ไปเช็คอิน30จุดในฮอกไกโด-โทโฮคุด้วยJRพาสสุดคุ้ม
จังหวัด Miyagi และเมืองเซ็นได
Check point 20 : เมือง Naruko Onsen
หุบเขานารุโกะเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยติดอันดับต้นๆ ของภูมิภาคโทโฮขุ ตั้งอยู่ในเมือง นารุโกะออนเซน เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องของบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ มีเรียวคัง มีบ่อออนเซ็นสำหรับแช่เท้าแบบในร่มและกลางแจ้ง และ มีโรงอาบน้ำแร่เก่าแก่อยู่มากมาย ที่สำคัญคือมองไปทางไหนก็เจอเจ้าตุ๊กตาไม้หัวกลมๆ เต็มไปหมดค่ะ
ซึ่งเจ้าตุ๊กตาพวกนี้เค้าจะเรียกว่า โคะเคะชิ (Kokeshi) ซึ่งเมืองนารุโกะ สืบทอดการทำตุ๊กตาโคะเคะชิมาตั้งแต่สมัยเมื่อ 200 ปีก่อน ถือเป็นของฝากยอดนิยมของที่นี่
เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูหนาวเนอะ ไม่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้เราชม กิจกรรมวันนี้สนุกๆ กันค่ะ โดยมีคอร์สกิจกรรม 4 อย่างที่เราสามารถทำได้ที่เมืองนารุโกะแห่งนี้ ได้แก่!!!! ระบายสีตัวโคเคนชิ แช่ออนเซน แลกตั๋วกับผ้าขนหนูที่ร้านขายของฝาก และทานคุริดังโกะซึ่งเป็นขนมที่ทำจากเกาลัดฟรี สามารถติดต่อเรื่องตั๋วของคอร์สนี้ได้ที่ Tourist Counter ที่สถานี Naruko-Onsen
https://www.tohoku-buffet.com/product/jt35-minori-naruko-kanko-hotel-d1/?view=lp
ตุ๊กตาโคะเคะชิทำจากไม้ท่อนเดียว ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีเพศ ไม่มีเงินซื้อ เอ้ย!! มีมาตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อน ในสมัยเอโดะ โดยหน้าตาของตุ๊กตาในแต่ละตระกูลก็จะไม่เหมือนกันด้วยค่ะแต่วันนี้เราจะไม่ได้มานั่งกลึงไม้ทำตุ๊กตานะคะ เราเหมาะกับการสวยๆ งานประณีต นั่นก็คือการระบายสีตุ๊กตานั่นเอง
นี่คือผลงานของเราค่ะ 5555555
รอสีแห้งสนิท รับตุ๊กตากลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจ
เวลาเปิด-ปิด แตกต่างกันไปตามเวลาของแต่ละร้าน
การเดินทาง จากสถานี Sendai นั่งรถไฟ Tohoku Shinkansen ลงที่สถานี Furukawa ต่อรถไฟสาย Rikuu East Line ลงสถานี Naruko Onsen
ที่อยู่ Yumoto2-1,Naruko Onsen,Osaki,Miyagi
แผนที่ https://goo.gl/maps/fnoz2rPSmaK2
เบอร์ติดต่อ 0229-82-2102
เว็บไซต์ www.en.naruko.gr.jp
Check point 21 : นั่งรถไฟ Resort Minori
หนึ่งในรถไฟ Joyful Train อีกขบวนที่เราได้มีโอกาสนั่งจากสถานี Naruko Onsen ไปลงที่สถานี Sendai ค่ะ เป็นรถไฟขบวนสั้นๆ ที่มีแค่ 2-3 โบกี้เท่านั้น พัฒนาจากรถไฟหน้าตาธรรมดา เป็นรถไฟท่องเที่ยว โดยการขยายหน้าต่างให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้รถไฟดูโล่ง กว้าง และสามารถชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้สมจริงมากยิ่งขึ้นค่ะ
โดยรถไฟขบวนนี้วิ่งระหว่าง สถานีเซ็นได (Sendai) กับชินโจ (Shinjo) จะฮอตมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขนาดสีสันของรถไฟแล้ว ยังมีการออกแบบตกแต่งให้เข้ากับฤดูใบไม้ผลิเลย
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถไฟจะมีเจ้าหน้าที่มาแจกสติ๊กเกอร์และโปสการ์ดให้เป็นของที่ระลึก เราสามารถมาปั้มตราประทับลงในโปสเตอร์ใบนั้นได้ค่ะ
สิทธิพิเศษสำหรับบัตร JR Rail Pass หรือ JR Tohohu สามารถขึ้นรถไฟขบวนนี้ได้ฟรี!!! แต่ต้องเข้าไปจองที่นั่งล่วงหน้าในเว็บไซต์ด้วยนะคะ
ทางไปจอง : https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/Common/Menu/Menu.aspx
ซื้อตั๋วได้ที่ JR EAST Travel Service Center และ JR Ticket Office ตามสถานีใหญ่ของ JR
เที่ยวรอบอ่าวมัตสึชิมา Matsushima Bay
ตั้งอยู่ตอนเหนือของเมืองเซ็นได ติดกับมหาสมุทรแปซิกฟิก จากเมืองเซ็นไดใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่ะ เป็นอ่าวที่มีเกาะน้อย เกาะใหญ่ เรียงรายกันอยู่เกือบ 300 เกาะ
บริเวณอ่าวมัตสึชิมา มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก มีกิจกรรมล่องเรือด้วย แต่เนื่องจากเรามีเวลาค่อนข้างจำกัด จึงได้แค่เดินเที่ยวเล่นๆ รอบๆ อ่าวเท่านั้นค่ะ
วิธีเดินทาง : ใช้เวลา 40 นาที จากเมืองเซ็นได สามารถนั่ง JR Senseki มาลงที่ JR Matsushima Kaigan เดินต่ออีก 10 นาที
แผนที่ https://goo.gl/maps/Vo5nvPPu2a42
https://www.tohoku-buffet.com/product/tbmg11-bustour-matsushima-osanpo/?view=lp
Check point 22 : ร้าน Nanbuya กับข้าวหน้าหอยนางรม
เค้าว่ากันว่ามัตสึชิม่า มีหอยนางรมที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ใครไม่เชื่อก็ต้องลองมาชิม เพราะอ่าวที่นี่เค้าขึ้นชื่อในการเลี้ยงหอยนางรม และเป็นแหล่งผลิตหอยนางรมที่สำคัญอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วย ร้านที่เราจะมากินหอยนางรมกันก็คือร้าน Nanbuya ค่ะ อยู่ตรงข้ามกับท่าเรือของอ่าวมัตสึชิม่าเลย
ดูจากการตกแต่งร้านแล้ว ไม่สั่งหอยนางรมก็คงไม่ได้ค่ะ เซตที่เราสั่งไปเรียกว่า คากิด้งเซต ขอเรียกง่ายๆ ว่าเซ็ต 3 หอย ก็จะ มีข้าวหน้าหอยนางรม เทมปุระหอยนางรม และหอยนางรมอวบๆ สดๆ ราคาเซ็ตนี้ 2100 เยน
อิ่มแล้วก็เที่ยวกันต่อค่ะ ไม่ไกลจากร้านหอยนางรม เราเดินมายัง วัด Godaido ค่ะ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ที่ยื่นออกไปในอ่าวมัตสึชิม่า
เวลาเปิด-ปิด 10.00-16.00
วิธีเดินทาง : นั่ง JR Senseki มาลงที่ JR Matsushima Kaigan เดินประมาณ 7 นาที
ที่อยู่ Chonai-103 Matsushima, Miyagi District, Miyagi Prefecture
แผนที่ https://goo.gl/maps/zz76FifVwLG2
เบอร์โทรศัพท์ +81 22-354-2624
Check point 23 : วัด Godaido
สร้างขึ้นเมื่อปี 1893 เป็นวัดเรือนไม้ขนาดเล็กทรงสี่เหลี่ยมหลังคามุงกระเบื้อง บริเวณวัดมีต้นสนล้อมรอบ ถึงแม้จะสร้างมากว่าพันปีแล้ว แต่ยังคงรักษาสภาพสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน
ผนังของวัดทั้ง 4 ทิศ มีรูปแกะสลักของ 12 นักษัตร พยายามเดินหาปีนักษัตรของตัวเองแต่ก็หาไม่เจอ ธรรมเนียมของวัดแห่งนี้ คือจะเปิดวิหารให้เข้าชมทุกๆ 33 ปี รอบล่าสุดที่เปิดไปคือวันที่ 18-20 สิงหาคม 2016
เจอตู้สีแดงเล็กๆ เป็นตู้เซียมซีทำในดวงข้างศาลเจ้าตู้หนึ่ง ใช้เหรียญ 100 เยน หยอดลงไปในตู้ คำทำนานก็หล่นตุ๊บ! ลงมาเป็นกระดาษสีขาวที่พับๆๆ กันหลายทบมาก ในนั้นก็จะเป็นคำทำนายที่เป็นภาษาญี่ปุ่นยาวๆ
ใครเสี่ยงได้ใบที่ดีก็เอากลับบ้าน ไม่ดีหรือไม่ค่อยดีก็จะเอาไปผูกไว้ที่ต้นไม้ เชื่อกันว่าเป็นการผูกด้วยไว้กับเทพเจ้า แล้วทางศาลเจ้าก็จะนำไปทำพิธีเผาให้ค่ะ
เพิ่งรู้ด้วยว่าใบเซียมซีมีอายุไขด้วยนะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีอายุ 1 ปี เราเสี่ยงได้ใบทำนายใบที่ดีมาก.. เพราะฉะนั้นรอบหน้าหาเหตุผลกลับมาญี่ปุ่นได้ละ เอาใบเซียมซีกลับไปทำพิธีเผา
เวลาเปิด-ปิด
วิธีเดินทาง : นั่ง JR Senseki มาลงที่สถานี JR Matsushima Kaigan เดิน 8 นาที
ที่อยู่ Chonai, Matsushima, Matsushima-machi Miyagi-gun, Miyagi, 981-0213, Japan
แผนที่ https://goo.gl/maps/51BNu1pKRRq
เว็บไซต์ http://www.matsushima-kanko.com/en/
เบอร์โทรศัพท์ 81-022-354-2618
Check point 24 : Kanrantei Teahouse
ที่นี่เคยเป็นร้านน้ำชาประจำตระกูลดาเตะ และเคยให้บริการเหล่าซามุไร องค์หญิง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นในสมัยโบราณ ปัจจุบันเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เข้ามาจิบชาเขียวและรับประทานขนมญี่ปุ่น พร้อมนั่งชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ของอ่าวมัตสิชิม่า
ชาเขียวและขนมญี่ปุ่น จะมีแตกต่างไปตามแต่ละเมนู โดยเราจะต้องซื้อตั๋ว พร้อมเลือกเซตขนมปละชาเขียว ได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วบริเวณทางเข้า
เราสั่ง Kabocha Cake ราคา 500 เยน เซตชาเขียวร้อนๆ กับเค้กฟักทอง ปกติแล้วเค้าจะจิบน้ำชาให้หมดก่อนแล้วตามด้วยขนม แต่เราว่าขาเขียวมันมีรสชาติขมนิดๆ ถ้าทานไปพร้อมๆ กันกับขนมรสหวาน ก็น่าจะเข้ากันดี
เวลาเปิด-ปิด
เดือนเมษายน-ตุลาคม 08.30-17.00
เดือน พฤศจิกายน-มีนาคม 08.30-16.30
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 200 เยน / นักเรียน 150 เยน / เด็ก 100 เยน
การเดินทาง
JR Sendai Line : ลงสถานี Matsushima-Kaigan เดินต่ออีก 4 นาที
ที่อยู่ Chonai56, Matsushima, Matsushima-machi Miyagi-gun, Miyagi, 981-0213, Japan
แผนที่ https://goo.gl/maps/ihSqbR8JVvk
เบอร์ติดต่อ +81 22-353-3355
Website http://www.town.miyagi-matsushima.lg.jp
Check point 25: วัด Zuiganji
หนึ่งในวัดเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮขุ ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับประเทศค่ะ มีชื่อเสียงเรื่องภาพวาดบนประตูบานเลื่อนที่งดงาม ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.828 ได้รับบูรณะและถูกยกให้เป็นวัดประจำตระกูล ดาเตะ มะซะมุเนะ
เมื่อผ่านประตูทางเข้าวัดไปก็จะเจอกับทางเดินยาว สองข้างทางเป็นต้นสนที่สูงใหญ่อายุหลายร้อยปี ปลูกเรียงรายยาวไปจนถึงประตูข้างใน
ก่อนจะเข้าไปชมภาพวาดปิดทองบนประตูบานเลื่อนเราจะต้องเดินผ่านทางเดินอุกุยสุบาริ เสียงพื้นไม้จะดังตลอดทุกจังหวะการก้าวเดิน เพราะทางเดินแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถรู้ได้ว่ามีผู้บุกรุก ภายนอกมีการตกแต่งสวนในแบบอดีตคือการทำก้อนหินให้มีลักษณะเป็นร่องเหมือนลายเส้น
ภาพทั้งหมดที่ถ่ายมาได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่แล้วนะคะ ปกติภายในที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างเดียวเท่านั้น ภายในมีภาพวาดปิดทองบนประตูบานเลื่อน รูปปั้นไม้แกะสลักของ ดาเตะ มะซะมุเนะ ในท่านั่งสวมชุดเกราะแบบเต็มยศ
เวลาเปิด-ปิด 8.00-17.00 ซื้อตั๋วก่อนปิด 30 นาที
ค่าเข้าชม อายุ 15 ปีขึ้นไป 700 เยน / อายุต่ำกว่า 15 ปี 400 เยน
การเดินทาง
JR Sendai Line : ลงสถานี Matsushima-Kaigan เดินต่ออีก 5 นาที
ที่อยู่ Chonai91, Matsushima, Matsushima-machi Miyagi-gun, Miyagi, 981-0213, Japan
แผนที่ https://goo.gl/maps/jeEMo9qvtay
เบอร์ติดต่อ +81 22-354-2023
Website http://www.zuiganji.or.jp/en/
Check Point 26 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เซ็นได อุมิโนะโมริ (Sendai Umino-mori Aquarium)
ปกติแล้วเราจะเป็นคนที่ไม่ชอบไปสวนสัตว์หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะไรแบบนี้เลยค่ะ เพราะเราสงสารสัตว์ที่ต้องโดนขังเอาไว้ แต่หลังจากที่ได้เข้ามาเดินชมที่นี่ เรารู้สึกอิจฉาสัตว์ที่นี่มาก เพราะเค้าทำออกมาได้ดีมากจริงๆ ค่ะ และที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮขุอีกด้วย ภายในมีสัตว์น้ำที่หาดูยาก มาปลาหน้าตาแปลกๆ เยอะแยะมากมาย มีเพนกวิ้น มีการรวบรวมสัตว์ทะเลมาจากทั่วทุกมุมโลก
มีโชว์น่ารักๆ ของปลาโลมาและสิงโตทะเล ที่อุมิโนะโมริ สเตเดียม ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ด้วย ทันทีที่ได้มาชมการแสดงของปลาโลมา เราก็อยากเกิดเป็นปลาโลมาเนอะ ทั้งเก่งและฉลาด อิจฉา!!!
ทันที่ที่การแสดงจบลง เราก็อยากเกิดเป็นอุ๋ง!!!! แทน 555
เวลาเปิด-ปิด
ช่วงเวลาปกติ เปิดให้เข้า 09.00-18.00 น. ปิด 18.30 น.
ช่วงฤดูร้อน เปิดให้เข้า 09.00-19.00 น. ปิด 19.30 น.
ช่วงฤดูหนาว เปิดให้เข้า 09.00-17.00 น. ปิด 17.30 น. (5พฤศจิกายน-15มีนาคม)
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 2100 เยน / นักเรียนมัธยม 1600 เยน / นักเรียนประถม 1100 เยน / เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 600 เยน / ผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป 1600 เยน
การเดินทาง
JR Sendai Line : ลงสถานี Nakanosakae ของ สาย Senseki Line (ใช้เวลา 18 นาที) เดินต่ออีก 15 นาที มีบริการรถรับส่ง shuttle bus ฟรี จากสถานี
รถไฟใต้ดิน : จากสถานี Sendai Station ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายโทไช ลงที่ Arai Station นั่งรถเมล์ประจำทาง (Miyako Bus) ไป 18 นาที
ที่อยู่ 4-6 นากาโนะ, มิยางิโนะ-คุ,เซ็นได
แผนที่ https://goo.gl/maps/gECqUMpP9Pq
เบอร์ติดต่อ 022-355-2222
Website www.uminomori.jp/umino/en/index.html
Check point 27 : ร้าน date gyutan honpo
กิวตัน(gyutan) หรือลิ้นวัวย่างเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดในเมืองเซ็นไดนิยมหั่นเป็นชิ้นๆ หมักกับซอสและนำไปย่างบนเตาร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและเครื่องเคียง
การเดินทาง
เดิน 3 นาที จากสถานี JR Sendai
ที่อยู่ 4 Chome-10-11 Central, Aoba Ward, Sendai, Miyagi Prefecture
แผนที่ https://goo.gl/maps/kdy9t1zbJbv
เบอร์ติดต่อ +81 22-722-2535
Website https://www.dategyu.jp/shop/
Check point 28 : สุสานซุยโฮเดน (Zuihoden)
สุสานซุยโฮเด็ง เป็นสถานที่ฝังศพของท่านดาเตะ มะซะมุเนะ เจ้าผู้ครองเมืองเซ็นไดคนแรก ที่สร้างเมืองเซ็นไดแห่งนี้ขึ้นมา ภายในยังเป็นที่ตั้งของสุสานลูกชายท่าน ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองในรุ่นที่ 2 และสุสานหลานชาย ทายาทผู้ครองเมืองรุ่นที่ 3
สถาปัตยกรรมแบบโมโมะยามะคือการลงรักปิดทอง และเน้นลายสีสันสดใส แต่สุสานทั้ง 3 ถูกสร้างขึ้นแทนหลังจากถูกทำลายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการเลียนแบบให้เหมือนของเดิมมากที่สุด เราจะเห็นตัวมังกรอยู่ตามมุมต่างๆ ของสุสาน บนหลังคาก็มี ซึ่งจะเป็นลักษณะของมังกร 2 ตัวอยู่คู่กันเสมอ มังกรตัวที่อ้าปากหมายถึงจุดเริ่มต้น ตัวที่ไม่อ้าปากหมายถึงจุดสิ้นสุด
เวลาเปิด-ปิด
1 กุมภาพันธ์ - 30 พฤศจิกายน 09.00-16.30 น.
1 ธันวาคม- 31 มกราคม 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 550 เยน / นักเรียน ม.ปลาย 400 เยน / ม.ต้น 200 เยน
การเดินทาง
Loople Sendai Bus : 15 นาที จากสถานี JR Sendai ลงป้าย Zuihoden Mausoleum(ป้ายที่ 4) เดินขึ้นเนินไปยังสุสานอีก 150 เมตร
รถแท็กซี่ : 10 นาที จากสถานี JR Sendai
ที่อยู่ 23-2, Otamayashita, Aoba-ku Sendai-shi, Miyagi, 980-0814, Japan
แผนที่ https://goo.gl/maps/yc41mh1Z7WS2
เบอร์ติดต่อ +81 22-262-6250
Website https://www.zuihoden.com/en/
Check point 29 :ซากปราสาทเซนได
ในอดีตบนเขาอะโอบะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเซ็นได (เรียกอีกชื่อว่า ปราสาทอะโอบะ) อันยิ่งใหญ่ สร้างเมื่อ ค.ศ. 1600 โดยเจ้าผู้ครองเมืองเซนไดคนแรก ทำเลเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 100 เมตร มีหน้าผาซึ่งเป็นปรากฏการธรรมชาติ และมีแม่น้ำฮิโรเสะ (Hirose) อยู่ด้านล่าง จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีในการสร้างป้อมปราการป้องกันข้าศึกศัตรู
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวปราสาทและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ถูกทำลายอย่างย่อยยับ จนไม่เหลือซาก ประตูโอเตมอน Otemon Gate ศาลเจ้าโกโคขุ Gokoku กำแพงหิน รวมถึงอนุสาวรีย์ท่านดาเตะบนหลังม้า ถูกสร้างขึ้นมาภายหลัง เพื่อระลึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของปราสาทแห่งนี้
มีจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถเห็นวิวทิวน์ทัศน์ของเมืองเซ็นไดอีกด้วยค่ะ
เวลาเปิด-ปิด
พื้นที่สาธารณะเปิด 24 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะเปิด 09.00-17.00 น.
เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ปิด 16.00 น.
จำหน่ายตั๋วก่อนเวลาปิด 30 นาที
ศาลเจ้าโกโคขุ เปิด 08.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม
บริเวณรอบๆ เข้าชมฟรี
พิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะ 700 เยน มีตั๋ว Loople Sendai Bus ลดเหลือ 500 เยน
การเดินทาง
Loople Sendai Bus : 30 นาที จากสถานี JR Sendai ลงป้าย Sendai Joseki เดินต่ออีก 5 นาที
ที่อยู่ Miyagi-ken, Sendai-shi, Aoba-ku, 天主台 青葉城址
แผนที่ https://goo.gl/maps/NMJqfQrZUrt
เบอร์ติดต่อ +81 22-222-0218
Website http://www.honmarukaikan.com/
Check point 30 : โอซากิฮาจิมังกู (Osaki Hachimangu Shrine)
ก่อนกลับไทยได้มีโอกาสมาไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าเก่าแก่ประจำเมืองเซ็นได ที่เกิดขึ้นจากการดำริของท่านดาเตะ (เจ้าเมืองเซนได) เป็นศาลประจำตระกูลดาเตะ สร้างเพื่อขอให้เทพเจ้าปกป้องคุ้มครองชาวเมืองเซ็นได และเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหารในขณะนั้น
มีความเชื่อกันว่าศาลเจ้าฮาจิมังกุ เป็นตัวแทนแห่งเทพผู้ปกปักรักษา
และเทพเจ้าเหล่านี้จะให้พรเกี่ยวกับการแข่งขัน การสู้รบ การมีชัยชนะในสงคราม
ผู้คนเลยพากันมาเขียนป้ายขอพร ขอให้สอบผ่านมหาลัย สอบเข้าโรงเรียนนั้นๆ ได้
ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ กลายเป็นสมบัติของชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เวลาเปิด-ปิด เปิด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง
Loople Sendai Bus : ลงป้าย Osaki Hachimangu-mae
JR Senseki Line : ลงที่สถานี Kunimi เดินต่ออีก 15 นาที
ที่อยู่ 4 Chome-6-1 Hachiman, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
แผนที่ https://goo.gl/maps/xJQFZhDH7ZQ2
เบอร์ติดต่อ 22-234-3606
Website www.oosaki-hachiman.or.jp
ดูรายละเอียดตั๋วที่ใช้คราวนี้ JR East-South Hokkaido Rail Pass
http://www.jreasthokkaido.com/easthokkaido/e/