โอซาก้า จุดหมายปลายทางหลักอันดับต้นๆ ที่คนไทยไปเยือนมากที่สุด นอกจากการมองหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดแล้ว วันนี้เราจะขอมาแนะนำโรงแรมที่พักเด็ดดวงที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย เพราะทั้งราคาประหยัด เดินทางสะดวกสบาย ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและสถานีรถไฟที่สำคัญๆ 5 โรงแรมนี้จะเป็นที่ไหน เปิดปฏิทินดูวันหยุดวันว่างแล้วตามเราไปกันเลย

ขาประจำท่องเที่ยวญี่ปุ่นคงไม่มีใครไม่รู้จักโรงแรม Business Hotel ที่มีสาขาครอบคลุมไปทั่วทั้งประเทศอย่าง Toyoko Inn แน่นอน

Toyoko Inn สาขา Osaka Namba Furitsutaiikukaikan Nishi แห่งนี้ถูกใจเรามากเนื่องจากอยู่ใกล้ย่านช็อปปิ้งและแหล่งรวมร้านอาหารที่สำคัญอย่าง Namba หรือ Dotonbori โรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่เดินทางสะดวกมากๆ ห้องพักมีทั้งแบบ Single สำหรับผู้ที่ชอบเดินทางคนเดียว Double หรือ Twin เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เดินทางไปกับเพื่อนๆ หรือคนรักสองคนที่ไปด้วยกันก็ได้

ห้องพักของที่นี่สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมสรรพ ทั้งไวไฟ ตู้เย็น ที่เป่าผม โทรทัศน์เป็นต้น สิ่งที่ดีมากๆ เลยก็คือ อาหารเช้ารวมในแพคเกจเลย เหมาะกับประเทศญี่ปุ่นที่การเดินหาอาหารเช้านั้นค่อนข้างยากนิดนึง หลังจากอิ่มหนำกับอาหารเช้าของที่นี่ก็พร้อมออกไปลุยเที่ยวกันได้ทันที!! ส่วนตอนเย็นหรือตอนกลางคืนก็ไม่ต้องกังวล เพราะใกล้แหล่งของกินสำคัญ ทานกันจนอิ่มพุงแล้วเดินย่อยกลับโรงแรมเก๋ๆก็ได้

ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมแบบบิสิเนสแล้วราคาของที่นี่จึงถูกแบบกำลังดี แถมถ้าใครเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยๆ อยู่แล้วและมีบัตรสมาชิกของโรงแรมอย่าง Toyoko Inn Club ด้วยล่ะก็ยิ่งสบายหายห่วง เพราะจะมีทั้งสะสมแต้ม ได้ส่วนลด เช็คอินก่อน บลา บลา บลา มันดีจริงๆ นะเออ

Toyoko Inn Osaka Namba Furitsutaiikukaikan Nishi
2-8-7, Moto-machi, Naniwa-ku, Osaka 556-0016
เช็คอิน 16.00 น. / เช็คเอาท์ 10.00 น.

การเดินทาง
รถไฟ JR สถานี Namba
รถไฟใต้ดิน Midosuji Line, Yotsubashi Line, Sen-Nichimae Line สถานี Namba (แนะนำให้ออกทางออกหมายเลข 5 หรือ 32)
รถไฟสาย Kintetsu Line สถานี Osaka Namba
รถไฟ Nankai Line สถานี Namba

จากย่าน Namba เราขอแวะมาที่ย่านเศรษฐกิจใหญ่อีกที่กับย่าน Umeda ซึ่งเป็นย่านใจกลางจังหวัดโอซาก้าและอยู่ใกล้สถานีใหญ่สุดๆของจังหวัด ทั้งสถานี Osaka และ Umeda

โรงแรม Hotel New Hankyu แห่งนี้เป็นโรงแรมขนาดใหญ่เดินทางสะดวกสบายมากๆๆๆๆ เพราะถ้านั่งรถบัสลีมูซีนจากสนามบินมารถจะมาจอดที่โรงแรมเลย ซึ่งเหมาะกับคนที่สัมภาระเยอะๆ หรือมีเด็กๆ ไปด้วย แถมที่ตั้งยังตั้งอยู่ตรงจุดยุทธศาสตร์ของโอซาก้า จุดที่มีรถไฟเยอะที่สุดที่สถานี Osaka นี่เอง ไม่ว่าจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงหรือต่อรถไฟเที่ยวที่ไหนก็สะดวกสุดๆ

ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นห้างสรรพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อย่าง Yodobashi Camera เดินทะลุไปข้างหลังก็เจอดองกี้โฮเต้ ร้านสารพัดนึกถูกใจชาวไทยอย่างเราๆ ห้างเปิดใหม่อย่าง Grand Front Osaka หรือคนรักเสียงเพลงใกล้ๆ กันก็มีร้าน Tower Records ด้วยนะ

จากทำเลที่ตั้งมาพูดถึงในโรงแรมกันบ้างดีกว่า แม้ภายนอกโรงแรมจะดูเก่าไปหน่อย แต่ก็ถือว่าสะอาดได้มาตรฐานของญี่ปุ่น ประเภทของห้องพักมีให้เลือกหลายประเภท รวมไปถึงห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับคนที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนฟูก มีให้บริการไวไฟ น้ำดื่ม มีทำความสะอาดทุกวัน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไดร์เป่าผม เตารีด ให้บริการรถเข็น เป็นต้น

ที่นี่ก็มีอาหารเช้าให้บริการเช่นกัน แต่ดูจะหลากหลายกว่าที่แรกอยู่ นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมีร้านอาหารให้บริการด้วย ซึ่งมีตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารฝรั่งเศส คาเฟ่ รวมไปถึงบาร์สำหรับผู้ที่รักการดื่ม

Hotel new Hankyu Osaka
1-1-35 Shibata, Kita-ku, Osaka 530-8310
เช็คอิน 15.00 น. / เช็คเอาท์ 12.00 น.

การเดินทาง
รถไฟ JR สถานี Osaka
รถไฟใต้ดิน Midosuji Line สถานี Umeda
รถไฟ Hankyu สถานี Umeda
รถบัสจากสนามบินคันไซ อาคารผู้โดยสาร 1 ขึ้นที่จุดจอดรถหมายเลข 5 (รถเที่ยวแรก 02.45 น. เที่ยวสุดท้าย 01.45 น.)
อาคารผู้โดยสาร 2 ขึ้นที่จุดจอดรถหมาย 1 (รถเที่ยวแรก 03.00 น. เที่ยวสุดท้าย 02.00 น.)

มาถึงที่พักสำหรับคนต้องการต่อรถไฟความเร็วสูง "ชินกังเซ็น" กันบ้าง ที่สถานี Shin-Osaka มีโรงแรมใกล้ๆ อย่าง Shin-Osaka Washinton Hotel โดยเดินจากสถานีเพียงแค่ 5นาทีเท่านั้น

พนักงานที่นี่ก็น่ารักยิ้มแย้มให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เนื่องจากใกล้สถานีชินกังเซ็นจึงมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อต่างๆ อยู่พอสมควร เป็นย่านออฟฟิศที่พอตกดึกก็เงียบสงบ คนไม่ค่อยพลุกพล่านสักเท่าไหร่

สำหรับห้องพักจะมีขนาดที่ค่อนข้างจำกัดไปสักหน่อย อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มาพักแบบเป็นกลุ่มใหญ่ (หรือถ้ายอมแบ่งเป็นหลายๆห้องก็โอเค) แต่สำหรับ 2คนนี่กำลังพอดีเลย ส่วนอาหารเช้าก็มีให้เลือกทั้งแบบญี่ปุ่น และแบบอเมริกันสไตล์บุฟเฟ่ต์ทานกันให้เต็มที่ไปเลย หรือถ้าใครอยากจะทานแบบสบายๆ หน่อยภายในโรงแรมก็มีห้องอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน คาเฟ่ให้บริการต่างหากด้วย

เคาน์เตอร์ให้บริการเปิดตลอด 24ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่อาจจะบินมาถึงเย็นหรือดึกหน่อย ในโรงแรมยังมีเครื่องซักผ้าให้หยอดเหรียญเหมาะสำหรับคนที่เดินทางแบบระยะยาว

Washington Hotel Plaza Shin Osaka
5-5-15 Nishinakajima, Yodogawa-ku, Osaka-shi, Osaka 532-0011
เช็คอิน 14.00 น. / เช็คเอาท์ 10.00 น.

การเดินทาง
รถไฟ JR สถานี Shin-Osaka เป็นสถานีที่ต่อชินกังเซ็นได้ด้วย เหมาะมากๆกับคนที่นั่งชินกังเซ็นมาจากเมืองอื่น

วนกลับมาที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งย่าน Namba กันสักหน่อย

โรงแรม Osaka Teikoku โรงแรมนี้จะอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟ Namba โดยใช้เวลาเดินประมาณ 5นาทีเท่านั้น ระหว่างทางก็จะมีร้านรวงต่างๆ ให้ได้เดินดูไปเรื่อยๆ แต่ทางเดินจะค่อนข้างคดเคี้ยว สำหรับผู้ที่มีสัมภาระเยอะอาจจะลำบากไปสักหน่อย

ภายนอกโรงแรมดูเก่า แต่ภายในจัดว่าโอเค ห้องมีทั้งแบบผู้มาพักเดี่ยวๆ และมาพักกันแบบหมู่คณะ ส่วนใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากนอนเตียงมานอนฟูก ที่นี่ก็มีห้องประเภท Japanese ให้เลือกเช่นกัน

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการครบครัน พร้อมทั้งผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม มีไวไฟให้ใช้ แต่ที่ต่างจากที่อื่นคือไม่มีอาหารเช้าให้บริการ อาจจะเหมาะกับผู้ที่ไม่นิยมทานอาหารเช้า หรือไม่อย่างนั้นอาจจะต้องหาร้านบริเวณใกล้เคียง แต่ด้วยความที่ตั้งอยู่ในย่าน Namba ก็ไม่ลำบากในการหาสักเท่าไหร่ ส่วนตอนกลางคืนด้วยความที่อยู่ในย่านท่องเที่ยวอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนแบบเงียบๆ ส่วนใครที่เน้นเที่ยวแบบสุดเหวี่ยงก็อาจจะเหมาะอยู่

ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ Dotonbori และ Shinsaibashi แบบเดินไปกินข้าวแล้วกลับมานอนได้สบายๆ ละแวกใกล้เคียงก็มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ย่านช็อปปิ้ง สะดวกสำหรับขาช็อปไม่ต้องแบกของหนักๆ ขึ้นรถไฟกลับ

อีกเรื่องที่อยากเตือนไว้คือ ที่นี่ชื่อ Osaka Teikoku Hotel แต่จะมีอีกโรงแรมที่ชื่อคล้ายๆกันว่า Teikoku Hotel Osaka หรือชื่ออังกฤษที่นิยมใช้คือ Imperial Hotel Osaka ซึ่งอันหลังนี้จะเป็นโรงแรมในเครือเดียวกับ Imperial Hotel Tokyo โรงแรมห้าดาวระดับตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งราคาจะต่างกันลิบเลยละ คงต้องระวังด้วย

Osaka Teikoku Hotel
2-8-17 Nishishinsaibashi, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka 542-0086
เช็คอิน 15.00 น. / เช็คเอาท์ 11.00 น.

การเดินทาง
รถไฟ JR สถานี Namba
รถไฟใต้ดิน Yotsubashi Line, Midosuji Line สถานี Namba (ทางออกหมายเลข 25)
รถไฟใต้ดิน Midosuji Line สถานี Shinsaibashi (ทางออกหมายเลข 7)
รถไฟ Kintetsu Line สถานี Osaka Namba

จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มมาเอาดีด้านการท่องเที่ยวเพื่อโปรโมทประเทศญี่ปุ่นต้อนรับโตเกียวโอลิมปิค 2020 ที่จะถึงนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ปริมาณโรงแรมที่ให้การรองรับเริ่มไม่เพียงพอ ไม่ใช่แค่ในแถบยุโรปแต่ความนิยมการให้บริการห้องพักของ Airbnb ในญี่ปุ่นก็เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในช่วงหลายปีให้หลังมานี้

ช่วงแรก Airbnb ที่ญี่ปุ่นก็เหมือนกับหลายประเทศคือเป็นบริการที่ผิดกฏหมาย และทำลายระบบโรงแรม ระบบเศรษฐกิจ (ที่ญี่ปุ่นมีเก็บภาษีที่พักจากโรงแรมต่างๆ) แต่จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นหันมามองความจำเป็นถึงการมีอยู่ของระบบ Airbnb ในประเทศ จนได้ข้อสรุปเป็นการออกกฏหมายใหม่รองรับ หรือ "กฏหมายธุรกิจที่พักประเภทบ้าน" เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี่เอง

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ให้แบ่งเช่าได้ปีละไม่เกิน 180วัน มีการเรียกเก็บภาษีที่พัก เป็นต้น ทำให้ที่พักประเภท Airbnb ในญี่ปุ่นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร สำหรับคนที่อยากลองประสบการณ์พักกับคนญี่ปุ่น หรือพักแบบคนญี่ปุ่นเราก็ขอแนะนำว่าไปกันเป็นกลุ่มจะเวิร์คสุด เพราะถ้าลองหารเฉลี่ยต่อหัวออกมาแล้วจะค่อนข้างคุ้มราคากว่าคนที่ไปพักคนเดียว

ข้อดีของที่พักประเภทนี้คือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องที่มีให้พร้อมเหมือนกับบ้านหลังหนึ่ง และอยู่ในย่านที่พักอาศัยที่เงียบสงบ

ส่วนข้อเสียนั้นด้วยความที่อยู่ในย่านที่พักอาศัยเนี่ยแหละ ที่ไม่เหมาะกับแก๊งเพื่อนรักปาร์ตี้ เพราะไม่สามารถส่งเสียงดังได้ และที่แย่สุดๆ คืออาคารหรือห้องพักบางที่โฮสต์ที่ปล่อยเช่าอาจจะเช่าต่อมาอีกทีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้องที่แท้จริง ทำให้เราอาจจะโดนปฏิเสธกลางคัน หรืออาจจะโดนผู้ร่วมอาศัยคนอื่นแจ้งผู้ดูแลอาคารหรือตำรวจได้ เพราะฉะนั้นก่อนทำการจองควรตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนก่อนจะได้ไม่คุ้มเสียนะจ๊ะ

แต่ทั้งนี้ หากไม่สามารถหาห้องพักอื่นได้จริงๆ ก็ขอให้รู้ว่าตอนนี้เก็บ Airbnb ไว้ใช้เป็นตัวเลือกที่ห้าก็ได้นะ