All About Japan

สัมผัสวัดแห่งเมืองนากาโนะ "เซนโคจิ"

วัด วัด และ ศาลเจ้า Nagano Chubu
สัมผัสวัดแห่งเมืองนากาโนะ "เซนโคจิ"

เซนโคจิ (善光寺) เป็นวัดเก่าแก่ใจกลางนากาโนะที่ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1400 ปี เป็นที่พึ่งทางใจแต่โบราณ ที่คนญี่ปุ่นปัจจุบันเองยังบอกว่าต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

วัดเซนโคจิ

วัดเซนโคจิ (善光寺) เป็นวัดพุทธชื่อดังและเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ในเมืองนากาโนะ ภูมิภาคตอนกลาของญี่ปุ่นที่ถูกล้อมด้วยภูเขา ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 1,400 ปีที่แล้ว เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกในญี่ปุ่น เป็นวัดที่คนญี่ปุ่นบอกว่าต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

พระพุทธรูปองค์หลักที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่เป็นพระพุทธรูปที่ไม่เปิดให้คนเข้าชม และว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่หก หรือประมาณ1,400 ปีที่แล้ว แต่แน่นอนว่าไม่มีใครเคยเห็นเลย (ญี่ปุ่นมีตำนานแนวๆนี้เยอะมาก)

ด้านหน้าทางเข้าวัดจะเป็นถนนลาดยาว ซ้ายขวาเป็นร้านขายอาหาร ขนมกินเล่น และของที่ระลึกต่าง ๆ มากมายให้เราเลือกซื้อ ซึ่งเรียกว่านากามิเสะ เป็นตลาดสองข้างทางคล้ายๆกับวัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุซะในโตเกียวเลยล่ะค่ะ จะเดินเพลินๆก่อนเข้าวัดหรือมาเก็บตกซื้อของกินของฝากหลังเที่ยวชมวัดเสร็จก็ไม่เสียหายนะคะ

ประตูนิโอมง

ประตูนิโอมง

เมื่อเดินเข้าใกล้วัด สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับคนที่ได้มาเที่ยววัดนี้คือการขึ้นไปจุดชมวิวชั้น 2 ของประตูทางเข้าวัดชั้นใน โดยการไปถึงประตูนี้ก่อนอื่นต้องผ่านประตูชั้นสองหรือประตูนิโอมง (Nio-mon หรือประตูสองเทพ ที่ชื่อแบบนี้เพราะมีรูปสลักเทพเจ้าสององค์ยืนอยู่สองข้าง) หากเจอประตูนี้แล้วเดินตรงไปอีก ก็จะถึงประตูเข้าวัดชั้นใน ซังมง (San-mon หรือประตูที่สาม)

ซึ่งที่นี่เป็นวัดแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ประตูมีชั้น 2 ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปดูพระพุทธรูปไม้สลักโบราณ 5 องค์ที่ถูกเก็บไว้ด้านบนได้ แถมยังเป็นจุดชมวิวในตัว

และเมื่อมองออกมาจากด้านในจะเห็นวิวทางเดินด้านหน้าของวัดที่สวยงามเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย โดยเก็บค่าเข้าชม 500 เยน ซึ่งค่าบัตรดังกล่าวสามารถเข้าได้ทั้งประตูนิโอมง สักการะพระใหญ่ อุโมงค์ใต้ดิน และหอพระคัมภีร์

ประตูซังมง

ประตูซังมง

ในภาพเป็นวิวจากด้านบนประตูซังมง

เมื่อผ่านประตูใหญ่ของวัดก็จะมีรูปปั้นพระจิโซหินทั้งหก (Roku-Jizo) อยู่ทางด้านขวา สวนและร้านขายเครื่องราง ซึ่งที่นี่มีเครื่องรางพิเศษคือสามารถเลือกประกอบเองได้ค่ะ เหมาะสำหรับเป็นของฝากให้กับนักกีฬาและคนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการขอพรเทพเจ้าให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อเดินเข้าไปในอารามใหญ่ของวัดก็จะพบกับการตกแต่งภายด้วยไม้ที่ปราณีต ภายในมีพระพุทธรูปอันใหญ่โต มาเอะดะจิ ฮนซน (Maedachi Honzon) รวมถึงรูปสลักของราคัง (Rakan) มากมายบนผนังหลังประพุทธรูปใหญ่ 100 ชิ้น ด้านขวาของพระพุทธรูปใหญ่มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับมอบจากประเทศไทยเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย - ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1937 ด้วยค่ะ ถูกประดับไว้อย่างสวยสดงดงาม ก่อนที่จะลงไปในอุโมงค์ใต้ฐานพระพุทธรูป หรือโอไคดัน เมกุริ (Okaidan Meguri) หรือบันไดกุญแจสู่สวรรค์ อุโมงค์ที่ไม่มีแสงสว่าง ผนังของอุโมงค์ถูกปูด้วยไม้แผ่นเรียงต่อกันแนวตั้ง เวลาลงไปข้างล่างต้องเดินคลำผนังไปเรื่อย ๆ โดยไม่ส่งเสียงคุยนะคะ ทางเดินขดเป็นรูปตัวงู การเดินภายใต้ความมืดจะทำให้เรามีสมาธิ ซึ่งเป็นความเชื่อกันว่าเป็นทางเดินสู่ดินแดนแห่งความสงบหรือสวรรค์นั่นเอง

ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าววันไหนถ้ามีนักท่องเที่ยวเยอะอาจจะต้องต่อคิวยาวเพื่อรอสักการะและเดินลงไปในอุโมงค์ใต้ดินค่ะ แต่วันที่ได้ไปเป็นวันหยุดยาวหรือโกลเด้นวีคของญี่ปุ่นคนจึงเยอะมาก เวลาเดินลงไปในอุโมงค์ใต้ดินจริง ๆ จึงไม่ได้สงบตามวัตถุประสงค์ของอุโมงค์ กลุ่มคนที่เดินไปก่อนหน้าคุยกันอย่างสนุกสนาน เดินไปสักพักก็มีเสียงตื่นเต้นจากปากอุโมงค์ค่ะ บางครั้งก็มีหยุดเดินบ้างเพราะคนค่อนข้างแน่น ถ้ามีโอกาสได้ไปแนะนำว่าควรเลือกไปวันธรรมดาดีกว่าค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากค่ะ

นอกจากอารามใหญ่ของวัดก็มีหอพระคัมภีร์ (Kyozo) ที่น่าสนใจอยู่ด้านหลังค่ะ เป็นสถานที่รวบรวมพระพุทธรูป รูปปั้น รูปแกะไม้ รวมถึงวัตถุโบราณและสัญลักษณ์ทางศาสนาจากทั้งในประเทศและจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงเป็นหอที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกอันเก่าแก่ล้ำค่าไว้ด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มาวัดเซนโคจิตั้งแต่หัวรุ่งจะพบกับพิธีการให้พร โดยจะมีหัวหน้านักบวชเดินลูบหัวนักท่องเที่ยวที่มาต่อแถวรอขอพร จากทางเดินอาคารที่พักของนักบวชมายังอารามหลักตามเวลาของพระอาทิตย์ขึ้น โดยทั่วไปหน้าร้อนมักจะเริ่มตั้งแต่เวลา 5:30 นาฬิกา และหน้าหนาวประมาณตั้งแต่เวลา 7:00 นาฬิกา

ทุก ๆ 6 ปีช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมจะมีพิธีเซ็นโคจิ โกไคโจ (Zenkoji Gokaicho) จัดขึ้นที่หน้าอารามหลักของวัด โดยจะมีเสาไม้ยักษ์ที่มีเชือกโยงมาจากพระใหญ่ในอาราม โดยมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้สัมผัสเสาไม้หรือเชือกเหมือนได้สัมผัสพระใหญ่โดยตรงจะโชคดีและได้บุญมาก โดยกำหนดจัดงานครั้งต่อไปคือปี 2021 หลังโอลิมปิคนู่นแหละค่ะ

ส่วนตัวตั้งแต่ย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นก็ได้ไปขอพรเรื่องลูกจากวัดและศาลเจ้ามากมายหลายที่ จนได้มีโอกาสมาเที่ยววัดเซนโคจิที่นากาโนะ ก็ไม่ลืมที่จะขอพระลูกเหมือนเดิมค่ะ แต่คราวนี้ขอพรจากพระไทย พระพุทธรูปปางมารวิชัยค่ะ ปรากฏว่ากลับมาบ้าน 2 วันก็สมความปรารถนา มีลาภเป็นสัตว์สองเท้าอยู่ในท้อง แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสต้องกลับไปที่วัดเซนโคจิอีกค่ะ ใครที่อยากมีลูกและยังไม่สมดั่งใจสักที ถ้ามีโอกาสได้มาเยือยญี่ปุ่นลองขอพรจากวัดเซนโคจิดูก็ไม่เสียหายนะคะ

การเดินทางจากโตเกียวมายังวัดเซนโคจิ เมืองนากาโนะ

1) นั่งรถไฟชินกังเซนมายังสถานีนากาโนะ ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
2.1) ต่อรถบัส ทางออกเซนโคจิ (Zenkoji Exit) ป้ายรถบัสหมายเลข 1 มายังป้ายเซนโคจิไดมอน (Zenkoji-Daimon) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
2.2) หรือเดินจากสถานีนากาโนะไปยังวัดเซนโคจิก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีอะไรให้ดูตลอดทาง

know-before-you-go