คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นจุดท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่ในหุบเขาของเจแปนแอลป์ ทิวทัศน์สวยราวกับไม่มีอยู่จริง ซึ่งสามารถแวะผ่านเป็นจุดเที่ยวในทริปแล้วยังสามารถพักค้างคืนบริเวณนี้ได้อีกด้วย เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายขับรถเที่ยวมากกว่า หากมาด้วยตนเองด้วยรถสาธารณะแนะนำให้จองรถบัสไว้ล่วงหน้าเสียก่อน โดยที่พักจุดนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบเรียวกังและรีสอร์ทไม้กลางป่าให้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างดี ต้องรีบจองเช่นกันเนื่องจากที่พักเต็มไว หรือหากจะนอนกางเต็นท์แคมป์ปิ้งที่คามิโคจิก็มีให้บริการนะ

ช่วงเวลาที่มาที่คามิโคจิสวยที่สุดคือช่วงฤดูร้อน เพราะจะเห็นน้ำลำธารใส ป่าเขียว อากาศดีเย็นสบายเหมาะแวะมาพักผ่อน สามารถเดินเล่นต่อไปสะพานกัปปะ สะพานเชือกแขวนกลางป่า แล้วหากมาช่วงต้นฤดูร้อนก็จะพบกับวิวหิมะปกคลุมบาง ๆ บนภูเขาสวยงามอย่างมาก ข้อดีของที่นี่คืออยู่ท่ามกลางธรรมชาติในหุบเขาแล้วยังอยู่ใกล้เส้นทางเดินป่าหรือปีนเขาอีกด้วย

ระยะเวลา：กลางเดือนเมษายน - กลางเดือนพฤษจิกายนของทุกปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Nagano มาลงที่สถานี Shin-Shimashima จากนั้นขึ้นรถ Alpico Bus สาย Shin-Shimashima - Kamikochi มาลงที่ป้าย Kamikochi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาทีถึงที่หมาย

ฮาคุบะ (Hakuba) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในจังหวัดนากาโนะ รายล้อมด้วยวิวธรรมชาติกลางป่าเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่สวยงามราวภาพวาดตลอดปี ยิ่งในช่วงฤดูร้อนบรรยากาศที่นี่สดใสและน่าพักผ่อนมาก มีอากาศเย็นสบายท่ามกลางหุบเขา น้ำใส และเทือกเขาสีเขียวที่แอบมีหิมะสีขาวอ่อนปกคลุมบนยอดเขา ตรงข้ามกับช่วงฤดูหนาวที่พื้นที่ตรงนี้ปกคลุมไปด้วยปุยหิมะหนาหนาวเย็นกลายเป็นลานสกีชั้นนำ สมกับที่เคยจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1998

ข้อดีของที่นี่คือ สามารถเดินทางต่อไปจุดอื่นในเจแปนแอลป์ได้สะดวกและที่พักมีให้เลือกหลายหลาย มักเป็นโรงแรมสีเอิร์ทโทนหรือกระท่อมไม้กลางป่ากลมกลืนกับธรรมชาติ

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：จากสถานี Nagano ให้เดินมาขึ้นรถ Alpico Bus บริเวณป้ายรถบัส Nagano Station สาย Nagano - Hakuba Mura มาลงที่สถานี Hakuba ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีถึงที่หมาย

โนซาวะ (Nozawa) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เป็นดินแดนแห่งออนเซ็นและโรงอาบน้ำญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในจังหวัดนากาโนะ เป็นย่านตากอากาศพักผ่อนให้แก่ชนชั้นสูงญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยก่อน ซึ่งยังคงรักษาแบบอาคารดั้งเดิมในหมู่บ้านไว้แต่มีความผสมผสานลักษณะหมู่บ้านแบบปัจจุบันไว้ด้วย

ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านอบอุ่นและน่ารักมาก หากมาในช่วงฤดูหนาวจะพร้อมด้วยวิวสวยจากหิมะปกคลุมโดยรอบ วิวภูเขาสูง พื้นที่สกีรีสอร์ทยอดนิยมในญี่ปุ่น และจุดแช่ออนเซ็นให้อุ่นทั้งกายใจ แต่ถ้าแวะมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อนจะพบกับบรรยากาศอันสดชื่นปลางป่า พร้อมกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ เล่นเซิร์ฟบอร์ด ปั่นจักรยานเสือภูเขา เดินเทรล เป็นต้น

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Nagano มาลงที่สถานี Liyama จากนั้นให้ขึ้นรถบัสจากป้ายนี้ สาย No.9 Nozawa มาลงที่ป้าย Nozawa Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงที่หมาย

อิโตอิงาวะ (Itoigawa) เป็นเมืองสีเขียวแสนสงบที่มีวิวทั้งจากฝั่งทะเลญี่ปุ่นบรรจบกับวิวภูเขาและเทือกเขาเจแปนแอลป์อีกฝั่ง อยู่ในความดูแลเป็นมรดกโลก Unesco Global Geopark เมื่อปี 2009 ซึ่งเหมาะแก่การแวะมาพักผ่อนหลังทริปเจแปนแอลป์ แล้วแวะชิลกับวิวสีฟ้าจากน้ำทะเลและทะเลสาบญี่ปุ่น หากมองหาที่เที่ยวโดยรอบจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ สวนญี่ปุ่น และแหล่งผลิตและอนุรักษ์แร่หินหยก เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งผลิตแร่หินหยกเก่าแก่ที่สุดในโลก

ข้อดีของที่นี่คือ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะมาพักผ่อนและเป็นเมืองที่เดินทางสะดวก สามารถกลับไปโตเกียวได้ภายใน 2 ชั่วโมงด้วยโฮคุริคุชินคันเซ็น

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Niigata มาลงที่สถานี Naoetsu จากนั้นขึ้นรถไฟของ Echigo Tokimeki สาย Nihonkai-Hisui มาลงสถานี Itoigawa Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาทีถึงที่หมาย

เกโระออนเซ็น (Gero Onsen) เป็นเมืองและหมู่บ้านน้ำพุร้อนเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้กับเจแปนแอลป์ คุณภาพน้ำพุร้อนของที่นี่ดีต่อผิวพรรณอย่างมาก ระดับความร้อน 84°C ทำให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่มราวใยไหม เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เหมาะทั้งไปเช้าเย็นกลับและพักค้างคืน

เหมาะสำหรับใครที่ต้องการแวะมาพักผ่อนซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นทั้งแช่ออนเซ็น แวะศาลเจ้า เที่ยวหมู่บ้านไร่ญี่ปุ่นสไตล์กัสโช่คล้ายที่หมู่บ้านชิราคาวะโกะ แต่ยังอยากแวะไปที่เจแปนแอลป์แบบง่าย ๆ ยังอยู่ในเส้นทาง JR Alpine - Takayama - Matsumoto Area Tourist Pass เดินทางสะดวกทั้งสำหรับผู้ที่โดยสารรถไฟและผู้ที่เช่ารถขับเลย

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Gifu มาลงที่สถานี Gero ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีถึงที่หมาย

ฮิดะ ฟุรุคาวะ (Hida Furukawa) เป็นเมืองเก่าในจังหวัดกิฟุ โดยเรียกรวมชื่อย่านฮิดะและฟุรุคาวะ เป็นเมืองน่าอยู่ในอุดมคติจนเป็นแรงบันดาลใจในภาพยนตร์และแอนิเมชั่นญี่ปุ่นอย่าง Your Name (君の名は)

บรรยากาศเมืองน่ารักมีลำธารเล็กตัดกลางหมู่บ้านที่มีกำแพงหินล้อมรอบ มีอาหารอร่อยหลากหลาย วัดและศาลเจ้าก็น่าเที่ยว ที่พักไม่แพง แล้วยังเดินทางสะดวกอีกด้วย เหมาะกับการแวะมาพักก่อนหรือหลังเที่ยวทริปเจแปนแอลป์ สวมกิโมโนเดินชมเมือง หรือปั่นจักรยานทั่วบริเวณนี้ ซึ่งช่วงที่แนะนำให้แวะมาที่นี่คือช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Gifu มาลงที่สถานี Hida Furukawa ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาทีถึงที่หมาย

ชิราคาวะโกะ (Shirakawago) ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านยอดนิยมของชาวไทย ลักษณะของบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ล้วนสร้างสไตล์กัสโช่ (Gassho) หรือบ้านไร่ญี่ปุ่นมุงจากจั่วสามเหลี่ยมยักษ์ บรรยากาศโดยรอบกลับมีเสน่ห์แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลด้วย

หากแวะมาช่วงฤดูร้อนก็จะพบกับหมู่บ้านบ้านไร่ใบจากกลางป่าเขาสีเขียวชอุ่มทุ่งหญ้าล้อมรอบ แต่ถ้าหากมาพักในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นหมู่บ้านกลางปุยหิมะชวนฝันเลยทีเดียว ซึ่งหากต้องการแวะมาพักที่นี่ควรจองล่วงหน้ามาก่อนเพราะที่พักเต็มไวมากเช่นกัน ข้อดีของที่นี่คือ สามารถไปชมวิวเจแปนแอลป์ภายใน 2 ชั่วโมงจากฝั่งจังหวัดโทยามะ

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：จากสถานี Toyama ให้เดินมาขึ้นรถบัสที่ป้าย Toyama Eki mae มาลงที่ป้าย Shirakawago Bus Terminal จากนั้นเดินต่ออีกราว 5 นาทีถึงที่หมาย ใช้เวลารวม 1 ชั่วโมง 35 นาทีโดยประมาณ

ฮิดะทาคายาม่า (Hida Takayama) เป็นเมืองโบราณยุคก่อนซามุไร ย่านท่องเที่ยวจากส่วนหนึ่งของเมืองทาคายาม่า ซึ่งบรรยากาศในเมืองยังคงอนุรักษ์ไว้ให้มีความเป็นญี่ปุ่น บ้านเรือนแบบซามุไรทำจากไม้ ล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวและภูเขาสูงชัน หากแวะมาในช่วงฤดูร้อนจะได้บรรยากาศแบบเดียวกับในสมัยก่อนเลย เหมาะกับใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นรอบเมืองมาก ๆ

ทั้งนี้ต้องกล่าวว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ หากมีโอกาสได้แวะมาพักค้างคืนแนะนำให้แวะชมความสงบของเมืองในช่วงเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้นไม่นานจะได้มุมมองที่แตกต่างออกไป ข้อดีของฮิดะทาคายาม่าอีกอย่างคือ เป็นเมืองที่สามารถเดินทางข้ามไปจังหวัดอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก

ระยะเวลา：ตลอดปี

การเดินทาง：นั่งรถไฟจากสถานี Gifu มาลงที่สถานี Takayama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 55 นาทีถึงที่หมาย