6 ที่เที่ยวสไตล์ยุโรปในญี่ปุ่น
1. ย่านคิตาโนะ หรือคิตาโนะอิจินคัง (Kitano)
ย่านคิตาโนะ หรือในชื่อเต็มว่า “คิตาโนะ อิจินคัง” (Kitano Ijinkan) เป็นย่านเล็กๆในเมืองโกเบ ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายยุคเอโดะจนถึงยุคเมจิ จึงทำให้มีบ้านเรือนสไตล์ยุโรปมากมายถูกสร้างขึ้นในบริเวณนี้ และส่วนใหญ่ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดีแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าร้อยปีแล้วก็ตาม
เหตุผลที่ทำให้ย่านคิตาโนะกลายเป็นย่านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโกเบ นอกจากจะเป็นเพราะบรรยากาศสไตล์ยุโรปอันน่าประทับใจแล้ว ยังเป็นเพราะอาคารจำนวนมากภายในย่านนี้ถูกดัดแปลงเป็นร้านค้า คาเฟ่ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่น่าสนใจทำให้เราสามารถเข้าไปชมด้านในได้พร้อมๆกับทำกิจกรรมเช่นช้อปปิ้งหรือกินดื่มตามปกติ
เช่น English House บ้านสไตล์อังกฤษที่ตกแต่งเป็นบรรยากาศในนิยายเรื่องเชอร์ล็อค โฮล์ม หรือพิพิธภัณฑ์เทดดี้แบร์ (Kobe Teddy Bear Museum) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบทั้งเด็กๆและสาวๆ รวมถึงร้านขึ้นชื่ออย่างสตาร์บัคที่ดัดแปลงบ้านสไตล์ยุโรปทั้งหลังให้กลายเป็นร้านกาแฟแสนสวย
การเดินทาง : เดินจากสถานี Shin Kobe หรือ Sannomiya ประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชม : พื้นที่ด้านนอกเข้าชมฟรี อาคารบางหลังมีค่าเข้าชมภายใน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 18.00 น.
2. พระราชวังอะกาซากะ (Akasaka Palace)
พระราชวังอะกาซากะ ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เป็นสถานที่สำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะทำเนียบรับรองแขกคนสำคัญของรัฐบาลญี่ปุ่น และในอดีตยังเคยเป็นพระตำหนักในเขตพระราชฐาน ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยคำสั่งของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิในปี 1899 โดยทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งภายในของพระราชวังแห่งนี้ล้วนเป็นสไตล์ยุโรปอันประณีตงดงามทั้งหมด จนถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นในปี 2009
ปัจจุบันพระราชวังอะกาซากะเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี สำหรับพื้นที่ด้านนอกเช่นสวนด้านหน้าอาคารและลานน้ำพุสามารถเข้าชมได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใดๆ แต่หากต้องการเข้าชมภายในตัวอาคาร รวมถึงพื้นที่ส่วนอื่นๆของพระราชวัง จำเป็นต้องลงทะเบียนที่โต๊ะลงทะเบียนด้านหน้าอาคาร หรือลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของพระราชวังที่นี่
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Chuo, Marunouchi หรือ Namboku มาลงที่สถานี Yotsuya จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม : พื้นที่ด้านนอกอาคารมีค่าเข้าชม 300 เยน ส่วนพื้นที่ด้านในอาคารมีค่าเข้าชม 1,000 เยน ต้องทำการลงทะเบียนก่อนเข้าชม
เวลาเปิดทำการ : 10.00 – 17.00 น. (ปิดทำการทุกวันพุธ)
3. หมู่บ้านดอกไม้ยูฟุอิน (Yufuin Floral Village)
นอกจากพระราชวังและอาคารบ้านเรือนสไตล์ยุโรปแบบที่ทุกคนคุ้นตาแล้ว ยังมีสถานที่อีกแห่งในญี่ปุ่นที่ให้ทั้งกลิ่นอายของเทพนิยายและบรรยากาศแบบชนบทของยุโรปไปพร้อมๆกัน ที่นี่คือหมู่บ้านดอกไม้ยูฟุอิน ในเมืองยูฟุอิน จังหวัดโออิตะ (Yufuin, Oita) ซึ่งเป็นหมู่บ้านจำลองที่ก่อสร้างด้วยอิฐ เต็มไปด้วยบ้านหลังเล็กๆหน้าตาน่ารัก และประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด จนไม่ว่าใครๆที่ก้าวเข้ามาต่างก็รู้สึกเหมือนกับเข้ามาอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง
ภายในหมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะมีมุมสวยๆมากมายให้ได้ถ่ายรูปกันแล้ว พื้นที่ของหมู่บ้านยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม คาเฟ่สัตว์เลี้ยง และร้านขายของฝากหลากหลายชนิด หนึ่งในนั้นที่ไม่ควรพลาดก็คือร้านเบเกอรี่ที่จำลองมาจากร้านเบเกอรี่ที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูนเรื่องแม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service) ผลงานชื่อดังของสตูดิโอจิบลิ และสำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศอันน่าประทับใจของหมู่บ้านแห่งนี้ให้เต็มที่ ภายในหมู่บ้านก็ยังมีที่พักคอยให้บริการอยู่อีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Yufuin เดินต่อไปประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิดทำการ : 09.30 – 17.30 น.
4. สวนไทโยพาร์ค และปราสาทนอยชวานสไตน์จำลอง (Taiyo Park)
เมื่อพูดถึงเมืองฮิเมจิ (Himeji) สิ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกคงเป็นปราสาทฮิเมจิอันแสนงดงามที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าในเมืองฮิเมจินั้นยังมีปราสาทจำลองสไตล์ยุโรปอยู่อีกแห่งหนึ่งด้วย ปราสาทที่ว่านี้ก็คือ “นอยชวานสไตน์” (Neuschwanstein Castle) ปราสาทชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นต้นแบบของปราสาทที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูนรวมถึงสวนสนุกทุกแห่งของดิสนี่ย์
ปราสาทนอยชวานสไตน์จำลองในเมืองฮิเมจินั้นตั้งอยู่ภายในสวนไทโย ธีมปาร์คซึ่งภายในมีการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งจากทั่วโลกเอาไว้มากมาย เช่นพีระมิดในประเทศอียิปต์ กำแพงเมืองจีน สุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ในประเทศจีน และปราสาทเป็นต้น พื้นที่ภายในตัวปราสาทจำลองนั้นเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ 3 มิติ ทั้งมีการประดับตกแต่งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในปราสาทยุโรปจริงๆ
การเดินทาง : จากหน้าสถานี Himeji ขึ้นรถบัส Shinki สาย 43 ไปลงที่ป้าย Uchikoshi-Nishi หรือ Ushikoshi-Shinden จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าสวนไทโยพาร์ค 1,300 เยน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 17.00 น.
5. สวนสนุกเฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch Theme Park)
สวนสนุกเฮาส์เทนบอช เป็นสวนสนุกธีมพาร์คขนาดใหญ่ในเมืองนางาซากิ (Nagasaki) ซึ่งบรรยากาศด้านในสวนสนุกนั้น เป็นการจำลองเมืองจากประเทศเนเธอร์แลนด์มาโดยเฉพาะ ซึ่งเหตุผลหลักนั้นมาจากบทบาทสำคัญทางการค้าของพ่อค้าชาวดัตซ์ที่เข้ามาติดต่อค้าขายผ่านทางเมืองนางาซากิในอดีตจนมีความสันพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด
พื้นที่ภายในสวนสนุกแห่งนี้มีทั้งเครื่องเล่นหลากหลายชนิดที่น่าตื่นตาไม่แพ้สวนสนุกแห่งอื่นๆในญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร รวมไปถึงโรงแรม และยังมีจุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญอย่างสวนดอกทิวลิปนับแสนต้นซึ่งมีกังหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เรือโจรสลัดสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่ และปราสาทเฮาส์เทนบอช ที่จำลองทั้งขนาดและบรรยากาศทุกอย่างมาจากตัวปราสาทของจริงในประเทศเนเธอร์แลนด์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
การเดินทาง : วิธีเดินทางต่อเดียว หากเริ่มจากสถานี Nagasaki ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ JR Seaside Liner ไปลงที่สถานี Huis Ten Bosch หากมาจากฟุกุโอกะ (สถานีHakata) ให้ขึ้นรถด่วน Limited Express Huis Ten Bosch
ค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมสวนสนุกอย่างเดียว 4,500 เยน บัตรเข้าชม+เล่นเครื่องเล่นทั้งหมดในสวนสนุก 7,000 เยน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 22.00 น.
6. สวนสนุกพอร์โต้ยูโรป้า จังหวัดวากายามะ (Porto Europa Theme Park)
สวนสนุกพอร์โต้ยูโรป้า เป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกมารีน่าซิตี้ (Marina City Theme Park) ตั้งอยู่ในวากายามะ (Wakayama) บรรยากาศภายในพอร์โต้ ยูโรป้านั้นเต็มไปด้วยกลุ่มอาคารต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปยุคกลาง มีทั้งปราสาทขนาดย่อม หอนาฬิกา ทางเดินและขั้นบันไดที่ปูด้วยหิน รวมไปถึงลานน้ำพุ จนไม่ว่าจะมองหรือถ่ายรูปจากมุมไหนก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความย้อนยุคและความคลาสสิคแบบยุโรป
นอกจากความสวยงามของพอร์โต้ ยูโรป้าแล้ว พื้นที่อื่นๆของสวนสนุกมารีน่า ซิตี้เองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งแม้จะได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นมากมาย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เช่นตลาดปลาคุโรชิโอะ (Kuroshio Market) ที่สามารถลิ้มรสความอร่อยของอาหารทะเลสดๆหลากหลายเมนู ตลาดผลไม้ที่จำหน่ายผลไม้นานาชนิดในแต่ละฤดูกาล และยังมีบ่อออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งให้ลงไปแช่พร้อมกับชมวิวอันสวยงามของท้องทะเลรอบๆไปพร้อมกัน
การเดินทาง : จากสถานี Wakayama ขึ้นรถบัสสาย 42 หรือ 43 ไปลงที่ป้าย Marina City
ค่าเข้าชม : 3,500 เยน
เวลาเปิดทำการ : 10.00 – 17.00 น.