All About Japan

ห้ามพลาด! จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ถ่ายรูปสวย ในเกียวโต 10 จุด

วัด ศาลเจ้า วัด Kiyomizu การเดินทาง ใบไม้แดง วัด และ ศาลเจ้า เที่ยวด้วยตัวเอง Kyoto Kansai
ห้ามพลาด! จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ถ่ายรูปสวย ในเกียวโต 10 จุด

แน่นอนว่าหากพูดถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้วทุกคนจะต้องนึกถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลหลากสีไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีส้ม หรือใบแป๊ะก๊วยสีเหลืองที่เรียงรายกันอย่างงดงาม และเพราะความงามนั้นล่ะทำให้ฤดูนี้เป็นฤดูที่เหมาะสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นที่สุด และวันนี้เราจะขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับสถานที่ที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต (Kyoto) กันค่ะ

1. วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera: 清水寺)

1. วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera: 清水寺)

ใครที่มาเยือนเมืองเกียวโต ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าจะไม่รู้จักกับวัดแห่งนี้ เพราะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น คนไทยนิยมเรียกกันว่า “วัดน้ำใส” ตามความหมายของชื่อวัด ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ซึ่งที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองโดย UNESCO เป็นมรดกโลกอีกด้วย

สำหรับวัดน้ำใสแห่งนี้ถือสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งจุดชมใบไม้แดงที่ดึงดูดผู้คนมากที่สุดในวัดน้ำใสก็จะเป็นวิวจากวิหารประธาน (Main Hall) อาคารไม้ซุงโบราณขนาดใหญ่ที่ล้อมด้วยป่าไม้แดง และ บริเวณโจจูอิน (Jojuin Garden) หรือสวนพระจันทร์ (Tsuki no Niwa) หากเข้ามาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แห่งนี้ในช่วงกลางคืน เราจะได้ชมไฟประดับบนต้นเมเปิ้ลอีกด้วย

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน/คน และเด็ก 200 เยน/คน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 6:00-18:00 น. ช่วงเทศกาลที่เปิดให้เข้าตอนกลางคืนจะเปิดถึง 21:00 น. (เฉพาะช่วงของเดือน 3, 8, 11 เท่านั้น) โดยวันที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละปี
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kyoto สามารถเดินทางได้ 2 วิธี
1) นั่งรถบัสสาย 100, 206, 207 ลงป้าย Gojozaka หรือลงป้าย Kiyomizu Michi แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 10-15 นาทีถึง ใช้เวลารวมประมาณ 40 นาที
2) นั่งรถไฟ Keihan Railway Line มาลงที่สถานี Kiyomizu Gojo แล้วเดินเท้าประมาณ 20-30 นาทีถึง ใช้เวลารวมประมาณ 35 นาที

2. วัดรุริโคอิน (Rurikoin: 瑠璃光院)

2. วัดรุริโคอิน (Rurikoin: 瑠璃光院)

วัดรูริโคอิน (Rurikoin) ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ถูกขนานนามว่าเป็นวัดที่มีระเบียงสวยที่สุดในเกียวโต ตั้งอยู่เชิงเขาฮิเอะในเมืองยะเสะ (Yase) ซึ่งวิวของใบไม้แดงที่นี่นั้นสีสดสวยราวกับภาพวาด สะท้อนกับพื้นอาคารชงชาอันเงาวับสไตล์ซุกิยะซุคูริ (Sukiya-zukuri) พร้อมกับพื้นภาพสีเขียวสดจากมอสในสวนที่ให้ความอุดมสมบูรณ์

ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สวนลูริ (Ruri no Niwa) สวนที่ปกคลุมไปด้วยมอสราวกับอัญมณีลาพิสลาซูลีตัดกับสีต้นเมเปิ้ลในช่วงใบไม้แดงติดกับตัวอาคารโชอิน (Shoin) เดินถัดไปเล็กน้อยจึงเป็นส่วนของอาคารชงชาคิคะคุเทอิ (Kikakutei) ซึ่งจะมีวิวจากใบไม้ร่วงนานาชนิด

ค่าเข้าชม : คนละ 2,000 เยน (ในช่วงเปิดเข้าชมพิเศษของฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00-17:00 น.
วิธีการเดินทาง : สามารถมาได้ 2 วิธี
1) จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟท้องถิ่นมาลงที่สถานี Kokusaikaikan จากนั้นเดินมาขึ้นรถบัสที่ป้าย Kokusaikaikan Ekimae สาย Ohara มาลงที่ป้าย Yase Ekimae เดินเท้าอีกประมาณ 6 นาทีถึง ใช้เวลาเดินทางรวม 47 นาที
2) จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟท้องถิ่นมาลงที่สถานี Demachiyanagi แล้วขึ้นรถราง Eiden (Eizan Electric Railway) สายหลักไปลงสุดสายที่สถานี Yase-hieizanguchi เดินเท้าต่อประมาณ 5 นาทีถึง ใช้เวลาเดินทางรวม 48 นาที

3. วัดโคไดจิ (Kodaiji: 高台寺)

3. วัดโคไดจิ (Kodaiji: 高台寺)

วัดโคไดจิ (Kodaiji) เป็นวัดที่มีจุดเด่นคือสวนหินญี่ปุ่นพร้อมการประดับตกแต่งเป็นเนินเตี้ยจะใช้หินขนาดใหญ่ประดับตกแต่งสวนสไตล์สึคิยามะ (Tsukiyama) แล้วมีต้นเมเปิ้ลเรียงรายโดยรอบ ทั้งหมดนี้มีแรงบันดาลใจมาจากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ซึ่ง “โคไดจิ” ภรรยาสร้างเพื่อรำลึกถึงซามุไรไดเมียว “โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ” ผู้เป็นสามีของตนตามค่านิยมในสมัยก่อน

โดยที่นี่มีวิวทิวทัศน์จากช่วงเวลาประดับตอนกลางคืนเช่นเดียวกับวัดน้ำใส นอกจากนี้บริเวณตรงข้ามวัดโคไดจิยังเป็นที่ตั้งวัดเอ็นโทคุอิน (Entoku-in) วัดเล็ก ๆ ที่เราสามารถแวะชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่นั่นอีกด้วย

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน/คน และเด็ก (12-18 ปี) 250 เยน/คน (บัตรชุดเข้าชม Kodaiji Temple และ Entokuin Temple 900 เยน)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 9:00-17:00 น. (สามารถเข้าชมช่วงใบไม้เปลี่ยนสีได้จนถึง 21:30 น.)
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 206, 207 ลงป้าย Higashiyama Yasui เดินเท้าต่อประมาณ 5 นาที ใช้เวลารวมประมาณ 30 นาที

4. วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji: 東福寺)

4. วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji: 東福寺)

วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเกียวโต โดยจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือภายในวัดมีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 2,000 ต้นเรียงรายอย่างงดงาม วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุด

จุดไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณสะพานสึเทนเคียว (Tsuutenkyo) เป็นสะพานไม้ต้นหนาทอดยาวเชื่อมระหว่างสองอาคารเข้าด้วยกัน ประกอบด้วยวิวระเบียงจากใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงาม ที่นี่จึงเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่คนญี่ปุ่นนิยมแวะมาชมความงาม

ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมสวนฮนโบ+สะพานสึเทนเคียว+ไคซันโดะ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน/คน และเด็ก 500 เยน/คน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 9:00-16:00 น. แต่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เดือนพฤศจิกายน-ต้นธันวาคม เปิดให้บริการ 8:30-16:30 น.
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ JR Nara Line ลงสถานี Tofukuji และเดินประมาณ 5-10 นาที หรือนั่งรถบัสสาย 南5 ไปลงที่ป้าย Tofukuji-Michi

5. ศาลเจ้าคิตะโนะ เทมมังงู (Kitano Tenmangu: 北野天満宮)

5. ศาลเจ้าคิตะโนะ เทมมังงู (Kitano Tenmangu: 北野天満宮)

ศาลเจ้าคิตะโนะ เทมมังงู (Kitano Tenmangu) ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงทั้งในฐานะจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีหลักของญี่ปุ่นและในด้านความเชื่อของเทพเจ้าด้านการเรียน การแข่งขัน และการทำงาน อยู่ใกล้กับเมืองเกียวโต จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงใบไม้แดงของที่นี่คือบริเวณริมลำธารบนสะพานสีแดง ใจกลางสวนใบเมเปิ้ลแดงกว่า 400 ต้น

นอกจากนี้ ยังมีอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ ตลาดนัดแผงลอยจัดขึ้นตามถนนรอบ ๆ ศาลเจ้า มีทั้งงานฝีมือ อาหารท้องถิ่น ของเล่น สินค้าวินเทจมือสอง ฯลฯ ซึ่งตลาดนัดนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ของทุกเดือนเท่านั้น

ค่าเข้าชม : เข้าชมศาลเจ้าฟรี แต่สำหรับสวนในศาลเจ้า ผู้ใหญ่ 1,200 เยน และเด็ก 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 9.00 น. - 16.00 น. แล้วจะมีการประดับไฟกลางสวนถึง 20:00 น.
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kyoto สามารถนั่งรถบัสสาย 50, 101 ลงที่ป้ายรถบัส Kitano Tenmangu-mae ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

6. สวนฮาคุริวเอ็น (Hakuryu-en: 白龍園)

6. สวนฮาคุริวเอ็น (Hakuryu-en: 白龍園)

สวนฮาคุริวเอ็น (Hakuryu-en) สวนญี่ปุ่นกลางภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างโดยเอกชนเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งอายุยืนยาว (Shirahige Okami) และ 8 เทพมังกรการค้า (Hachidai Ryuuou) โดยเฉพาะ โดยบรรยากาศของสวนนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยมอส สวนหินญี่ปุ่นดั้งเดิม และป่าไม้พรรณหายาก ยิ่งในช่วงใบไม้แดงเต็มที่ ใบไม้ของป่าในสวนแห่งสีจะแดงสดมากผลจากการดูแลสวนอย่างดีที่ติดอันดับต้นจุดชมใบไม้แดงแนะนำในเกียวโตจากหลายเว็บไซต์

สวนนี้เปิดให้เข้าชมเพียงแค่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น! มีการจำกัดผู้เข้าชม 50 คนต่อรอบ แล้วต้องทำการจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์เท่านั้น จึงสามารถเข้าชมสวนได้ โดยจะแบ่งเป็นรอบเช้าและบ่ายให้เข้าชม ใครที่สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก https://hakuryuen.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)

ค่าเข้าชม : เดือนพฤศจิกายน 2,000 เยน/คน เดือนตุลาคมและธันวาคม 1,600 เยน/คน
เวลาทำการ : เปิดเฉพาะในช่วงเทศกาลใบไม้ร่วง 10:00-14:00 น. แบ่งเป็นรอบเข้าชมทุกต้นชั่วโมง
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟท้องถิ่น (มีการเปลี่ยนขบวน) มาลงที่สถานี Ninose จากนั้นเดินเท้าอีก 4 นาที ถึง ใช้เวลารวมประมาณ 55 นาที

7. รถไฟซากะโนะ (Sagano Romantic Train: 嵯峨野トロッコ)

7. รถไฟซากะโนะ (Sagano Romantic Train: 嵯峨野トロッコ)

รถไฟซากะโนะ (Sagano Romantic Train) เป็นรถไฟสไตล์เรโทร (Retro) วิ่งรางธรรมดาสำหรับท่องเที่ยวชมวิว อันสวยงามของทางเกียวโต โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีใบไม้แดงทั่วบริเวณเลียบแม่น้ำโฮซูกาวะ (Hozugawa River) สวยสมกับชื่อรถไฟสายโรแมนติก

เส้นทางการวิ่งของรถไฟขบวนนี้จะเป็นแบบรถรางหวานเย็นใช้ระยะเวลา 25 นาที จากสถานี Saga torokko (ใกล้ป่าไผ่อาราชิยามะ) ถึงสถานี Kameoka torokko วิ่งผ่านจุดชมวิวสำคัญของเกียวโต โดยปกติแล้วจะเปิดตลอดปีแต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะจะเป็นช่วงซากุระบานและช่วงใบไม้แดง

ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้จาก https://www.sagano-kanko.co.jp/en/index.php (ภาษาอังกฤษ)

ค่าเข้าชม : ราคาแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 880 เยน/คน และเด็ก 440 เยน/คน
เวลาทำการ : ทุกวัน รอบทั่วไปประมาณ 9:00-17:00 น. รอบพิเศษประมาณ 17:00-19:45 น.
(*โปรดตรวจสอบตารางเวลารถไฟก่อนเดินทาง)
การจองตั๋วรถไฟ:
- จองผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ JR-West หรือ ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์อื่น ๆ
- หน้าสถานีรถไฟ Saga torokko หรือ เคาท์เตอร์ JR West
- จุดบริการนักท่องเที่ยวคันไซสาขาเกียวโตและชินไซบาชิ (Kansai Tourist Information Center;Kyoto/Shisaibashi)
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Saga Arashiyama จากนั้นเดินเท้าประมาณ 10 นาทีถึงสถานี Saga Torokko

8. วัดบิชามอนโด (Bishamondo Temple: 毘沙門堂)

8. วัดบิชามอนโด (Bishamondo Temple: 毘沙門堂)

วัดบิชามอนโด (Bishamondo) 1 ใน 5 วัดในนิกายเท็นได (Tendai) อันเก่าแก่ ซึ่งที่นี่มีวิวช่วงฤดูใบไม้ร่วงสวยจนได้รับฉายาว่าเป็นพรมแดงแห่งเกียวโต จากใบไม้แดงที่ร่วงหล่นเต็มพื้นราวกับพรมแดงต้อนรับนักท่องเที่ยวให้แวะไปชมเสมอ ตั้งอยู่แถวยามะชินะ (Yamashina)

จุดชมวิวแบบพรมแดงในวัดก็คือบริเวณประตูโชคุชิมง (Chokushimon Gate) เป็นประตูแขกบ้านแขกเมืองหรือชนชั้นสูงในสมัยก่อนอยู่ท่ามกลางวิวแสนสงบนอกเมืองเกียวโต ซึ่งที่นี่เป็นวัดที่มองไปทางไหนก็จะเจอกับสัญลักษณ์มังกรและความโชคดีเสมอ

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน/คน เด็กวัยมัธยม 400 เยน/คน เด็กวัยประถม 300 เยน/คน
เวลาทำการ : 9:00-17:00 น. (ช่วงฤดูหนาวปิดเร็วขึ้นครึ่งชม.)
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yamashina จากนั้นให้เดินเท้าเข้าไปประมาณ 15 นาทีถึงหรือนั่งแท็กซี่ต่อไปประมาณ 5 นาทีถึงจุดหมาย

9. วัดเทนริวจิ (Tenryuji: 天龍寺)

9. วัดเทนริวจิ (Tenryuji: 天龍寺)

วัดเทนริวจิ (Tenryuji) วัดนิกายเซน 1 ใน 5 แห่งของญี่ปุ่น ประจำอาราชิยามะ ซึ่งสมัยก่อนมีพื้นที่รวมทั้งสะพานโทเก็ตสึเคียวและสวนคาเมยามะ แต่พื้นที่ภายในวัดเกิดจากการบูรณะหลังความเสียหายจากไฟไหม้ช่วงสงครามซามุไรสมัยก่อน

ถึงแบบนั้นหลังการฟื้นฟูที่นี่ก็เต็มไปด้วยต้นไม้สวยพรรณหายาก โดยแบ่งออกเป็นสวนโซเก็นจิ (Sogenji teien) สวนญี่ปุ่นอายุ 700 ปีที่มีบ่อน้ำโซเก็นตรงกลางสะท้อนเงาจากใบไม้แดงราวกระจก และ สวนฮัคกาเอ็น (Hyakka-en) เป็นสวนดอกไม้ซึ่งช่วงใบไม้ร่วงจุดนี้จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีเรียงยาวตลอดทาง จากจุดนี้สามารถเดินออกไปถนนป่าไผ่อาราชิยามะได้เช่นกัน

ค่าเข้าชม : เฉพาะบริเวณสวน เด็ก (13 ปีขึ้นไป) 500 เยน/คน และเด็ก (7-12 ปี) 300 เยน/คน (สำหรับเด็กเล็ก เข้าชมฟรี)
เวลาทำการ : ทุกวัน 8:30-17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 7 นาทีถึง (ใช้เวลารวมประมาณ 25 นาที) หรือ จากป้ายรถบัส Kyoto Eki-mae ให้นั่งรถบัสสาย 28, 11, 93 มาลงป้าย Arashiyama Tenryuji-mae ถึง (ใช้เวลารวมประมาณ 45 นาที)

10. สวนอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Gyoen National Garden: 京都御苑)

10. สวนอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Gyoen National Garden: 京都御苑)

สวนอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Gyoen National Garden) สวนสาธารณะพระราชวังเก่าที่มีต้นไม้กว่า 20,000 ต้น พร้อมพื้นที่อันกว้างใหญ่ใจกลางเมืองพร้อมร่องรอยประวัติศาสตร์ คงจินตนาการไม่ยากหากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงพื้นที่ทั่วบริเวณเกิดใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มพื้นที่ขนาดไหน ซึ่งการเดินทางเข้ามาก็สะดวกสบาย ในระหว่างที่แวะชมสวนสามารถไปร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ได้เช่นกัน

ค่าเข้าชม : ฟรี!
เวลาเข้าชม : ปิดวันจันทร์ สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวเปิด 9.00-16.00น. (ฤดูอื่นจะเปิดช้ากว่าราว 1ชม.)
การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Imadegawa จากนั้นเดินเท้าเข้าสวนประมาณ 5 นาทีถึง (ใช้เวลารวมประมาณ 15 นาที)

know-before-you-go