หากเอ่ยถึงเมืองเกียวโต เมืองประวัติศาสตร์ของประเทศญีี่ปุ่นแล้วเราคงจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวจำพวกวัดวาอาราม ศาลเจ้าอะไรพวกนี้ แต่จริงๆ แล้วที่เที่ยวในเมืองเกียวโตไม่ใช่แค่นั้น

ที่เที่ยวในตัวเมืองเกียวโตเอาที่ดังๆ ที่ใครๆก็รู้จักก็ได้แก่ วัดน้ำใส Kiyomizu-dera วัดทอง Kinkaku-ji หรือจะเป็นศาลเจ้าที่มีเสาแดงพันต้น Fushimi Inari-taisha หรือจะเป็นสถานที่ชมธรรมชาติสวยๆ อย่าง Arashiyama ให้ได้เดินเล่นพร้อมกับลิ้มรสอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ กันได้

เกียวโตเป็นเมืองร่ำรวยอารยธรรมและศิลปะ ทำให้การท่องเที่ยวของเมืองนี้ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รักในความเป็นญี่ปุ่นที่แท้จริงแล้วล่ะก็อาจจะถอนตัวไม่ขึ้น มาแล้วก็อยากมาอีกเรื่อยๆ แต่จะไปแต่ที่ซ้ำๆเดิม ก็คงไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นนอกจากวัดวาอารามดังๆแล้ว เกียวโตมีอะไรน่าดูน่าทำอีก เราไปสำรวจกันดีกว่า

แต่บทความเรื่องเกียวโต ยังไงหัวข้อแรกก็คงหนีไม่พ้นต้องพูดเรื่อง "วัด" และ "ศาลเจ้า"
กล่าวถึงเมืองเกียวโต วัดและศาลเจ้าคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ วัดที่สำคัญๆ ของเกียวโตนั้นบางที่มีอายุที่เก่าแก่เป็นร้อยเป็นพันปีก็มี เช่นวัด Kiyomizu-dera หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อวัดน้ำใส นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 778 มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกินพันกว่าปีมาแล้ว ส่วนวัดสีทองอร่ามอย่างวัด Kinkakuji ที่เราเห็นกันบ่อยๆในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ก็ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1397 หรือมากกว่า 600 ปีมาแล้ว

ส่วนใครที่จะไปเกียวโตในช่วงใบไม้แดง ที่วัด Toji (東寺) ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยงามอีกที่หนึ่งเช่นกัน หรือจะไปเยี่ยมชมภาพวาดมังกรขนาดใหญ่ทรงพลังกันที่วัด Myoshinji (妙心寺) ซึ่งเป็นวัดหลักของนิกายเซนที่ใหญ่ที่สุดจากทั้งหมดกว่า 3,500วัดทั่วญี่ปุ่น

ส่วนศาลเจ้าชื่อดังอย่างศาลเจ้า Fushimi Inari-taisha (伏見稲荷大社) ก็เป็นจุดถ่ายรูปชื่อดัง กับเสาโทริอิสีแดงสดหลายร้อยต้นที่เรียงรายกันที่ใครไปเกียวโตก็ต้องไม่พลาดทั้งนั้น

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงคือวัด Sanjusangendo (三十三間堂) ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1165 จุดเด่นคือพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือสีทองอร่ามจำนวนมากกว่า 1,000 องค์ ทีี่เรียงรายกันภายในวิหาร โดยคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า "ป่าพระพุทธรูป" และนอกจากนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ขนาดใหญ่ที่สูง 3เมตรอีกด้วย

หลังจากเที่ยวชมบรรยากาศโดยรอบกันไปแล้ว ลองเข้าเมืองไปลงที่ กิอง (Gion) ย่านที่คุณจะได้เห็นอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่เหมือนตัวเองหลุดเข้าไปยังสมัยเอโดะของญี่ปุ่นกันเลย

ซึ่งที่นี่ไม่ใช่แค่ย่านสวยๆเท่านั้น เที่ยวชมความงามของตัวอาคารกันแล้วก็แวะทานขนมญี่ปุ่นแบบแท้ๆได้อีก ขอบอกว่าหลายๆ ร้านนี้อยู่คู่เมืองเกียวโตมานานหลายร้อยปีเหมือนกัน บางร้านอร่อยขนาดที่ว่าเปิดขายปุ๊บหมดปั๊บก็มีนะ

หากคุณเดินเลียบไปยังถนนสายหลักของย่านกิองนี้ ที่สุดทางคุณจะได้เห็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า ศาลเจ้า Yasaka (八坂神社) หนึ่งในสถานที่สำคัญในช่วงเทศกาลกิอง เทศกาลใหญ่ติดอันดับท็อป 3 ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นศาลเจ้าสำคัญสำหรับคนเกียวโตที่มักจะมาประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ กันที่นี่ และยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกที่หนึ่งอีกด้วย

นอกจากนี้ ย่านกิองยังอยู่ใกล้กับย่าน Kawaramachi อีกหนึ่งในย่านช็อปปิ้งสำคัญของเกียวโตที่มีหลายห้างใหญ่ในย่านเดียว เรียกว่าเมื่อรวมสองย่านเข้าด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะร้านค้าแบบดั้งเดิม หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ทันสมัย ที่นี่ก็มีให้คุณเลือกแน่นอน

แน่นอนว่าเกียวโตไม่ได้มีแค่วัดและศาลเจ้า หลังจากเหนื่อยกับการเดินเที่ยวชมวัดวาต่างๆ รอบๆ เมืองเกียวโตกันแล้วก็แวะพักทานอาหารกลางวันที่ย่านช็อปปิ้งของคนเกียวโตกันที่ถนนชิโจ (四条通) ทั้งสองฝั่งของถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารทั้งแบบอินเตอร์และแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ให้ได้อิ่มท้องกันถ้วนหน้า ถนนสายนี้ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาเรียกว่าเดินกันได้เป็นวันๆ และยังมีซอยถนนยิบย่อยให้ได้เดินเลี้ยวเที่ยวกันต่อไปด้วย

อีกจุดหนึ่งที่ต้องขอแนะนำก็คือถนนคาวาระมาจิ (河原町通) เพราะที่นี่ก็เป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญอีกเส้นหนึ่ง แวดล้อมไปด้วยร้านรวงที่ตั้งกันมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อน ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ส่วนใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอช้อปปิ้ง เราขอแนะนำตลาดนิชิกิ (錦市場) ย่านการค้าที่ถูกเรียกว่า "ห้องครัวของเกียวโต" ตลาดขนาดใหญ่มีทั้งของสด ของไม่สด ของฝาก ของกินมากมายหลายร้อยร้านให้ได้เดินเพลินๆ กันไปยาวๆ

หรือใครชอมชมวิวจากที่สูง อยากชมทิวทัศน์เมืองเกียวโตจากหอชมวิว เราก็ขอเชิญไปยัง Kyoto Tower จุดชมวิวติดสถานีเกียวโต ที่คุณจะเห็นเมืองเก่าแก่ได้จากด้านบน บวกกับฉากหลังเป็นภูเขาที่สวยงามจับใจเลยทีเดียว

ด้วยความที่เกียวโตมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวไปทั่วทั้งเมือง ใครที่กำลังมีแพลนจะไปอาจจะยังคิดหนักว่าแล้วจะไปพักที่ไหนดี
เราขอแนะนำย่านที่พักสำคัญ 3ย่านของเกียวโตให้ได้ลองอ่านตัดสินใจดูว่าจะไปพักที่ไหนกันดี

1. ย่านสถานีเกียวโต ย่านนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะเป็นจุดขึ้นรถที่สำคัญสามารถต่อรถไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เพราะว่าอยู่ใจกลางเมืองเลย แต่แน่นอนว่าโรงแรมแถบนี้ก็จะค่อนข้างมีราคาที่สูง และเป็นโรงแรมมีระดับอยู่พอสมควร อาจจะเหมาะกับผู้ที่มาเที่ยวแบบครอบครัวมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุร่วมทริปด้วย

2. ย่านกิอง ย่านนี้เหมาะสำหรับกลุ่มวัยรุ่นหน่อย เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง มีร้านค้าและห้างสรรพสินค้าให้เลือกช้อปแบบเดินกันจนเมื่อยขาหิ้วของกันจนเมื่อยมือ ที่พักในแถบนี้จะมีทั้งแบบหรูหราอยู่สบาย กับแบบแคปซูลหรือโฮสเทลราคาถูกที่เหมาะสำหรับสายลุย ให้เลือกพักกันตามสไตล์ที่ชอบ ด้วยความที่มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ อยู่มากมายจึงเป็นย่านที่แนะนำอีกย่านหนึ่ง

3. อาราชิยามะ จุดสุดท้ายกับคนที่ชอบแนวธรรมชาติและอยากได้ความสงบ อาราชิยามะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเกียวโต (สามารถนั่งรถบัสที่วิ่งแค่ในเมืองก็ไปถึงได้) หากใครยังไม่อ๋อ คงต้องบอกว่ามีป่าไผ่ที่เป็นจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อนั่นเอง ที่พักในย่านนี้ส่วนใหญ๋จะเป็นสไตล์เรียวกัง ให้คุณได้ชมความงามของและความสงบของญี่ปุ่นกันได้แบบถึงแก่น เหมาะสำหรับคู่รักที่อาจจะไปฮันนีมูน หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุที่ต้องการความสงบ ในอาราชิยามะก็จะมีร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ให้ได้เลือกชิมกันหลายร้าน แต่จะค่อนข้างหรูหราและมีราคาสักหน่อย โดยช่วงที่เราแนะนำให้พักก็คือช่วงใบไม้แดง เพราะเป็นจุดชมใบไม้แดงที่สำคัญอีกที่หนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่โรงแรมไม่เยอะมาก โรงแรมถูกๆแบบโฮสเทลมีไม่กี่ที่ และถ้าเลือกพักเรียวกังที่มีบริการครบละก็ราคานี่ไม่ต้องพูดถึง อาจแพงกว่าโรงแรมธุรกิจใกล้สถานีเกียวโตด้วยซ้ำ

ก่อนจองที่พักที่เกียวโต เลืิอกย่านที่ชอบกันได้หรือยัง

จุดท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตส่วนมากจะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนักเพราะเมืองเองก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก แถมวัดหรือศาลเจ้าส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟพอสมควร หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวเกียวโตแล้วเราอยากขอแนะนำการเดินทางด้วยรถบัสในเมืองจะเหมาะสมกว่าการซื้อพาสรถไฟแบบเหมาวัน ซึ่งราคาค่อนข้างแพงและไม่มีโอกาสใช้จริงเท่าไหร่นัก

ที่เกียวโตคุณจะพบป้ายรถบัสได้ทั่วไป และคนที่นี่ส่วนใหญ่ก็นิยมเดินทางกันด้วยวิธีนี้มากกว่า เพราะรถไฟใต้ดินในเมืองเกียวโตนั้นไปไม่ทั่วถึงเหมือนโตเกียวหรือโอซาก้า จะผ่านเฉพาะย่านช็อปปิ้ง ย่านเศรษฐกิจ ย่านธุรกิจใจกลางเมืองเท่านั้น ที่เที่ยวดังๆที่เรารู้จักกันไม่ว่าจะเป็นวัดทอง วัดเงิน วัดน้ำใส วัดเรียวอังจิ อาราชิยามะและอื่นๆ ล้วนแต่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟทั้งสิ้น

สถานที่เที่ยวดังๆ ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟพอที่จะทำให้พาสรถไฟมีประโยชน์ ก็อย่างเช่นปราสาทนิโจและศาลเจ้า Fushimi Inari-Taisha เท่านั้น และแน่นอนว่าที่เหล่านี้ไปด้วย Bus Pass ใบเดียวกันกับวัดอื่นๆได้หมด ทำให้เราเลือกที่จะแนะนำรถบัส

ที่เกียวโตคุณจะพบป้ายรถบัสได้ทั่วไป และคนที่นี่ส่วนใหญ่ก็นิยมเดินทางกันด้วยวิธีนี้มากกว่ารถไฟ เพราะรถไฟใต้ดินในเมืองเกียวโตนั้นไปไม่ทั่วถึงเหมือนโตเกียวหรือโอซาก้า จะผ่านเฉพาะย่านช็อปปิ้ง ย่านเศรษฐกิจ ย่านธุรกิจใจกลางเมืองเท่านั้น ที่เที่ยวดังๆเกือบทั้งหมดที่เรารู้จักกันไม่ว่าจะเป็นวัดทอง วัดเงิน วัดน้ำใส อาราชิยามะเป็นต้น

สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วเราสามารถเที่ยวเกียวโตด้วยรถบัสกันได้สบายๆ เพราะเขามีพาสรถบัสที่สามารถขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในราคาเพียงแค่วันละ 500เยน เท่านั้น (เด็ก 250เยน)

ซึ่งวิธีการขึ้นและแผนที่จุดจอดนั้นมีให้ดาวน์โหลดกันได้เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ง่ายและสะดวกสบายสำหรับชาวต่างชาติอย่างเราๆ มาก โดยสามารถซื้อพาสนี้ได้ที่สถานีเกียวโต หรือซื้อกับคนขับรถบนรถเลยก็ได้ (แต่ต้องระวังพาสหมดนะ ซื้อที่สถานีเกียวโตก่อนขึ้นรถดีที่สุด)

อย่างไรก็ตามพาสนี้คุณจะสามารถเปิดใช้วันไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่ซื้อ และบัตรจะหมดอายุเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนของวันนั้นๆ