepia Nihonkai)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมารีนเพีย นิฮงไค (Aquarium Marinepia Nihonkai)

https://pixta.jp/

อควาเรียมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำย่านทะเลญี่ปุ่น ที่นี่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำถึง 500 ชนิด, 20,000 สายพันธุ์ ในโซนพิพิธภัณฑ์จะมีอุโมงค์ใต้น้ำให้ได้เข้าไปเดินชมซาฟารีของบรรดาสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาสลิดหิน อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวบรวมสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์อย่างแมวน้ำไบคาล และก็มีเพนกวินฮัมโบลต์ ที่สำคัญคือการแสดงโชว์ของปลาโลมาแสนรู้และสิงโตทะเลที่ดอลฟินสเตเดี้ยมอีกด้วย

เวลาทำการ : 09.00-17.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1500 เยน, เด็กประถมและมัธยม 600 เยน, เด็กเล็ก 200 เยน

การเดินทาง : จากสถานี Niigata นั่งรถซิตี้บัสไปลงที่ป้าย Suizokukan-mae

ย่านร้านค้า นุตตาริ เทอเรซ ช้อปปิ้ง สตรีท (Nuttari Terrece Shopping Street)

ย่านร้านค้า นุตตาริ เทอเรซ ช้อปปิ้ง สตรีท (Nuttari Terrece Shopping Street)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Nuttariterasu2013.jpg

ย่านช้อปปิ้งบรรยากาศเรโทรในเมืองนีงาตะ ที่นี่มีร้านค้า แหล่งชอปปิ้งที่มีสินค้าน่าสนใจหลายหลายรูปแบบท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคผสมผสานกับสตรีทอาร์ตที่ทำให้เดินเล่นเพลินๆ หรือถ่ายรูปสวยๆได้หลายมุม ส่วนของขายก็มีทั้งงานศิลปะ งานปั้น งานคราฟท์อย่างเซรามิก เครื่องประดับน่ารักๆ เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ของที่ระลึก รวมถึงโซนร้านอาหาร ขนมและคาเฟ่ที่ตกแต่งบรรยากาศเก๋ๆ น่านั่งก็มีให้เลือกหลายร้าน

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ฟรี

การเดินทาง : จากสถานี Niigata นั่งรถซิตี้บัสไปลงที่ป้าย Nuttari Yotsukado

ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมมัตสึได โนบุไต (Matsudai NOHBUTAI Culture Center )

ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมมัตสึได โนบุไต (Matsudai NOHBUTAI Culture Center )

https://pixta.jp/

ตั้งอยู่ในเมืองโทคามาชิ (Tokamachi) ทางตอนใต้ของนีงาตะท่ามกลางบรรยากาศของป่า ภูเขา ชนบท เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่ได้มีรวบรวมผลงานศิลปะมาจัดแสดงนับ 100 ชิ้น จากศิลปินทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างประเทศในรูปแบบอินดอร์และศิลปะในโซนเอาท์ดอร์ ซึ่งตั้งอยู่รอบๆ อาคารหลัก ทั้งในทุ่งนา เชิงเขา สนามหญ้า ผู้มาชมงานจึงสามารถเช่าจักรยานปั่นไปชมผลงานตามจุดต่างๆ ได้ สำหรับการจัดนิทรรศการในอาคารก็มีทั้งนิทรรศการถาวรและนิทรรศการที่หมุนเวียนไปตามโอกาสต่างๆ รวมทั้งมีห้องอาหารแบบบุฟเฟต์บรรยากาศดีให้บริการด้วย

เวลาทำการ : 10.00-17.00 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี (บางนิทรรศการไม่ฟรี)

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hokuhoku Line ไปลงที่ สถานี Matsudai

know-before-you-go