สถานที่ต้นกำเนิดของ Tanbo Art ขนาดใหญ่ที่มีผู้มาร่วมชมงานในช่วงเทศกาลเป็นจำนวนมากทุกปี ซึ่งที่นี่ก็มีจุดชมวิวศิลปะบนทุ่งนาจากมุมสูงให้ได้ขึ้นไปชมและถ่ายภาพกันด้วย

ค่าเข้าชมบนหอคอย : ผู้ใหญ่ 200 เยน, เด็ก 100 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม

เมืองอาซาฮิคาวะในฮอกไกโด ก็เป็นอีกเมืองที่สามารถไปชมความคิดสร้างสรรค์ของผลงานศิลปะบนนาข้าวได้ทุกปี ที่นี่จะมีการแสดงงานศิลปะบนแปลงนาข้าวขนาด 40x170 เมตร ในธีมที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินไปชมคือ ราวๆต้นเดือนกรกฏาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม และถ้าสนใจช่วที่รวงข้าวเปลี่ยนสีก็จะเป็นช่วงต้นเดือนตุลาคม

หมายเหตุ : ไม่มีค่าเข้าชมและกำหนดเวลาเปิดปิด

ธีมของงานศิลปะในนาข้าวที่โยเนะซาวะ จังหวัดยามากาตะ มักจะแฝงไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เช่น ธีมซามูไร ขุนนาง นักรบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางไปชม Tanbo Art ที่นี่ อยู่ราวๆ กลางเดือนกรกฏาคม-ต้นเดือนตุลาคมของทุกปี

หมายเหตุ : ไม่มีค่าเข้าชมและกำหนดเวลาเปิดปิด

มีพื้นที่แสดงศิลปะในนาข้าวทางตอนเหนือของเมืองเกียวดะ จังหวัดไซตามะ เมืองที่ Guinness World Record ได้บันทึกสถิติว่าเป็นศิลปะบนนาข้าวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 2015 โดยสามารถไปชมงานเทศกาล Tanbo Art ได้ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ราวๆกลางเดือนกรกฏาคม-ต้นเดือนตุลาคม

ค่าเข้าชมบนหอคอย : สามารถชมวิวมุมสูงได้จากหอดูดาว Kodai Hasu Kaikan ในสวน Kodai Hasu no Sato ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน (ไม่ระบุเวลาเปิด-ปิด)

มีการแสดงศิลปะในนาข้าวที่ชุมชนมิซุซาวะ (Mizusawa) ในเมืองโอชู จังหวัดอิวาเตะเป็นประจำทุกปี นิยมใช้ธีมจากฉากจากละครคาบุกิ ร่วมกับคาแรกเตอร์ในการ์ตูนสมัยใหม่ เช่น อันปังแมน (Anpanman) ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมงานคือ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม-กลางเดือนตุลาคม

หมายเหตุ : ไม่มีค่าเข้าชมและกำหนดเวลาเปิดปิด