คนไทยเราพนมมื่อก็ตอนจะไหว้ เป็นการแสดงความเคารพ ทราบไหมว่าคนญี่ปุ่นเขาพนมมือไหว้ตอนไหน
a. เวลาขอบคุณ
b. เวลาขอโทษ
c. เวลาปฏิเสธ


(เฉลย: b. เวลาขอโทษ ตามด้วยคำว่า gomenne ที่แปลว่า ขอโทษนะ)

เราเอามือปัดๆ ตรงหน้าเวลาได้กลิ่นเหม็นใช่ไหมล่ะ ทราบไหมว่าคนญี่ปุ่นทำแบบนั้น แต่คนละความหมายกับไทยเรา ทราบไหมว่าแปลว่าอะไร ลองทายดู
a. เวลาขอบคุณ
b. เวลาจะไล่ใครสักคน
c. เวลาจะปฏิเสธ

(เฉลย: c. เวลาปฏิเสธ โดยนอกจากจะบอกว่า ไม่ต้องการแล้ว บางทีก็จะใช้ตอนการถ่อมตัวเวลาถูกชมหรือถูกขอบคุณ มักจะพูดว่า Tondemonai แปลว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย )

เวลาคนญี่ปุ่นเอามือชี้ที่จมูกตัวเอง ทราบไหมว่าหมายถึงอะไร
a. หมายถึงตัวเขาเอง
b. บอกให้ไปสั่งน้ำมูก
c. หมายถึงจมูกของเขา

(เฉลย: a. หมายถึงตัวเขาเองนั่นแหละ ปกติคนไทยเราจะชี้มาที่ตัวเราเอง แต่คนญี่ปุ่นจะชี้ไปที่จมูก)

จริงๆ อันนี้ไม่ยากเลย คงไม่ต้องเดากัน เพราะก็คือใช้ในกรณีที่จะเรียกคนให้เข้ามาใกล้ๆ เหมือนๆ กับของเรานั่นเอง และถ้ามองกลับกัน อาจจะเป็นเหมือนการโบกมือไล่ แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่โบกมือไล่โดยการยืดแขนออกไปข้างหน้าแบบนี้ นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นไม่นิยมการใช้นิ้วชี้นิ้วเดียวในการกวักเรียกคน แต่จะใช้ทั้งมือในการกวักเรียก ดูสุภาพกว่า

การยื่นแขนสองข้างและงอพร้อมกับทิ้งปลายนิ้วคว่ำลง เป็นภาษากายที่เข้าใจยากจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องการจะบอกอะไร แต่เอาเป็นว่า ดูหน้าคนทำแล้วก็อาจจะพอเดาได้รางๆ
a. ฝนตก
b. ผี
c. สุนัข

(เฉลย: b. ผี เอ่อ เวลาเจอไม่ต้องบอกดีกว่านะ หรือไม่ต้องเจอเลยจะดีที่สุด)

จริงๆ อันนี้ดูลักษณะการปัดแขนและสีหน้าคนกระทำก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่า
a. บายบาย
b. ไปให้พ้นนะ
c. ไม่เอา ไม่เป็นไร

(เฉลย: b. ไปให้พ้น เป็นการไล่ โดยจะใช้เฉพาะเวลาที่โมโหและไม่อยากเห็นหน้าคู่สนทนาแล้ว)

ทราบไหมว่าการกำแบๆ แบบนี้แปลว่าอะไรในภาษากายของคนญี่ปุ่น
a. คุยโว
b. ฉันรู้สึกไม่สบาย
c. คุณนี่พูดมากจริง

(เฉลย: a. คุยโว เอาไว้ใช้เวลาได้ยินคนที่พูดอะไรเกินจริง แล้วคุณอยากจะแอบบอกให้คนอื่นรู้ โดยจะทำท่านี้และแอบบอกว่า uso, uso แปลว่า โม้ๆ)