Gothic and lolita เป็นหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่ชาว Lolita โดยมีการจับของที่มีความเป็น Gothic Fashion เข้ามาผสม โดยจะยังคงความฟูฟ่องและลูกไม้เอาไว้ แต่จะเน้นการใช้สีหลักคือสีเข้มๆ อย่างสีดำ ประดับด้วยไม้กางเขนหรือไม่ก็ค้างคาว หัวกระโหลกต่างๆ แต่ก็ยังแอบใส่ลูกเล่นน่ารักๆ อย่างเชอร์รี่หรือสตรอเบอร์รี่ให้ยังคงดูเป็น Lolita และไม่ดู Gothic เกินไปนัก

Sweet Lolita หรือ Ama-loli ในภาษาญี่ปุ่น เป็น Lolita แบบพื้นฐานและเป็นที่นิยมที่สุด คือเต็มไปด้วยความหวานอย่างลูกไม้สีขาว กระโปรงสุ่มฟูฟ่อง ซึ่งในหมวด Sweet Lolita ก็ยังสามารถแยกย่อยตามสีของเสื้อผ้าออกได้อีกเป็น White Sweet, Pink Sweet หรือแม้แต่ Black Sweet ข้อจำกัดเดียวของ Sweet Lolita คือต้องน่ารักและหวานนำ

Classical Lolita จะดูเป็นสไตล์วินเทจและมีความเป็นยุโรปแท้ๆ มากกว่าอันอื่น โดยจะเน้นการใช้สีที่เป็น earth tone อย่างสีเบจ สีน้ำตาล และเสื้อผ้าจะดูเรียบง่าย มีระบายและลูกไม้น้อยกว่า Lolita อื่นๆ และกระโปรงมักจะยาวคลุมเข่า อาจจะฟังดูขัดๆ แต่สามารถเรียกว่าเป็น Lolita ที่สง่าและดูเป็นผู้ใหญ่กว่า lolita อื่นๆ

Wa Lolita คำว่า wa ในที่นี้หมายถึงความเป็นญี่ปุ่น Wa Lolita จึงหมายถึง Lolita ที่ผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการนำผ้ากิโมโนมาตัดเป็นกระโปรงสุ่ม การนำลายของกิโมโนมาประยุกต์ การใช้ผ้าคาดเอวหรือโอบิ หรือการตัดผมหน้าม้าตรงเป๊ะแบบสาวญี่ปุ่นโบราณ เรียกว่าเป็น lolita สายพันธุ์ใหม่ที่ครีเอทมากๆ เลยทีเดียว

Guro Lolita เป็น Lolita ที่จะแต่งหน้าแต่งตัวเหมือนคนเจ็บหรือซอมบี้ มีการใช้สติกเกอร์รอยสัก หรือสติกเกอร์ที่เป็นรอยเย็บต่างๆ มาประดับตามตัว มีการใช้ผ้าปิดตาเหมือนคนตาเจ็บ หรือพันข้อมือเหมือนคนแขนหัก เป็น Lolita ที่เหมือนจะดูโหดแต่ก็แฝงความอ่อนแอและมีความน่ารักเป็นจุดสำคัญ แต่ยังไงก็ห้ามโหดเกินเพราะยังไงเสีย Lolita ต้องยืนบนพื้นฐานของความน่ารักนั่นเอง

Fairy Lolita เป็นการผสมผสาน สไตล์ Fairy เข้ากับ Lolita สไตล์ fairy คือสไตล์ที่เน้นเสื้อผ้าและหน้าผมด้วยสีพาสเทล อย่างเขียวมินท์อ่อนๆ ชมพูอ่อนๆ หรือฟ้าอ่อนๆ ดูเหมือนนางฟ้าหรือภูตป่า เมื่อนำมาผสมกับความเป็น Lolita คือกระโปรงบานฟูฟ่องและเครื่องประดับพลาสติดสีลูกกวาดแล้วจึงออกมาเป็น Lolita ที่หวานแหววเพิ่มความน่ารักขึ้นอีกทวีคูณ