All About Japan

10 จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

ภูเขา แผนการการเดินทาง ภูเขาไฟฟูจิ เที่ยวญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ Tokyo Kanagawa Shizuoka Yamanashi Kanto Chubu
10 จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) สัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดทั้งปี ซึ่งจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจินั้นสามารถมองเห็นได้จากหลายแห่ง หลายมุมมอง และในหัวข้อนี้ก็จะขอแนะนำ 10 จุดชมวิวรอบๆภูเขาไฟฟูจิที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ, ยามานาชิ (Lake Kawaguchiko, Yamanashi)

1. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ, ยามานาชิ (Lake Kawaguchiko, Yamanashi)

1 ในทะเลสาบทั้ง 5 แห่งภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Five Lakes) โดยทะเลสาบคาวากูจิโกะเปรียบเหมือนศูนย์กลางในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิดจนได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ฟูจิ การเดินทางเข้าถึงก็สะดวกเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบวิวธรรมชาติแบบหลากหลายและสวยงามทุกฤดูกาล สามารถนั่งรถเรโทรบัสชมวิวรอบๆทะเลสาบหรือจะปั่นจักรยานก็เป็นกิจกรรมยอดนิยมเช่นกัน

เวลาทำการ : 09.00–17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ฟรี

การเดินทาง : เริ่มต้นที่โตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Chuo line ไปลงที่สถานี Otsuki จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

หรือจากสถานี Shinjuku นั่งรถบัสไปยังสถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

2. หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไค, ยามานาชิ (Oshino Hakkai, Yamanashi)

2. หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไค, ยามานาชิ  (Oshino Hakkai, Yamanashi)

หมู่บ้านเล็กๆที่รู้จักกันดีในชื่อหมู่บ้านน้ำใส เพราะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 8 บ่อ ซึ่งมีต้นน้ำไหลมาจากหิมะที่ละลายบนภูเขาไฟฟูจิ โดยมีความเชื่อว่าถ้าได้ดื่มน้ำที่นี่จะทำให้อายุยืนยาวและสุขภาพดี ในวันที่อากาศปลอดโปร่งที่หมู่บ้านแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวสวยงามของภูไฟฟูจิท่ามกลางบรรยากาศของหมู่บ้านและธรรมชาติอันร่มรื่นจึงเป็นอีกจุดสำหรับถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

เวลาทำการ : 09.00–17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ฟรี

การเดินทาง : เริ่มต้นที่โตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Chuo line ไปลงที่สถานี Otsuki จากนั้นโดยสารรถไฟ Fuji-Kyuko line ไปลงที่สถานี Fujisan ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที แล้วต่อรถบัส Fuji-Kyuko Route Bus ไปลงที่ป้าย Oshino Hakkai ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

3. โฮตทาระคาชิออนเซ็น, ยามานาชิ (Hottarakashi Onsen, Yamanashi)

3. โฮตทาระคาชิออนเซ็น, ยามานาชิ (Hottarakashi Onsen, Yamanashi)

ออนเซ็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีที่พักค้างคืน ตั้งอยู่บนเนินสูงและมีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งยอดนิยม 2 แห่งชื่อว่า คทชิโนะยุ (Kotchi no Yu) ที่หันหน้าหาภูเขาไฟฟูจิและอัทชิโนะยุ (Atchi no Yu) ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิทางขวามือและมองเห็นวิวเมืองโคฟุได้ด้วย เรียกว่านอกจากจะได้แช่ออนเซ็นกลางแจ้งแล้วยังได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิในอีกมุมมองที่น่าสนใจมาก

เวลาทำการ : 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจนถึง 22.00 น. (ปิดรับลูกค้าเวลา 21.30 น.)

ค่าใช้จ่าย : ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ

การเดินทาง : เริ่มต้นที่โตเกียว จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟสาย LTD. EXP KAIJI ไปลงที่สถานี Yamanashi-shi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถแท็กซี่อีกประมาณ 10 นาที

4. ทุ่งดอกชิบะซากุระ, ยามานาชิ (Fuji Shibazakura Festival, Yamanashi)

4. ทุ่งดอกชิบะซากุระ, ยามานาชิ (Fuji Shibazakura Festival, Yamanashi)

ทุ่งดอกชิบะซากุระสีชมพูสดใสและมีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง สามารถเดินทางไปชมได้เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นในงานเทศกาลชมดอกชิบะซากุระภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Shibazakura Festival) ซึ่งจะได้พบกับดอกชิบะซากุระกว่า 800,000 ดอกบานสะพรั่งเป็นสีชมพูเต็มพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างใกล้ชิดด้วย

เวลาทำการ : จัดขึ้นประมาณกลางเดือนเมษายน-ปลายพฤษภาคม (ฤดูใบไม้ผลิ) ของทุกปีตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 250 เยน

การเดินทาง : เริ่มต้นที่โตเกียว จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟสาย LTD. EXP KAIJI หรือ JR Chuo Express Azusa ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วขึ้นรถบริการรับส่ง Shibazakura Liner เดินทางตรงไปถึงสถานที่จัดงาน ใช้เวลา 35 นาที

5. มิชิมะสกายวอล์ค, ชิสึโอกะ (Mishima Skywalk, Shizuoka)

5. มิชิมะสกายวอล์ค, ชิสึโอกะ (Mishima Skywalk, Shizuoka)

สถานที่เที่ยวและเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2015 เป็นสะพานแขวนที่มีความยาว 400 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา จากบนสะพาน สามารถมองเห็นภูเขาฟูจิอย่างเด่นชัด เมื่อเดินข้ามสะพานไปถึงอีกฝั่งก็จะเจอกับสวนป่าคิโคะโระ (Kicoro) สำหรับเดินถ่ายรูปได้เพลินๆ นอกจากนี้บริเวณรอบๆพื้นที่ก็มีร้านอาหาร คาเฟ่ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย

เวลาทำการ : เดือนเมษายน-ตุลาคม ตั้งแต่ 09.00-17.00 น.

เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 09.00-16.30 น.

ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, นักเรียนมัธยม 500 เยน, นักเรียนประถม 200 เยน

การเดินทาง : เริ่มต้นจากโตเกียว นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปลงสถานี Mishima ใช้เวลาประมาณ 54 นาที แล้วต่อรถบัส Tokai Bus หมายเลข 5 ไปลงที่ป้าย Hakoneseiroku Mishima-otsuribashi ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

6. สวนที่ราบสูงอาสะกิริ, ชิสึโอกะ (Asagiri Kogen Highland Park, Shizuoka)

6. สวนที่ราบสูงอาสะกิริ, ชิสึโอกะ (Asagiri Kogen Highland Park, Shizuoka)

ตั้งอยู่ในจังหวัดชิสึโอกะทางตอนใต้ของภูเขาไฟฟูจิบนความสูงกว่า 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นสวนบนที่ราบสูงที่มีทิวทัศน์สวยงามท่ามกลางธรรมชาติและวิวภูเขาไฟฟูจิ อีกทั้งรอบๆพื้นที่แห่งนี้ก็มีทั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์, รีสอร์ทที่ให้บริการตั้งแคมป์ โดยเฉพาะในฤดูร้อนแล้วก็ยังมีบริการร้านอาหาร คาเฟ่บรรยากาศน่ารัก บริการออนเซ็น เหล่านี้เป็นต้น

เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน

ค่าใช้จ่าย : ฟรี

การเดินทาง : เริ่มต้นจากโตเกียว นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปลงสถานี Shin-Fuji ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นต่อรถบัส Fuji Kyuko Bus ไปลงที่ป้าย Asagiri kogen bus stop ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเดินอีก 1 นาที

7. ศาลเจ้าฟูจิซังฮอนงูเซ็นเก็ง, ชิสึโอกะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha, Shizuoka)

7. ศาลเจ้าฟูจิซังฮอนงูเซ็นเก็ง, ชิสึโอกะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha, Shizuoka)

ศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับพันปีที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฐานภูเขาไฟฟูจิ เมื่อเดินทางมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้า ก็จะได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวดอกซากุระพร้อมๆกับภูเขาไฟฟูจิที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากอีกแห่งหนึ่ง

เวลาทำการ : เดือนเมษายน-กันยายน ตั้งแต่ 05.00-20.00 น.

เดือนมีนาคม-ตุลาคม ตั้งแต่ 05.30-19.30 น.

เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 06.00-19.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ฟรี

การเดินทาง : เริ่มต้นจากโตเกียว นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปลงสถานี Atami ใช้เวลาประมาณ 47 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Tokaido Line for FUJI ลงที่สถานี Fuji ใช้เวลา 40 นาที เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Minobu Line ไปลงสถานี Fujinomiya แล้วเดินอีก 10 นาที

8. ทะเลสาบอาชิ ฮาโกเน่, คานากาวา (Ashinoko Lake Hakone, Kanagawa)

8. ทะเลสาบอาชิ ฮาโกเน่, คานากาวา (Ashinoko Lake Hakone, Kanagawa)

วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากฮาโกเน่ก็คือ การล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมทั้งความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีโดยมีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังระหว่างที่ล่องเรืออยู่กลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นภาพที่งดงามมาก

เวลาทำการ : 9.00-17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : มีค่าใช้จ่ายในการล่องเรือประมาณ 1,000 เยน

การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟ Odakyu Romance Car ไปลงที่สถานี Hakone-Yumoto ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที

หรือนั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Main Line ไปลงสถานี Odawara จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปสาย Tozan line ไปลงที่สถานี Hakone-Yumoto

9. ชายหาดยูอิกะฮามะ, คานากาวา (Yuigahama Beach, Kanagawa)

9. ชายหาดยูอิกะฮามะ, คานากาวา (Yuigahama Beach, Kanagawa)

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่ว่า ชายหาดคามาคุระ เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากบนหาดทรายที่ทำให้ได้เห็นฟูจิซังอีกมุมมองหนึ่งแบบแปลกตากว่าทุกที่ นั่นคือฟูจิซังที่มีทะเลและท้องฟ้าเป็นองค์ประกอบของทิวทัศน์ เหมาะกับการไปเดินเล่นรับลมทะเลชิลๆ ริมชายหาดพร้อมทั้งชมวิวในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน

ค่าใช้จ่าย : ฟรี

การเดินทาง : เริ่มต้นจากโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Yokosuka Line ไปลงสถานีคามาคุระ แล้วต่อรถรางของ Enoden ไปลงสถานี Yuigahama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

10. ภูเขาทาคาโอะ, โตเกียว (Mt.Takao, Tokyo)

10. ภูเขาทาคาโอะ, โตเกียว (Mt.Takao, Tokyo)

แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากและอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้ จุดที่เป็นไฮไลท์ก็คือการขึ้นไปบนชมวิวบนภูเขาด้วยเคเบิ้ลคาร์หรือลิฟท์เก้าอี้ โดยจะได้เห็นทั้งวิวป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ในทุกฤดูกาลและทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิจากบนยอดเขาในวันที่อากาศเป็นใจได้ด้วย

เวลาทำการ : เคเบิ้ลคาร์ 8.00-17.45 น. , ลิฟท์เก้าอี้ 9.00-16.30 น.

ค่าใช้จ่าย : ค่าบริการเคเบิ้ลคาร์ เที่ยวเดียว 480 เยน, ไป-กลับ 930 เยน

และค่าลิฟท์เก้าอี้ (Chair lift) เที่ยวเดียว 480 เยน, ไป-กลับ 930 เยน

การเดินทาง : จากสถานี Keio Shinjuku นั่งรถไฟสาย Keio Takao Line Limited Express ไปลงที่สถานี Takaosanguchi ใช้เวลา 47 นาที แล้วขึ้นเขาด้วยเคเบิ้ลคาร์หรือลิฟท์เก้าอี้

know-before-you-go