อัพเดทล่าสุด 3/10/2016

6 วิวงามๆ แทบลืมหายใจ ของดีของภูมิภาค Hokuriku

ange110.c.blog.so-net.ne.jp

ภูมิภาค Hokuriku ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงหนือของเกาะ Honshu ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลของประเทศญี่ปุ่นหรือภูมิภาค Chubu ภูมิภาคนี้ประกอบไปด้วย 5 จังหวัด คือ Niigata, Toyama, Fukui, Ishikawa และ Gifu และแต่ละจังหวัดก็เต็มไปด้วยธรรมชาติสาวยงามน่าไปเที่ยวชม เหมาะสำหรับท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีด้วย

By ขนมโตเกียว

6 วิวงามๆ แทบลืมหายใจ ของดีของภูมิภาค Hokuriku

6. บ่อน้ำ Imori (Niigata)

บ่อน้ำ Imori เป็นบ่อน้ำที่ตั้งอยู่เมือง Myoko ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถชื่นชมความงามของภูเขา Myoko ได้อย่างสวยงามที่สุดที่หนึ่ง ที่นี่จะคล้ายๆกับภูเขาไฟ Fuji คือจะมีเงาสะท้อนภูเขา Myoko ซึ่งเป็นภาพที่งดงามมากๆ พื้นที่บริเวณรอบๆ บ่อมีขนาดประมาณ 504 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมวิวรอบๆ ได้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมความงดงามของบ่อนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งมาถ่ายรูปและวาดรูป บรรยากาศโรแมนติคมากๆ

5. น้ำตก Shomyo และน้ำตก Hannoki (Toyama)

น้ำตก Shomyo ตั้งอยู่ที่ภูเขา Tateyama อยู่ระหว่างจังหวัด Toyama และจังหวัด Gifu ถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและมีความสูงถึง 350 เมตร ใยช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อหิมะละลาย น้ำตก Hannoki ซึ่งเป็นน้ำตกอันดับสองจะไหลลงมาที่น้ำตก Shomyo ทำให้สามารถมองเห็นน้ำตกทั้งสองได้พร้อมกัน ด้านหน้าของน้ำตกมีสถานที่ในการชมน้ำตกจากทางด้านหน้าได้ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใกล้น้ำตกได้ เวลาที่ดีที่สุดในการมาชมน้ำตก Shomyo คือเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน แต่ระวังว่าตั้งแต่สิ้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงปลายเดือนเมษายน ถนนจะถูกปิดเนื่องจากหิมะตก

4. Hoshitoge no Tanada (Niigata)

Hoshitoge no Tanada คือ การทำนาแบบขั้นบันไดนั่นเอง ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100หมู่บ้านชนบทที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบริเวณจังหวัด Niigata ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักทั่วประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ ช่วงที่น่าไปเที่ยวชมคือ ช่วงหิมะละลายคือ ระหว่างใบไม้ผลิไปจนถึงเดือนมิถุนายน และ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงระหว่างเดือนตุลาคม เดือนพฤศจิกายน มีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่งดงามคือ มีเงาสะท้อนภาพทิวทัศน์ที่งดงามจากน้ำขังในนาข้าว นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติที่สวยสดงดงามนี้ได้อย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว

3. Ubagataki (Ishikawa)

น้ำตก Ubagataki เป็นน้ำตกที่อยู่ในจังหวัด Ishikawa ที่ตั้งอยู่ริมถนนขาว Shirakawa go น้ำตกนี้มีความยาวถึง 76 เมตร มีความกว้าง 100 เมตร และได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น น้ำตกนี้มักจะถูกเปรียบเทียบกับผมยาวสีขาวของหญิงชรา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตกนั้นเอง (คำว่า Uba หมายถึง หญิงชรา) เราสามารถเพลิดเพลินกับการชื่นชมทิวทัศน์น้ำตกเบื้องหน้า ขณะที่เพลิดเพลินกับการแช่เท้าในอออนเซ็นเท้าได้ด้วย

2. Tojinbo (Fukui)

หน้าผา Tojinbo เป็นหน้าผาที่ยื่นออกไปในทะเลญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัด Fukui เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัด และยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นสถานที่สำคัญทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นด้วย จึงมีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชมไม่ขาดสาย และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังและละครมากมายอีกด้วย จุดเด่นของผานี้คือมีความยาวถึง 1 กิโลเมตรและสูงถึง 25 เมตร และเป็นหน้าผาหินลาวาที่ถูกน้ำทะเลและคลื่นลมกัดเซาะโดยธรรมชาติ จะเดินชมความงามหรือจะขึ้นเรือนำเที่ยวเพื่อชมความงามของหน้าผานี้จากทะเลก็ได้

1. Mikurigaike (Toyama)

ภาพทิวทัศน์ภูเขาอันสูงใหญ่สะท้อนบนผิวน้ำสีน้ำเงินเข้มของ Mikurigaike ของจังหวัด Toyama นี้ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ นอกจากที่นี่จะล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสวยงามแล้ว ยังมีออนเซ็นซึ่งตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย มีเส้นทางเดินป่าอยู่มากมายรอบๆ Mikurigaike ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินได้รอบ อาจจะต้องขึ้นลงเนินบ้างพอประมาณ แต่ก็สามารถสนุกสนานด้วยอุปกรณ์ปีนเขาง่ายๆ แถมจะได้สูดอากาศแสนสะอาดในสถานที่ซึ่งอยู่ใกล้ก้อนเมฆนิดเดียว ทำให้ทั้งจิตใจและร่างกายสดชื่นจริงๆ