ทางออกสะดวกที่สุดคงจะเป็นแท็กซี่ และเป็นทางออกที่อาจจะแพง(มากกกกกกก)ที่สุด โดยปกติจะสตาร์ทที่ 2 กิโลเมตรแรก 600-700 เยน และขึ้นประมาณ 80-90 เยนทุกๆ 300-400 เมตร ยิ่งถ้าอยู่ไกล และยิ่งเป็นกลางคืนก็จะโดนชาร์จ late night fee เพิ่มอีก แถมถ้าต้องขึ้นทางด่วนก็บวกกันไปอีก จ่ายกันหัวโตเลย แต่แท็กซี่ญี่ปุ่นสุภาพ และปลอดภัย ส่วนใหญ่จะจอดรออยู่บริเวณด้านหน้าสถานี หรือจุดโบกแท็กซี่ แต่ที่สำคัญเลยคือ ต้องจำชื่อที่พักและย่านที่อยู่มาให้แม่นๆ แล้วกัน

漫画喫茶 (Manga Kissaten) เป็นร้านที่เข้าไปอ่านการ์ตูนรวมถึงดูหนังได้แบบไม่อั้น คิดเป็นรายชั่วโมง เป็นทางออกเบสิคของคนญี่ปุ่นเวลาตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายด้วยเช่นกัน เพราะสามารถมาขอพักพิงที่นี่ได้ เพราะนอกจากจะสามารถหลบหนาวอยู่ได้ทั้งคืนแล้ว ส่วนใหญ่จะมีห้องอาบน้ำฝักบัวและผ้าเช็ดตัวต่างๆ ไว้บริการ (จ่ายตังค์เพิ่ม) มีที่ชาร์จมือถือ อินเทอร์เน็ต และสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเก้าอี้นั่งแบบไหน มีทั้งแบบนั่งและนอน แถมยังมีผ้าห่มให้เช่าอีกต่างหาก ราคารวมๆ แล้วอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 เยน แล้วแต่ออปชั่นที่เราเลือก

สำหรับคนที่ไม่อยากรู้สึกเซ็งยามตกรถไฟ แนะนำที่นี่เลย ถือว่าได้เฮฮาต่อในคาราโอเกะจนถึงเช้า ใครอยากร้องเพลงก็ร้องไปเลย หรือจะงีบก็ได้เพราะห้องใหญ่พอควร เสียงดังหน่อย แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาแล้วคนจะน้อย จึงจะเงียบกว่าวันเสาร์อาทิตย์ นอนสบายกว่า เพียงแต่ไม่มีห้องอาบน้ำเท่านั้นเอง

McDonald's ส่วนใหญ่จะเปิด 24 ชั่วโมง ตอนดึกๆ ก็จะเงียบสงบและมีคนมานั่งอ่านหนังสือสอบหรือนั่งทำงานกันเยอะกว่าที่คิด ถ้าจะหลบหนาวที่ McDonald's ต้องพึงระวังว่า ห้ามหลับเด็ดขาด เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่พักแต่เป็นพื้นที่สาธารณะที่ใครก็สามารถเข้าออกได้รวมถึงมิจฉาชีพ เราสามารถเข้ามาสั่งกาแฟหอมกรุ่นกับพายอร่อยๆ กิน และรอเวลารถไฟเที่ยวแรกออกวิ่งได้ในงบไม่เกิน 300 เยน บางสาขาก็จะมีที่ชาร์จมือถือไว้รองรับอีกด้วย

โรงหนังที่ฉายแบบ late nigt show ก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะฉายหนังรอบตี 2 ถึง ตี 4 จึงสามารถฆ่าเวลา 2-3 ชั่วโมงไปได้แบบเพลินๆ เลย ออกมาจากโรงหนังก็พอดีเวลารถไฟเที่ยวแรกวิ่งพอดี แถมตอนดึกๆ มีผู้หญิงเข้ามาดูคนเดียวเยอะกว่าที่คิด นั่นเป็นเพราะว่าคนไม่เยอะ และค่าตั๋วถูกกว่าเวลาธรรมดาถึง 500-600 เยนเลยด้วย