แน่นอนว่าอันดับ 1 ก็ต้องเปิดตัวมาด้วยจุดชมซากุระที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองของที่นี่อย่างปราสาทโอซาก้าค่ะ นอกจากจะมีตัวปราสาทสวยๆ ให้ชมดูแล้ว ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่แบบนี้ รอบๆปราสาทก็จะเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 4,000 ต้น ที่แข่งกันผลิบาน อวดดอกสีชมพูสะพรั่งล้อมรอบปราสาท เรียกได้ว่าถ่ายมุมไหนก็สวยเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเลือกที่จะล่องเรือชมความงามของซากุระในคูน้ำรอบๆปราสาท และสวน Nishinomaru Park ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาทก็ยังเป็นพื้นที่ยอดนิยมสำหรับปิกนิกและชมแสงไฟของตัวปราสาทในตอนกลางคืนที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทาง: สามารถเลือกลงได้หลายสถานี แล้วเดินเล่นต่อจนถึงตัวปราสาท จะใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Morinomiya ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและ JR หรือ
รถไฟใต้ดิน: เดิน 10 นาที จากสถานี Tanimachi 4-chrome ของสาย Tanimachi หรือ Chuo
รถไฟ: เดิน 10-15 นาที จากสถานี Osakajokoen สาย JR Loop Line
ค่าเข้าชม
ปราสาทโอซาก้า: ด้านนอกฟรี ค่าเข้าปราสาท 600 เยน ค่าล่องเรือรอบปราสาท 1,500 เยน
สวน Nishinomaru Park : กลางวัน 200 เยน กลางคืน 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-20:00

สวนแห่งนี้ เหมาะกับคนที่อยากมาชมซากุระในราคาประหยัด พร้อมกับเดินเล่นสบายๆริมแม่น้ำ Okawa ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำคัญของโอซาก้า ตลอดเส้นทางนั้นมีซากุระปลูกตามแนวกว่า 5,000ต้น ให้บรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิที่ชมพูหวานลอยละล่องเคียงคู่สายน้ำมากๆค่ะ ตามเส้นทางยังมีจุดให้แวะปิกนิคได้ประปราย รวมทั้งที่นี่ก็มีกิจกรรมล่องเรือในแม่น้ำเช่นกัน กลางคืนก็จะมีการประดับไฟด้วยค่ะ การเดินทางนั้นก็แสนง่าย ติด JR Osaka Loop เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆของการมาชมซากุระที่โอซาก้าเลยค่ะ

การเดินทาง: ใกล้กับสถานี Sakuranomiya สาย JR Loop Line
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี แต่การเปิดไฟในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ จะเปิดไฟจนถึงเวลา 22:00

โรงกษาปณ์ Osaka Mint Bureau แห่งนี้ มีความพิเศษแตกต่างไปจากจุดชมซากุระอื่นๆ อย่างแรกคือ ที่นี่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมได้ตลอดค่ะ จะเปิดแค่ประมาณ 1สัปดาห์ในช่วงเดือนเมษาเท่านั้น ซึ่งต้องเช็คตารางกันมาดีๆ สามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ข้างล่างนี้ค่ะ

Japan Mint (ภาษาอังกฤษ)

ความพิเศษของที่นี่อย่างที่สองคือ ในสวนแห่งนี้จะมีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์กว่า 100 ชนิดให้เลือกชม เรียกได้ว่า สำหรับท่านที่ชอบซากุระแล้วที่นี่คือสวรรค์เลยค่ะ มาที่เดียวได้ชมครบทุกสายพันธุ์ ซากุระมีจำนวนไม่มาก เพียงแค่ราวๆ 300 กว่าต้น เท่านั้น แต่เต็มไปด้วยสายพันธุ์หายากค่ะ

การเดินทาง: อยู่ใกล้สถานี Temmabashi ซึ่งสามารถไปได้ด้วยสาย Keihan หรือ Tanimachi Line แล้วตากสถานีเดินไป 10 นาที
ค่าใช้จ่าย: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-21:00 (วันหยุดสุดสัปดาห์เปิด 9:00)

Expo 70 Commemorative Park เป็นสวนที่เคยใช้เป็นที่จัดแสดงงาน Expo 70 ในปี 1970 ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมเอานวัตกรรมใหม่ๆจากทั่วโลกในยุคนั้นมาจัดแสดงค่ะ (เห็นว่ามีหินจากดวงจันทร์ด้วยนะ) ปัจจุบันได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะ และด้วยความใหญ่โตของงาน Expo 70 ในยุคนั้น ที่นี่เลยมีพื้นที่กว้างใหญ่ ปลูกต้นไม้ไว้มากมาย เฉพาะซากุระอย่างเดียวก็ 5,000 กว่าต้นเข้าไปแล้วค่ะ ในฤดูใบไม้ผลิก็ถือว่าเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน

การเดินทาง: ใกล้กับสถานี Banpaku Kinen Koen ของสาย Osaka Monorail
ค่าใช้จ่าย: 250 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00

Tsurumi Ryokuchi Park แห่งนี้เคยเป็นที่จัดนิทรรศกาลดอกไม้ขนาดใหญ่ในปี ค.ศ.1990 ภายหลังก็ยังคงมีการดูแลและปลูกดอกไม้หลายต่อหลายพันธุ์เอาไว้ ต้นซากุระเองก็มีอยู่หลายร้อยต้นทั่วทั้งสวน และแน่นอนว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูแห่งดอกไม้ ที่นี่เองก็มีดอกไม้หลายชนิดที่จะบานพร้อมกันกับซากุระ ใครที่เอียนสีชมพูอย่างเดียวเก็บที่นี่ไว้เป็นตัวเลือกก็น่าสนใจนะคะ ถ่ายภาพได้หลายๆสไตล์ ไม่ซ้ำด้วย

การเดินทาง: ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Tsurumi Ryokuchi ของรถไฟสาย Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line
ค่าใช้จ่าย: ฟรี

ผู้เขียน: โพลก้าเนโกะ
นักเรียนต่างชาติที่ชอบการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่นชอบอาหารรสชาติดี และการตามรอยสถานที่ในอนิเมชั่น