4+1 ฤดูของญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ผลิ ( Haru)

ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นโดยมากจะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่นของญี่ปุ่น เพราะดอกไม้จะเริ่มผลิบานหลังจากต้นไม้มีแต่กิ่งมานานตลอดช่วงหน้าหนาว ใบไม้สีเขียวก็จะเริ่มผลิ เป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว และยังเป็นฤดูที่น่าเที่ยวมากที่สุดโดยเฉพาะ ช่วง เดือนเมษายน ดอกซากุระบานจะสวยงาม ทั้งประเทศจะถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูและขาว ชาวญี่ปุ่นจะพากันเอาเสื่อมาปูใต้ต้นซากุระเพื่อชื่นชมความงามของดอกซากุระ อากาศในตอนนี้กำลังเย็นสบาย สำหรับเสื้อผ้า ถ้าใครขี้หนาวจะเอาแจ็คเก็ตหนาน่อยมาใส่ทับเสื้อแขนยาวก็ได้ เพราะถ้าร้อนก็จะถอดออกได้ แต่ไม่ควรใส่เสื้อดาวน์ขนเป็ด หรือเสื้อโค้ทหนาๆ บวมๆ เด็ดขาดเพราะจะทำให้ดูหลงฤดูมากๆ (ต่อให้หนาวก็ต้องทนเพื่อความเนียนไปกับคนญี่ปุ่นไง)

ในฤดูนี้ของญี่ปุ่น ไปที่ไหนก็เต็มไปด้วยซากุระละลลานตา สถานที่แนะนำก็คือตามสวนสาธารณะต่างๆ นอกจากจะไปชมซากุระแล้วยังได้ชมบรรยากาศคนมากมายที่ไปเฉลิมฉลองเทศกาลซากุระอีกด้วย และของกินในฤดูนี้ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือขนมซากุระโมจิ ขนมที่ทำจากถั่วแดงกวน แล้วห่อด้วยแป้งโมจิสีซากุระ และห่ออีกชั้นด้วยใบซากุระที่นำไปคลุกกับเกลือ รสชาติหวานของโมจิกับความเค็มของใบซากุระเข้ากันได้ดีสุดๆ

ฤดูฝน (Uki)

ฤดูฝนเป็นฤดูที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่น เป็นช่วงเดือนมิถุนายน ช่วงอากาศเปลี่ยนจากใบไม้ผลิ และก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งควรฟังพยากรณ์อากาศก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน หากมีรายงานว่าฝนจะตก จะได้เตรียมร่มติดตัวทันท่วงที พยากรณ์ในญี่ปุ่นนั้นก็ส่วนใหญ่จะแม่นและเชื่อถือได้ ถ้าบอกว่าฝนจะตกละก็ เตรียมร่มไว้ได้เลย ส่วนอุณหภูมิในตอนนี้จะเริ่มร้อนๆ แล้ว สามารถใส่เสื้อยืดตัวเดียวได้ไม่ต้องมีเสื้อคลุม

ใครเจอฝนไม่ต้องเซ็ง เดินเข้าห้างหรือช็อปปิ้งมอลล์ใต้ดินได้เลย เพราะหลายๆ ที่เวลาที่ฝนตก มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับวันฝนตกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการลดราคา นอกจากนี้ร้านอาหารบางร้านก็จะมีโปรโมชั่นดีๆหรือเมนูพิเศษในวันฝนตกอีกด้วย

ฤดูร้อน (Natsu)

ฤดูร้อน จะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปลายมิถุนายน ไปจนถึงปลายๆสิงหาคม อากาศในญี่ปุ่นจะเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีต่างๆ เป็นช่วงของการท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นที่นิยมไปทะเลหรือบ้านพักตากอากาศ ฤดูนี้ท้องฟ้าสีครามสดใส อากาศร้อนพอๆ กับบ้านเราเลย ฉะนั้นเตรียมเสื้อผ้าแบบอยู่ที่บ้านเราก็ได้ไม่มีปัญหา นอกจากนีั Hanabi Taikai หรือ เทศกาลพลุ ก็ยังเป็นเทศกาลประจำฤดูร้อนที่จะจุดกันจริงจังในช่วงนี้ โดยจะจุดพลุกันเป็นหมื่นๆ นัดเลย และคนญี่ปุ่นก็จะใส่ชุดยูกาตะ หรือกิโมโนฤดูร้อนออกมาชมเทศกาลกัน

ถ้าใครอยากดู Hanabi Taikai ที่อลังการที่สุด แนะนำให้ไปเทศกาลดอกไม้ไฟนางาโอกะ เป็นเทศกาลพลุที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนึงาตะ ซึ่งจะถูกจัดขึ้นช่วงต้นๆ เดือนสิงหาคม เป็นหนึ่งในงานดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ถ้าพูดถึงของกินในฤดูนี้ อย่าพลาด Kakigoori หรือน้ำแข็งไส ที่จัดเป็นหนึ่งในของที่นิยมทานกันในหน้าร้อนของชาวญี่ปุ่นเพราะสุดแสนจะชื่นใจ ช่วยดับร้อนได้ชะงัดนัก

ฤดูใบไม้ร่วง (Aki)

ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนปลายพฤศจิกายน ซึ่งหลังจากฤดูร้อนผ่านพ้นไป ลมเย็นๆ ก็พัดเข้ามาแทน ต้นไม้เริ่มผลัดสีจากเขียวเป็นแดง เหลือง สวยงาก่อนจะร่วงลงดิน รอวันที่ลมหนาวที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ เป็นฤดูที่มีสีสันสวยงาม เมื่อสีสันเหล่านี้ตัดกับภาพวิวทิวทัศน์ของวัดหรือศาลเจ้าสวยงามของญี่ปุ่นแล้วก็จะกลายเป็นภาพสวยงามประทับใจได้ในทันที ช่วงนี้อากาศจะเริ่มเย็น และจะค่อยๆ เย็นลงๆ เรื่อยๆ และอากาศกลางวันกับกลางคืนจะต่างกันมาก ฉะนั้นเตรียมเสื้อหนาวแบบที่ถอดออกได้ง่ายๆ และพกผ้าพันคอติดกระเป๋าไว้ก็อุ่นตัวและอุ่นใจดี

แม่แต่คนญี่ปุ่นเองตอนนี้ พอเข้าฤดูนี้ก็จะซื้อตั๋วชินคันเซ็นมุ่งหน้าไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันที่ Kyoto เพราะว่าจัดว่าเป็นเมืองที่มีบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามมาก โดยเฉพาะบนระเบียงที่ยื่นออกนอกผาของวัด Kiyomizu Dera หรือที่คนไทยเรารู้จักกันดีในชื่อวัดน้ำใส นั้นสามารถมองเห็นวิวใบไม้สีแดงได้ไกลแบบ panorama เลย

ข้อควรระวังข้อเดียวของฤดูนี้คือ อ้วนแน่ๆ เพราะอาหารอร่อยมากกกก โดยเฉพาะพวกผักผลไม้ตามฤดอย่างเกาลัด มัน และเห็ดต่างๆ ที่หวานอร่อยเม็ดโต เอามาทำอาหารหรือขนมอะไรก็อร่อย

ฤดูหนาว (Fuyu)

ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูกาลที่หลายเมืองในญี่ปุ่นจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ โดยเฉพาทางเหนืออย่างภูมิภาค Tohoku หรือ Hokkaido รวมทั้งเมืองที่อยู่ในหุบเขา ส่วนน้ำในแม่น้ำและทะเลสาป บางแห่งก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง มีการเล่นสกีและเล่นสเก็ตน้ำแข็งกันกัน ที่ Hokkaido จะมีงานเทศกาลหิมะ ที่เป็นงานเทศกาลใหญ่ระดับโลกก็ว่าได้ นอกจากนี้ในช่วงคริสต์มาสและวันปีใหม่ สถานที่ทุกแห่งจะมีการประดับไปด้วยไฟหลากสีสวยงาม ส่วนเรื่องเสื้อผ้า เตรียมมาแบบจัดเต็มได้เลย เสื้อดาวน์ขนเป็ด เสื้อโค้ท รองเท้าบู๊ต ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม รวมทั้งถุงมือด้วย ยิ่งถ้าไปทางเหนือก็จะยิ่งหนาว ระวังเป็นหวัดกันด้วยล่ะ

ฤดูหนาวๆ แบบนี้ร้านอาหารแต่ละร้านก็จะประเคนหม้อไฟสารพัดชนิดกันออกมา ล้อมวงกันกินหม้อไฟร้อนๆ ไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่านี้แล้วล่ะ