สาวสไตล์ Ura-Harajuku เป็นสไตล์ที่ไม่ได้แต่งตัวสีสันจัดจ้านและหลุดโลกแบบสาว Harajuku แต่เป็นสาวที่แต่งตัวสไตล์ป๊อป ผสมกับเสื้อผ้ามือสอง ทับซ้อนกันหลายชั้นแต่ mix and match กันได้อย่างลงตัวและดูดี ที่เรียกว่าสไตล์ Ura-Harajuku นั้นก็เพราะว่า ura แปลว่าด้านหลัง คือถ้าเดินลัดเลาะเข้าด้านหลังของ Harajuku แล้วก็จะเจอร้านเสื้อผ้ามือสองเก๋ๆ มากมาย เหมือนกับว่า Harajuku ที่เราๆ เห็นนั้นเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น ด้านหลังยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะ และนิตยสารที่นำเสนอไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแบบนี้ ที่เด่นๆ เลยก็คือ CUTiE และ JILLE นั่นเอง

สาว Girlish คือสไตล์การแต่งตัวเก๋แบบสาวน้อยน่ารัก คำว่า Girlish มาจากคำว่า Girl+Stylish เป็นคำผสมภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นนั่นเอง สาวๆ สไตล์นี้จะชอบเครื่องประดับพลาสติกสีพาสเทลหรือไม่ก็เครื่องประดับที่ซ่อนลูกเล่นวิบวับ บางทีก็จะ mix เสื้อยืดเข้ากับกับกระโปรงลูกไม้ รองเท้าผ้าใบแบบ casual คือไม่ลุยมาก เป็นสไตล์ที่หวานกำลังดีของเด็กผู้หญิงสมัยนี้ ใครสนใจแฟชั่นแบบนี้ขอแนะนำนิตยสาร non-no, anan และ CanCam เลย

สาวสไตล์ O-ne-Gyaru มีให้เห็นทั่วไป One (โอะเน่) แปลว่าพี่สาว นั่นก็คือสาวๆ เหล่านี้อาจจะเคยเป็น Gyaru มาก่อน หรือสนใจ Gyrau แต่ไม่มากมายขนาดนั้น มักจะเป็นสาวเปรี้ยวที่ติดสไตล์ Gyaru แต่พอดี มีความเป็นผู้ใหญ่ คือมักจะย้อมผมสีน้ำตาลอ่อน แต่งหน้าแบบสวยคม ใช้กระเป๋าแบรนด์ และชอบเครื่องประดับเพชรที่ส่องประกายวิบวับ เล็บก็จะเพนท์สวยเนี๊ยบตลอดเวลา นิตยสารที่สาวๆ เหล่านี้มักจะติดตามก็คือ ViVi และ SCawaii!

สาวสไตล์ Kirei คือสาวสวยแบบสวยเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่เสื้อผ้า การแต่งหน้า การทำผมทำเล็บ ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยจะเป็นสาวเนี๊ยบสวย และอินเทรนด์ตลอดเวลา ดูมีระดับแต่ก็ไม่เว่อร์เกิน เป็นสไตล์สาวสวยแบบมาตรฐานสาวๆ ญี่ปุ่นในวัย 20-40 ส่วนใหญ่ให้ความสนใจและหนุ่มๆ ทั่วไปชอบ นิตยสารที่นำเสนอไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแบบนี้ ที่โดดเด่นที่สุดก็คือนิตยสาร Ray เรียกว่าไม่มีสาวสวยที่ไหนไม่เคยอ่านเลยล่ะ

สาวสไตล์ Hime-Gyrau เกิดขึ้นเพราะนิตยสาร Koakuma-Ageha เป็นคนนำเสนอขึ้นมา เป็นสไตล์สาวแบบ Gyaru ที่ติดเครื่องประดับดับระยิบระยับ มือถือติดเพชรอลังการ แต่งหน้าคมเข้ม แต่งเล็บจัดเต็มแบบ Gyaru แท้ๆ แต่จะตัวขาวผิดกับ Gyaru ทั่วไปที่ไปอบตัวให้ดำ เพราะว่าเป็น Hime (เจ้าหญิง) นั่นเองนอกจากนิตยสาร Koakuma-Ageha แล้วยังมีนิตยสาร Betty และ Hime-Style เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

Goth-Loli ย่อมาจาก Gothic and Lolita นั่นก็คือเป็นสาวที่ mix เสื้อผ้าที่มีความดาร์คเหมือนนางพญาแบบ Gothic เข้ากับความเป็นเด็กสาวหวานแบบ Lolita จึงออกมาเป็นแฟชั่นที่ไม่เหมือนใครที่ไหน โดยหลักๆ ก็คือจะใส่เสื้อผ้าที่ติดริบบิ้นและลูกไม้ โดยจะเน้นสีดำ แต่แต่งด้วยสีม่วงและเขียวแซมเป็นหลัก บางทีก็จะมีลายพิมพ์ที่เสื้อผ้าเป็นลวดลายแบบวินเทจของยุโรป โดยคำว่า Goth-Loli คำนี้นำเสนอโดยนิตยสาร KERA! ในปี 2000 และถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

น่าแปลกที่สาวสรีทสไตล์ที่ไหนในโลกก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน คือเป็นสาวๆ ที่ไม่จำกัดสไตล์ของตัวเอง แต่ถนัดนำเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์มา mix and match กัน ไม่ว่าจะเป็นการ match รองเท้าผ้าใบเข้ากับของแบรนด์เนม หรือ match เสื้อยืดมือสองเข้ากับเสื้อผ้าที่กำลังเป็นเทรนด์ ฉะนั้นสาวๆ สไตล์นี้จะรู้จักดีว่าอะไรกำลังมาและอะไรกำลังจะไป เรียกว่ามีความสนุกในการแต่งตัว ซึ่งที่ขาดไม่ได้คือนิตยสารที่ให้ข้อมูลเหล่านี้อย่าง Zipper, CUTie, SEDA เป็นต้น

เคยเห็นสาวๆ ที่ใส่กางเกงหลวมๆ ทำผมหยิกลอนเล็กละเอียดหรือ dreadlock ไปจนถึง Afro และใส่เครื่องประดับเงินทองใหญ่ๆ บ้างไหม สาวๆ แบบนั้นเรียกว่าเป็นสาวสไตล์ B-Girl คือเป็นสาวๆ ที่สนใจดนตรีของคนผิวสี ไม่ว่าจะเป็น R&B หรือ Hip-Hop ต่างๆ ฉะนั้นสาวๆ สไตล์นี้บ้างก็จะทำผิวให้เข้ม แต่สไตล์เสื้อผ้าก็จะต่างกับสาว Gyrau อย่างเห็นได้ชัด และส่วนใหญ่สาวๆ เหล่านี้ก็มักจะมีงานอดิเรกเท่ๆ อย่างเล่นดนตรี หรือเล่น surf เรียกว่าไม่ได้เป็นแค่แฟชั่นแต่ครอบคลุมไปจนถึงไลฟ์สไตล์เลยทีเดียว นิตยสารที่สาวๆ เหล่านี้ติดตามก็มี Luire, Woofin' Girl เป็นต้น

Mori แปลว่าป่า ฉะนั้นสาวๆ สไตล์ Mori Girl ก็คือสาวๆ ที่เหมือนเป็นสาวที่อยู่อาศัยในป่าห่างไกลเมืองหลวง มักจะใส่เสื้อผ้าหลวมๆ หลายๆ ชั้น ใส่ชุดวินพีซหลวมๆ มีลูกไม้ได้แต่ต้องเป็นลูกไม้แบบเรียบๆ สีขาว และเสื้อผ้าก็จะเน้นโทนสีธรรมชาติอย่างสีขาว สีเบจ สีน้ำตาล และแต่งหน้าแบบเหมือนกับไม่แต่ง (ซึ่งอย่างที่รู้ว่าเป็นเทคนิคชั้นสูงเลยทีเดียว) นิตยสารที่นำเสนอแฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบบสาว Mori Girl ก็คือนิตยสาร Mori-Garu และนิตยสาร Spring