6 ทิวทัศน์ชวนผ่อนคลายในโทโฮคุ
![6 ทิวทัศน์ชวนผ่อนคลายในโทโฮคุ](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/860/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e209c7c8b_5857dde1361bc_1932234318.jpg)
6. ยามะเดระ (จังหวัดยามากาตะ)
![6. ยามะเดระ (จังหวัดยามากาตะ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e20b97f26_5857de884bbb7_1399310209.jpg)
ตั้งอยู่ในบริเวณตอนเหนือของจังหวัดยามากาตะ ยามะเดระ หรือมักจะเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า วัดริชฉะคุจิ (立石寺) ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี 860 ผู้ที่ต้องการไปเยือนจะต้องปีนเขาลุยฝ่าดงป่าสนผ่านบันไดหิน 1,015 ขั้น ตัวอาคารวัดตั้งอยู่บริเวณริมผาหิน ให้ความรู้สึกสูงส่งและศักดิสิทธิ์ วัดแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยียนได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแห่งหนึ่งอีกด้วย
5. ทะเลสาบอินะวาชิโระ (จังหวัดฟุคุชิมะ)
![5. ทะเลสาบอินะวาชิโระ (จังหวัดฟุคุชิมะ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e20cd53a1_5857dee8a224f_1847526701.jpg)
ทะเลสาบบิวะในจังหวัดเกียวโตเป็นทะเลสาบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มนทางกลับกัน แม้ว่าทะเลสาบอินะวาชิโระ (猪苗代湖) ในจังหวัดฟุคุชิมะจะไม่โด่งดังเท่า แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถแวะเวียนมาได้ทุกฤดู สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในกีฬาทางน้ำสามารถแวะมาได้ในฤดูร้อน ในฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้ที่อยู่รายรอบทะเลสาบก็จะเปลี่นเป็นสีโทนร้อนสวยสดงดงาม ส่วนในฤดูหนาว เราก็จะได้เห็นฝูงหงส์ที่อพยพมาตามฤดูกาล นอกจากนี้เงาสะท้อนของภูเขาบันได (磐梯山) ในทะเลสาบแห่งนี้เรียกว่าชัดและกระจ่างมากจนทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อเรียกว่า "ทะเลสาบกระจกเงาสวรรค์"
4. ปล่องภูเขาไฟโอคามะ (จังหวัดมิยากิ)
![4. ปล่องภูเขาไฟโอคามะ (จังหวัดมิยากิ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e20e1d0ff_5857dfb154e01_1414041962.jpg)
ปล่องภูเขาไฟโอคามะ (御釜) เป็นทะเลสาบรูปวงกลมที่อยู่ในเทือกเขาซะโอ ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โกะชิคินุมะ ซึ่งแปลว่าบ่อน้ำห้าสี มีที่มาจากการที่แร่ธาตุที่มาจากการระเบิดของภูเขาไฟไหลไปผสมกับน้ำจนเกิดปฏิกิริยา ทำให้น้ำเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ปริมาณแสงแดด รวมถึงจุดที่รับชม ปล่องภูเขาไปนี้เกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟในปี 1182 และเชื่อกันว่าเริ่มมีน้ำในเต็มแอ่งหลังจากปี 1820 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังที่นี่ได้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง
3. หุบเขาโอยาสุ (จังหวัดอากิตะ)
![3. หุบเขาโอยาสุ (จังหวัดอากิตะ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e20f53d1f_5857e016403bb_1923390840.jpg)
ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าของอุทยานแห่งชาติคุริโคมะ(栗駒国定公園) หุบเขาโอยาสุเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำมากมาย หุบเขาโอยาสุแห่งนี้เกิดจากการที่สายน้ำจากแม่น้ำมินาเสะกัดกร่อนหินผามาหลายร้อยปีจนเกิดเป็นหน้าผาเช่นนี้ ในบางช่วงมีความสูงถึง 60 เมตรเลยทีเดียว แม่น้ำบางจุดจะมีอุณหภูมิสูงมากจนทำให้เกิดหมอกไอน้ำปกคลุม
2. ลำธารโออิราเสะ (จังหวัดอาโอโมริ)
![2. ลำธารโออิราเสะ (จังหวัดอาโอโมริ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e21099efd_5857e068c26bb_1243442542.jpg)
หนึ่งในทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดของญี่ปุ่นคือที่ลำธารโออิราเสะ (奥入瀬渓流)แห่งนี้ เป็นลำธารเดียวที่เชื่อมกับทะเลสาบโทวาดะ (ทะเลสาบจากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอนชู) ลำธารนี้ไหลพาดผ่านป่าเป็นระยะทางกว่า 14 กม. เป็นลำธารที่น้ำไหลแรงมาก และยังมีน้ำตกให้เห็นเป็นหย่อมๆอีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่มีนักท่องเที่ยวมาไฮกิ้งจำนวนมาก
1. ชายฝั่งซันริคุ (จังหวัดอาโอโมริ อิวาเตะ และมิยากิ)
![1. ชายฝั่งซันริคุ (จังหวัดอาโอโมริ อิวาเตะ และมิยากิ)](https://imgcp.aacdn.jp/img-a/600/auto/global-aaj-front/article/2016/12/5857e211d92f4_5857e1e863c3d_406762688.jpg)
ชายฝั่งซันริคุ (三陸海岸) เป็นชายฝั่งที่หันเข้าหามหาสมุทรแปซิฟิก พาดยาวจากทางตอนใต้ของจังหวัดอาโอโมริไปจนถึงตอนเหนือของจังหวัดมิยากิ เป็นระยะทางกว่า 280 กม. ตลอดเส้นทางจะมีช่องน้ำพุ ชายหาดสวยๆ หน้าผาสูงชัน รวมถึงหินที่มีเอกลักษณ์มากมายริมหาด ซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ไฮไลท์หลักอยู่ที่ชายฝั่งคิตะยามาซากิ (北山崎) และหาดโจโดกาฮามะ (浄土ヶ浜) ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดอิวาเตะ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับโทโฮคุได้ที่นี่!