รู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มที่ขายตามตู้อัตโนมัติราคาแพงกว่าเมื่อซื้อในร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต อย่างเช่นชานมที่ขายในร้านสะดวกซื้อขวดละ 151 เยน แต่พอมาเป็นตู้จะเป็น 160 เยน กาแฟกระป๋องหลายๆยี่ห้ออยู่ที่ 118 เยน แต่บางเครื่องก็จะปรับเป็น 130 เยนเลยค่ะ อาจจะดูไม่เยอะแต่ถ้าซื้อทุกวัน วันละหลายๆรอบก็แพงอยู่นะ สะสมทั้งทริปแล้วสามารถเอาเงินไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อได้อีกหลายขวดเลยทีเดียว

ที่ราคาเครื่องดื่มจากตู้อัตโนมัติแพงกว่าเพราะต้องเสียค่าตู้ ค่าไฟ ค่าดูแลบำรุงรักษานั่นเอง ยังไม่รวมค่าความสะดวกนะ เพราะการหยอดตู้มักจะซื้อได้รวดเร็วกว่าการไปรอคิวที่แคชเชียร์ค่ะ ถ้าไม่หิวน้ำมาก หรือไม่เจอเครื่องดื่มแปลก ๆ ที่หาซื้อไม่ได้ทั่วไป ก็รอให้เจอร้านสะดวกซื้อจะประหยัดกว่าค่ะ

พูดถึงอาหารปรุงสุกวันต่อวันลดราคาใคร ๆ ก็รู้ เพราะประเทศไทยก็มี แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารแบบนี้ตามร้านสะดวกซื้อเช่นเซเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน ไม่มีการลดราคานะ! นั่นเพราะร้านสะดวกซื้อเปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง คือยังไงก็ขายหมด

ที่ๆเราอยากพูดถึงคือ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เพราะซุปเปอร์มีเวลาปิดที่แน่นอน ถ้าปิดแล้วยังขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง ทางร้านจึงมักแก้ปัญหาโดยการลดราคาเบนโตะ ข้าวกล่อง กับข้าวพร้อมกินต่างๆ รวมไปถึงซูชิ ซาชิมิกล่อง ก่อนซุปเปอร์จะปิดทุกวัน ดังนั้นใครเน้นเที่ยวแบบประหยัดเราขอแนะนำอาหารลดราคาในซุปเปอร์มาร์เก็ตเลย ทั้งอร่อย ถูก นั่งกินในห้องตัวเองที่โรงแรมชิว ๆ ได้ แถมยิ่งดึกยิ่งลดเยอะนะ ใครมีซุปเปอร์ใกล้ๆโรงแรมลองเดินไปดูใกล้ๆเวลาปิดนะ

ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านหรือหนาแน่นมักจะมีการตั้งราคาอาหารในวันธรรมดาและวันหยุดต่างกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นเมนูเดียวกัน นั่นเพราะร้านอาหารในญี่ปุ่นค่อนข้างแคบ ทำให้ไม่สามารถรองรับลูกค้าจำนวนมากได้โดยเฉพาะวันหยุดที่มีลูกค้าหลั่งไหลมามากมาย ทำให้บางร้านตัดสินใจขึ้นราคาเฉพาะวันหยุด หากพบเจอร้านแบบนี้ ลองเลือกเข้าวันธรรมดาดูนะ

สถานีรถไฟบางสถานีอยู่ติดกันมาก บางครั้งคนไทยหลายไม่ได้เช็คระยะทางก่อน ทำให้เสียเงินขึ้นรถไฟ 1 สถานีฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่ใกล้กันมากจนเดินไปมาหากันได้ เคยมีคนรู้จักแม่บ้านเมกุโระมาเที่ยวทั้งครอบครัว สาย Tokyu Toyoko Line สถานี Naka-Meguro กับ Daikanyama ซึ่งจริงๆอยู่ใกล้กันมากเดินไม่ถึง 10 นาที ไม่ทราบว่าใกล้นิดเดียว เสียค่าโดยสารไป 130 เยน x 7 คนฟรี ๆ ก็น่าเสียดายเงินเนอะ แถมใกล้แค่นี้บางทีเดินเอาจะเร็วกว่ารอรถบวกเวลาที่ใช้เดินเข้า ๆ ออก ๆ สถานีด้วยนะ (เจ้าตัวมารู้ทีหลังก็ขำ)

มาพูดถึงในส่วนของผู้ที่จะมาใช้ชีวิตอย่างศึกษาต่อหรือทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นแบบประหยัด ถ้าไม่ได้อยู่หอพักที่มหาวิทยาลัยหรือบริษัทมีให้ ส่วนใหญ่จะนิยมเช่าอพาร์ทเม้นต์อยู่ข้างนอก แต่ประเทศญี่ปุ่นมีสิ่งที่เรียกว่าแชร์เฮ้าส์ (シェアハウス) คือบริการให้เช่าห้องพักระยะยาวแบบรายเดือน โดยจะมีหลาย ๆ ห้องในบ้านหลังเดียว มีพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องครัวหรือห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน นอกจากจะราคาถูกแล้วเราอาจจะได้เพื่อนที่อยู่ในหอเดียวกัน ทำให้ไม่เหงาและได้ฝึกภาษาอีกต่างหาก