ซากุระที่เป็นดาวเด่นแห่งวงการต้นไม้ของประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ในบรรดาต้นซากุระมากมายนี้ มีต้นซากุระ 3 ต้นที่คนญี่ปุ่นยกให้เป็นต้นซากุระที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกด้วย ตามไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง!

ต้นแรกคือมิฮารุ ทาคิซากุระ ที่อยู่ในเมืองมิฮารุ จังหวัดฟุคุชิม่า

ซากุระเป็นต้นไม้คู่บ้านคุ่เมืองของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ การจัดเทศกาลชมซากุระบานหรือที่เรียกว่า "ฮานามิ" นั้นเชื่อกันว่าเป็นประเพณีที่จัดกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ซากุระบางต้นจะมีอายุยืนยาวกว่าพันปี อย่างต้นมิฮารุ ทาคิซากุระต้นนี้ ซึ่งสูงกว่า 12 เมตร

ทาคิซากุระ แปลตามตัวว่า "ซากุระน้ำตก" เนื่องจากก้านและดอกของซากุระต้นนี้ มีลักษณะย้อยลงมาคล้ายม่านน้ำตกนั่นเอง

มิฮารุ ทาคิซากุระ ไม่ใช่ซากุระเพียงต้นเดียวที่มีอายุมากกว่าพันปี อุสึซึมิ ซากุระ ในเมืองโมโตซุ จังหวัดกิฟุเอง ก็มีอายุกว่า 1,500 ปี

ตามประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้ว่า ต้นซากุระที่สูงกว่า 16 เมตรต้นนี้ ปลูกโดยจักรพรรดิเคไท ผู้ปกครองญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 6 นอกจากนั้นยังได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 1922

เช่นเดียวกับมิฮารุ ทาคิซากุระ ต้นอุสึซึมิ ซากุระก็มีความหมายแฝงอยู่กับชื่อเช่นกัน อุสึซึมิ แปลว่าสีหมึกจางๆ ซึ่งหมายถึงสีของต้นอุสึซึมิ ซากุระ ที่ตอนตูมสีชมพู เมื่อบานจะกลายเป็นสีขาว แต่พอร่วงโรยจะมีสีดำอ่อนๆ คล้ายสีหมึกจางๆนั่นเอง

และแล้วก็มาถึงลำดับสุดท้ายของ 3 สุดยอดต้นซากุระของญี่ปุ่น --จินไดซากุระ-- ที่เมืองโฮคุโตะ จังหวัดยามานาชิ ในเขตของวัดจิซโซจิ

ไม่มีใครทราบอายุที่แน่ชัดของจินไดซากุระ แต่เชื่อว่าอยู่ระหว่าง 1,800-2,000 ปี จนถูกเรียกว่า จินได ซึ่งแปลว่า ต้นไม้ที่อยู่มาตั้งแต่ยุคของพระเจ้า

จินไดซากุระยังถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเช่นเดียวกับ อุสึซึมิ ซากุระ อีกด้วย

ตามบันทึกได้ระบุไว้ว่า จินไดซากุระ เป็นต้นซากุระที่ปลูกโดย ยามาโตะ ทาเครุ โนะ มิโคะโตะ(ภาพบน) โอรสของจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 12 ในตำนานพื้นบ้าน

อุสึซึมิ ซากุระ และ จินไดซากุระ จะบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ในขณะที่ มิฮารุ ทาคิซากุระจะบานในช่วงกลางๆปลายๆเมษายน