7 Japanglish คำฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่น
Japanglish เป็นคำที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวต่างชาติ เอาไว้ใช้เรียกศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่นำภาษาต่างชาติมาปรับใช้ และโดยมากจะเป็นการปรับใช้แบบที่มีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะเข้าใจเนื่องจากความหมายแตกต่างออกไปจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง แบบสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลยล่ะ ถึงบางทีคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษจะใช้ได้ในการสนทนากับคนญี่ปุ่น แต่ระวังว่าจะพูดกันไปคนละเรื่องนะ
7. OL / Salary Man
คำว่า OL (Office Lady) และ Salary Man เป็นคำภาษาอังกฤษที่คนญี่ปุ่นนำมาผสมกันเองจนกลายเป็นคำใหม่ เอาไว้เรียกหนุ่มสาวออฟฟิศ อย่าง Salary Man ก็มาจากคำว่า Salary (รายได้) Man (ผู้ชาย) หรือมนุษย์เงินเดือน (ที่ภาษาไทยเราก็แปลตรงตัวมาจากภาษาญี่ปุ่นอีกที) ฟังดูเหมือนๆ จะเป็นภาษาอังกฤษ แต่เอาเข้าจริงฝรั่งเขาก็ไม่ใช้กันนี่นา
6. Arubaito
Arubaito หมายถึงงานแบบ Part-time ที่กินค่าแรงเป็นรายชั่วโมง รากของมันมาจากภาษาเยอรมันที่ว่า Arbeit แปลว่าผู้ใช้แรงงาน ส่วนทำไมต้องเป็นภาษาเยอรมันนั้น คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เองก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าถูกใช้ในหมู่นักเรียนตั้งแต่สมัยเมจิ และกลายเป็นคำฮิตติดปากทั้งๆ ที่ผิดๆ แบบนั้นเรื่อยมา
5. Note Pasokon
Note Pasokon!? คำว่า Note นี่ยังพอจะเข้าใจ แต่ Pasokon นี่คืออะไรคนฟังคงจะงงเป็นแน่แท้ คำนี้เป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้เรียก laptop computer คำว่า Note ย่อมาจาก Notebook ที่หมายถึงขนาดพกพา และ Pasokon ก็ย่อมาจาก Pasonaru Konpyuta หรือ Personal Computer นั่นเอง ย่อไปย่อมาแถมเอาคำย่อมาผสมกันซะขนาดนี้ จะคุยกันรู้เรื่องไหมนี่
4. Gasoline Stand
คำนี้ก็คงจะพอเดาได้ว่าแปลว่าปั๊มน้ำมัน ไม่ใช่แท่นแก๊สแน่นอน คำว่า stand ของคนญี่ปุ่นในที่นี้คงจะใช้คล้ายๆ กับคำว่า Newsstand ที่หมายถึงซุ้มที่ขายนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ แล้วมาต่อเข้ากับคำว่า Gasoline เอาเองเป็นคำใหม่
คิดๆ ไปแล้ว คำว่าปั๊มน้ำมันในภาษาไทยเราก็แปลกพอๆ กันนะว่าไหม ทำไมต้องเป็นปั๊ม?
(เฉลย: ปั๊มคือเครื่องสูบน้ำ ในที่นี้คือเครื่องสูบน้ำมันนั่นเอง)
3. Key Holder
Key holder ของญี่ปุ่นแปลว่าพวงกุญแจ แปลมาตรงตัวๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็จะได้ว่า Key = กุญแจ ส่วน Holder = ถือ แต่ทั้งนี้ในภาษาอังกฤษคำว่า Key holder นั้นแปลว่าที่เก็บกุญแจหรือที่แขวนกุญแจจำนวนมาก ที่ถูกต้องคือ Key chain
2. Hochikissu
Hochikissu (ホッチキス) หมายถึงแม็กเย็บกระดาษ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Stapler แล้วคำว่า Hochikissu นี่มาจากไหนน่ะรึ ก็มาจากคำว่า Hotchkiss ที่เป็นชื่อของวิศวกรผู้คิดค้นที่เย็บกระดาษนี้ที่ชื่อ Benjamin Berkeley Hotchkiss นั่นเอง ที่มาที่ไปไกลไปหน่อยไหมนี่
1. Furonto
เราคงเคยได้ยินพนักงานโรงแรมพูดว่า กรุณาฝากกุญแจที่ Furonto แล้ว Furonto นี่มันที่ไหนล่ะนี่ คำว่า Furonto ของญี่ปุ่นนั้นมาจากคำว่า Front ที่ย่อมาจากคำว่า Front Desk อีกทีหนึ่ง หรือง่ายๆ ก็หมายถึง Reception ของโรงแรมนั่นเอง
- naruhodo.jp.net (อังกฤษ)