รวมกิจกรรมในฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันเยอะ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากบนยอดเขาสูงของแถบฮอกไกโดก่อน แล้วค่อยๆ ไล่ลงมายังที่ระดับต่ำกว่า ฤดูของการชมใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ราวเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน นอกจากชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมและอีเวนท์น่าสนใจของฤดูใบไม้ร่วงอีกหลายอย่าง ลองไปติดตามกันดู
Autumn
1 ชมใบไม้เปลี่ยนสีตามอัธยาศัย
เมื่อญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็ย่อมถึงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสี ปรากฏการณ์ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม และสีชาก่อนที่จะหลุดร่วงไป ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก คนญี่ปุ่นก็ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันหลายสไตล์หลายรูปแบบกิจกรรม มีทั้งที่ไปกันเป็นหมู่คณะตามแพ็คเกจที่บริษัทนำเที่ยวจัดพาไป หลายครอบครัวไปปั่นจักรยานออกกำลังไปด้วยชมใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย หรือไปพายเรือแคนูไม่ก็นั่งเรือที่ตามสวนต่างๆมีจัดไว้บริการ บ้างก็ชวนคู่รักไปสัมผัสความโรแมนติกตามมุมต่างๆ ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม หรือแช่ออนเซ็นขณะชมใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วยก็เป็นกิจกรรมที่น่าอภิรมย์ไม่น้อย
พูดถึงกิจกรรมแช่ออนเซ็น ในญี่ปุ่นก็มีจุดที่สามารถไปพักผ่อนแช่ออนเซ็นชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่มากมายจนตัดสินใจไม่ถูกเลยทีเดียว จึงขอนำเสนอหนึ่งแห่ง บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งคุซัตสึออนเซ็น ไซโนะคาวาระ (Kusatsu Onsen Sainokawara) จังหวัดกุนมะ (Gunma) เป็นหนึ่งในบ่อแช่ออนเซ็นแบบกลางแจ้งที่แวดล้อมไปด้วยวิวของใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม คนนิยมไปแช่ที่นี่กันมาก บ่อออนเซ็นนี้มีขนาดกว้างประมาณ 500 ตารางเมตร แบ่งเป็นบ่อชายและหญิง จึงสามารถแช่ได้อย่างสบายใจไม่ต้องอาย การเดินทางสามารถขึ้นรถไฟสาย JR Agatsuma ลงสถานี Naganohara-Kusatsuguchi จากนั้นต่อรถ JR Bus สายที่จะไป Kusatsu Onsen ลงป้าย Kusatsu Onsen แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที
2 เที่ยวเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีและชมงานเปิดไฟไลท์อัพ
เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบคาวางุจิโกะ (Kawaguchiko) นี้เป็นอีเวนท์หนึ่งที่จัดขึ้นทุกปีเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาชมวิวใบไม้แดงสวยๆที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิพร้อมถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึก งานเปิดไฟไลท์อัพตอนกลางคืนของที่นี่ นับเป็นจุดหนึ่งที่โดดเด่นพอจะเป็นไฮไลท์ของงานเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงได้เลย ระยะเวลาจัดงานก็เป็นเดือน ทำให้มีนักท่องเที่ยวทยอยมาชมได้เรื่อยๆ ตลอดเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่กินพื้นที่กว้าง การจะชมได้ทั่วถึงถ้าไม่เช่าจักรยาน (ค่าเช่าประมาณ 1000 เยน/วัน) มาปั่นไปตามจุดวิวสวยหลายๆ มุม ก็นั่งรถบัสนำเที่ยวที่จะวิ่งวนรอบทะเลสาบ (ราคาตั๋วอยู่ที่ 1300 เยน ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยวเป็นเวลา 2 วัน) ซึ่งรถบัสก็จะจอดให้ตามป้ายต่างๆ ที่เราพอใจ ส่วนใหญ่คนจะลงกันที่ป้าย Kawaguchiko Natural Living Center เพราะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มตา
เมื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศงามๆ แล้วก็ลองเดินเล่นเลาะมาเรื่อยให้ถึงอุโมงค์ใบไม้แดง (Momiji Tunnel) เพราะที่นี่นั่นเองที่เป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยงามสุดๆ ของเทศกาลใบไม้ร่วงฟูจิ-คาวางุจิโกะ (Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival) ที่อยากพามาแนะนำ ในงานมีร้านขายของ อาหาร เครื่องดื่มให้ความสะดวกแก่เราด้วย อยู่ชมกันได้ตั้งแต่ 09.00 น. ไปถึงช่วงเย็นที่เขาเปิดไฟไลท์อัพกันเลย การประดับไฟไลท์อัพใบไม้เปลี่ยนสีเปิดให้ชมไปจนถึง 22.00 น. อย่าลืมเก็บภาพสวยๆ กลับบ้านกันล่ะ
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Limited Express Azusa จากสถานี Shinjuku มาลงสถานี Otsuki จากนั้นเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟ Fujikyu ไปลงปลายทางที่สถานี Kawaguchiko
3 เที่ยวงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ
งานอีเวนท์หนึ่งที่น่าไปเที่ยวและจัดแค่ปีละครั้งก็คือเทศกาลบอลลูนที่จังหวัดซางะ Saga International Balloon Fiesta ระยะเวลาจัดงานประมาณ 1 สัปดาห์ ราวปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นหนึ่งในงานเทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดและโด่งดังที่สุดในโลก เดิมเป็นงาน Balloon Fiesta เล็กๆ จัดที่จังหวัดฟุกุโอกะ ต่อมาได้รับความนิยมจึงย้ายสถานที่มาจัดงานริมแม่น้ำคาเซงาวะ (Kasegawa) จังหวัด Saga ดังในปัจจุบัน บริเวณที่จัดงานนี้พื้นที่กว้างใหญ่ทีเดียว จึงมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนที่เป็นจุดปล่อยบอลลูน ซึ่งประกอบไปด้วยการแข่งขันบอลลูนจากหลายประเทศที่เข้าร่วม โดยจัดแข่งกันรอบเช้ากับรอบบ่าย และเป็นจุดที่ใช้จัดการแสดงโชว์บอลลูนแฟนซี ตัวการ์ตูนยอดนิยมต่างๆ และตัวคาแรกเตอร์แปลกๆ ต่อมาโซนพลาซ่า เป็นโซนออกบูธร้านขายผลิตภัณฑ์หลากหลาย รวมไปถึงร้านอาหาร บูธเล่นเกม และบูธของที่ระลึก และโซนการแสดงบนเวทีเพิ่มสีสันให้กับเทศกาลได้เป็นอย่างดี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Limited Express Kamome จากสถานี Hakata มาลงสถานี Balloon Saga (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) จากนั้นจะมีรถ Shuttle Bus ให้บริการมาส่งยังสถานที่จัดงาน
4 ประทับใจกับเทศกาลชมดอกเบญจมาศ
ถ้าไม่พาไปชมเทศกาลดอกไม้เลยก็ดูแห้งแล้งอย่างไรชอบกล เราจึงไม่อยากให้พลาดเทศกาลชมดอกเบญจมาศทั่วญี่ปุ่น ซึ่งเป็นงานเทศกาลชมดอกไม้อีกชนิดในฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นที่นิยม ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นด้วย ดอกเบญจมาศเปรียบเหมือนดอกซากุระในฤดูใบไม้ร่วง สีและชนิดของดอกจะมีความแตกต่างกันไป มีทั้งสีเหลือง ส้ม ม่วง แดง ขาว บานตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงมีนาคม หลายจังหวัดในญี่ปุ่นต่างก็จัดงานเทศกาลชมดอกเบญจมาศในแบบของตัวเอง ซึ่งมีความน่าสนใจทุกงาน
ขอยกตัวอย่างมาสักเทศกาลหนึ่ง นั่นคือเทศกาลดอกเบญจมาศที่ศาลเจ้ายุชิมะเท็นจิน (Yushima Tenjin Kiku Matsuri) เป็นงานเทศกาลดอกเบญจมาศที่อลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว ประดับดอกเบญจมาศไว้กว่า 2000 ดอก จัดงานในเดือนพฤศจิกายนเกือบตลอดทั้งเดือน ในบริเวณศาลเจ้าจะมีการนำกระถางดอกเบญจมาศมาจัดวางเรียงรายน่าชม ประดับประดาเป็นรูปทรงที่หลากหลายแสดงไว้ตามซุ้มต่างๆ มีจัดโชว์ตุ๊กตาที่เครื่องแต่งกายทำจากดอกเบญจมาศเป็นต้น และเนื่องจากศาลเจ้ายุชิมะเท็นจินอยู่ไม่ไกลจากสวนอุเอโนะ จึงสามารถเดินทางมาได้สะดวก โดยขึ้นรถไฟสาย Tokyo Metro Chiyoda มาลงสถานี Yushima จากนั้นเดินต่ออีกแค่ประมาณ 2 นาทีก็ถึง
5 ครื้นเครงไปกับเทศกาลฮาโลวีน
และสำหรับอีกงานเทศกาลที่สนุกสนานและสร้างสีสันอย่างเทศกาลฮาโลวีนนั้น ญี่ปุ่นก็ไม่แพ้ที่ไหนในโลกเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นเทศกาลของทางตะวันตกก็ตาม แต่เราก็ได้เห็นบรรยากาศการฉลองฮาโลวีนในญี่ปุ่นจากข่าวสารต่างๆ ซึ่งแสดงให้รู้ว่าญี่ปุ่นจัดอีเวนท์ฮาโลวีนกันอย่างเอิกเกริกไม่เบา เราจะเห็นขบวนพาเหรดที่ตกแต่งรับธีมฮาโลวีน มีฟักทอง มีตุ๊กตาผี ค้างคาว พ่อมด แม่มด อะไรต่างๆ คนที่มาร่วมงานก็แต่งคอสเพลย์กันสนุกสนาน ร้านค้าทั้งหลายก็เกาะกระแสฮาโลวีนไปด้วย มีการประดับร้านให้เข้ากับธีม มีผลิตภัณฑ์แบบลิมิตคอลเลคชั่นฮาโลวีนที่เจาะจงสำหรับงานเทศกาลโดยเฉพาะ ไม่สามารถหาซื้อได้ในยามปกติ จัดโปรโมชั่นส่วนลดน่าสนใจมากมาย บางแห่งเริ่มงานฮาโลวีนกันแต่เนิ่นๆ ก็มี ช่วงราวกลางเดือนตุลาคมก็จะมีธีมฮาโลวีนออกมาให้เห็นกันแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวที่แพลนจะไปเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นมีเวลาได้เพลิดเพลินกับเทศกาลได้นานพอสมควร
สำหรับเทศกาลฮาโลวีนที่รื่นเริงแบบนี้ เราอยากให้ทุกคนสนุกกันเต็มที่จึงขอแนะนำสถานที่เที่ยวเป็นพวกสวนสนุกต่างๆ ที่จัดเต็มกับอีเวนท์ฮาโลวีน อย่างเช่น Tokyo DisneySea สวนสนุก Tokyo Disneyland และ Universal Studios Japan เป็นต้น แต่ตามเมืองใหญ่หลายจุดก็มีจัดเหมือนกัน เช่นชิบุย่าและอิเคบุคุโระ
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับกิจกรรมในฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นเหล่านี้
ผู้เขียน: hikawasa
นักแปลภาษาญี่ปุ่น-ไทย-อังกฤษ/นักเขียน (มือใหม่)
รักการ์ตูนเรื่องคุโรโกะ โนะ บาสเก็ตมากทุกรูปแบบทั้งอนิเมะ มังงะ เกม กู๊ดส์
คางามิ ไทกะคือเมนเรา ไอ เลิฟ ยูว