เที่ยวคิวชูคราวนี้ใส่ "ฮิราโดะ"ไว้ในแผนมั้ย
ออกเดินทางจาก Sasebo Bus Center เมือง Sasebo
จากคิวชูแผ่นดินใหญ่เราจะต้องข้ามเกาะหนึ่งครั้ง แต่การเดินทางไปยังฮิราโดะก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ แนะนำให้เดินทางจาก ซาเซโบ เมืองท่องเที่ยวใหญ่ของนางาซากิ เพราะฉะนั้นนิยมให้ใส่คู่กันในทริปเดียวค่ะ
โดยจาก Sasebo Bus Center ขึ้นรถบัสของบริษัท Saihi Bus สายที่พาไป Hirado แล้วไปลงป้ายสุดท้ายที่ Hiradosanbashi ลงมาก็จะเป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองฮิราโดะเลยค่ะ ตั๋วราคา 1,500 เยนต่อเที่ยว
หรือถ้าใครจะไปโดยรถไฟ ก็ให้ลงที่สถานี Tabira-Hiradoguchi จากนั้นก็นั่งรถบัสข้ามไปยังฝั่งเกาะฮิราโดะ โดยไปลงที่ป้าย Hiradosanbashi เช่นกันค่ะ
- www.hirado-net.com (ภาษาไทย)
วิวระหว่างทางนั่งรถบัส กำลังจะข้ามสะพานไปฝั่งเกาะฮิราโดะกันแล้วค่ะ
ลงที่ป้าย Hiradosanbashi
เดินทางมาถึงป้ายสุดท้าย Hiradosanbashi กันแล้วค่ะ ที่ป้ายนี้นอกจากจะเป็น Bus Terminal แล้วยังอยู่ติดกับศูนย์ให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองฮิราโดะด้วยค่ะ สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม เรียวกังและทัวร์แบบวันเดียวได้เลยค่ะ
เดินเที่ยวเมืองฮิราโดะ
ไม่ไกลจาก Hirado Bus Terminal มากนัก จะมีย่านเมืองเก่า ที่มีอาคารเก่าสวยๆ ร้านอาหารและร้านขายของฝากมากมายเรียงรายไปตามถนนค่ะ โดยเมืองฮิราโดะนั้นมีขนาดเล็กแต่ดูอบอุ่น ผู้คนก็ใจดีค่ะ
ตึกแบบสมัยเก่าที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ค่ะ
แช่ออนเซนเท้าใจกลางเมืองฮิราโดะ
ถ้าเดินเที่ยวแล้วรู้สึกเมื่อยล้า มาพักแช่ออนเซนเท้าแบบฟรีๆได้เลยค่ะ
เวลาทำการ 8.00-21.00
การแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่นและฮอลันดาเริ่มต้นขึ้นที่นี่
ในปี 1550 เรือโปรตุเกสเข้าเทียบท่าที่ฮิราโดะเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นเรือจากตะวันตกก็เริ่มเข้ามาเทียบท่าทำการค้าขายกับเมืองฮิราโดะมากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถชมความงามของอาคารแบบตะวันตกได้รอบๆเมืองฮิราโดะค่ะ
- www.hirado-net.com (ภาษาไทย)
ปราสาทฮิราโดะ
จาก Hirado Bus Terminal ก็สามารถมองเห็นปราสาทฮิราโดะได้ค่ะ ใช้เวลาเดินไปยังปราสาทฮิราโดะไม่นานเลยค่ะ ปราสาทที่นี่จะตั้งอยู่บนยอดเขามีทะเลล้อมรอบ สวยงามมากๆ
เดินขึ้นบันได้มาสักพักก็จะเจอกับจุดจำหน่ายตั๋วเข้าปราสาทค่ะ โดยปราสาทฮิราโดะนั้นสร้างเสร็จในปี 1599 โดยมัทสึระ ชิเงโนบุ แต่ถูกทำลายลงครั้งนึงในปี 1817 หลังที่เห็นเป็นปราสาทที่บูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1962 ค่ะ จากจุดชมวิวของปราสาทฮิราโดะสามารถมองเห็นได้ไกลมากๆค่ะ
ค่าเข้าชม 500 เยน
ปิด 30-31 ธ.ค.
ช่องเขาคาวาจิ
อีกจุดชมวิวที่ห้ามพลาดของฮิราโดะเลยคือ ช่องเขาคาวาจิค่ะ สามารถนั่งแท็กซี่จากในตัวเมืองฮิราโดะมาได้ วิวก็จะเขียวชอุ่มอย่างที่เห็น
ช่องเขาคาวาจิมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 200 กว่าเมตร สามารถมองเห็นเกาะน้อยใหญ่มากมาย
- www.hirado-net.com (ภาษาไทย)
เล่นน้ำทะเลในฮิราโดะ
เที่ยวมาเสียครึ่งค่อนวันแล้ว ขอพาไปเช็คอินและเล่นน้ำทะเลที่ริมชายหาดบ้างค่ะ โดยเดือนที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปเที่ยวทะเลกันมากที่สุดคือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมค่ะ ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเกาะญี่ปุ่นทำให้การไปทะเลในหน้าร้อนคือกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นทุกคนตั้งตารอคอยเลยค่ะ
โรงแรม Yukai Resort Hotel Ranpu
วันนี้ขอเลือกพัก Hotel Rampu ค่ะ โดยโรงแรมมีรถบัสรับส่งจาก Hirado Bus Terminal ด้วยค่ะ เพียงข้ามถนนมาก็สามารถเล่นน้ำทะเลได้แล้วค่ะ
ราคา ประมาณ 7,500-15,000 เยน ต่อคนต่อคืน
- yukai-r.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
ห้องนอนแบบเสื่อทาทามิที่มองเห็นวิวทะเล ตกกลางคืนก็สามารถไปนั่งรับลมทะเลแบบชิลๆ ที่ระเบียงได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีบริการห้องคาราโอเกะ โต๊ะปิงปอง มุมการ์ตูนและเกมส์เซ็นเตอร์อีกด้วยค่ะ
แช่ออนเซนคลายความเมื่อยล้า
หลังจากเดินเที่ยวและเล่นน้ำทะเลมาทั้งวันแล้ว ก็มาแช่ออนเซนเพื่อคลายความเมื่อยล้ากันค่ะ หลังจากแช่ออนเซนแล้วความเหน็ดเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ โดยทั่วไปแล้วโรงแรมและเรียวกังในฮิราโดะนั้นมักจะมีออนเซนให้บริการเพราะเป็นแหล่งออนเซ็นค่ะ
เต็มพลังเพื่อพร้อมลุยวันต่อไป
อาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าของโรงแรมนี้จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้เลือกตักได้ตามชอบค่ะ ทานอาหารเสร็จแล้วก็ขอพักผ่อน ชาร์จแบตสำหรับวันต่อไปก่อนค่ะ
ชมเจดีย์ 3 ชั้น วัดไซเคียวจิ
วันนี้เลือกไปรับวันใหม่ ด้วยการไปเที่ยวชมวัดไซเคียวจิ ที่มีเจดีย์ 3 ชั้นสวยๆแบบนี้ปิดท้ายก่อนจะไปเมืองต่อไปค่ะ หรือใครจะเลือกไปชมก่อนกลับโรงแรมให้จบในวันเดียวก็ได้นะคะ แล้วแต่จะจัดตารางค่ะ
ค่าเข้าชม: 400 เยน
ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองฮิราโดะ
ใครที่อยากลองมาสัมผัสญี่ปุ่น แบบธรรมชาติ และเน้นความสงบแล้วล่ะก็ เมืองฮิราโดะถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆได้เลยค่ะ นอกจากนี้เว็บไต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองฮิราโดะมีภาษาไทยด้วยนะคะ
- www.hirado-net.com (ภาษาไทย)