5 จุดชมดอกอะจิไซหรือไฮเดรนเยีย เดินทางง่าย ใกล้โตเกียว
ญี่ปุ่นมีดอกไม้ให้ชมนานาชนิดแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลของปี สำหรับฤดูฝนนี้ก็มาถึงคิวของดอกอะจิไซ (Ajisai) หรือดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) เป็นดอกไม้ประจำฤดูฝนของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ดอกมีหลายสีทั้งม่วง แดง ชมพู น้ำเงิน ฟ้าอมม่วง ขาว โดยเปลี่ยนสีไปตามสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดิน บานช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
เรื่องราวของดอกอะจิไซ สัญลักษณ์แห่งฤดูฝน
ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงช่วงต้นเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงของการเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูใบไม้ผลิไปสู่ฤดูร้อน ซึ่งช่วงนั้นเองจะมีสายฝนโปรยปราย และเป็นช่วงที่ดอกอะจิไซ (Ajisai) ซึ่งเปรียบได้เหมือนเป็นนางฟ้าแห่งฤดูร้อนและฤดูฝนของคนญี่ปุ่นกำลังเริ่มเบ่งบาน และสวยงามไม่แพ้กับดอกไม้อื่นๆ เลย วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมดอกอะจิไซสวยๆ กัน 5 จุดที่สามารถเดินทางได้ง่าย ไปเช้าเย็นกลับได้ใน 1 วันจากโตเกียว
1. อะจิไซ โนะ ซาโตะ (Ajisai no Sato) เมืองไคเซ จังหวัดคานางาวะ (Kaisei, Kanagawa)
สำหรับที่แรกจะพาไปที่จุดชมดอกอะจิไซในจังหวัดคานางาวะ มีชื่อว่าอะจิไซโนะซาโตะ (Ajisai no Sato) เป็นจุดชมวิวดอกอะจิไซบนผืนนากว้างใหญ่ที่ทอดยาวกว่า 10 กิโลเมตร เราจะได้ชมดอกอะจิไซที่มีมากกว่า 5,000 ต้น ช่วงที่ดอกอะจิไซบานก็จะมีคนท้องถิ่นมาเดินชมกันอย่างครึกครื้น
นอกจากเดินชมตามอัธยาศัยแล้วก็มีการจัดงานเทศการอะจิไซ (Ajisai Festival) เมืองไคเซอย่างสนุกสนานด้วย โดยในปี 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 18 มิถุนายน ในงานมีการแสดงต่างๆ มากมายทั้งการแสดงดนตรี เต้นรำ และยังมีการออกร้านขายอาหาร เครื่องดื่มกันอย่างคึกคัก
ช่วงเวลาชมดอกอะจิไซ:
ประมาณต้นถึงกลางเดือนมิถุนายน
เวลาทำการ:
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม:
ฟรี
การเดินทาง:
ขึ้นรถไฟสาย Okakyu Odawara ไปลงสถานี Shin-Matsuda แล้วนั่งรถบัส Hakone Tozan Bus สายที่มุ่งหน้าไปยัง Sekimoto ประมาณ 7 นาที ลงป้าย Yoshida Jinja Iriguchi
2. วัดเมเก็ตสึอิน (Meigetsu-in) เมืองคามาคุระ จังหวัดคานางาวะ (Kamakura, Kanagawa)
วัดเมเก็ตสึอิน (Meigetsu-in) ที่เมืองคามาคุระนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในฉายา "วัดแห่งดอกอะจิไซ" เป็นวัดเก่าแก่ของนิกายรินไซ สร้างโดยอุเอสึงิ โนริกาตะ (Uesugi Norikata) แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1383 ส่วนดอกอะจิไซนั้นนำมาปลูกช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเริ่มเป็นที่รู้จักจนปัจจุบัน ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างคือหน้าต่างกลมของโบสถ์หลักโฮโจ (Hojo Hall) ที่มองออกไปเห็นทัศนียภาพสวนสวยได้ทั้ง 4 ฤดู
วัดอะจิไซแห่งคามาคุระนี้ปลูกต้นอะจิไซไว้ 2,500 ต้น สายพันธุ์ที่มีมากสุดคือฮิเมะ อะจิไซ (Hime-ajisai) สีดอกเป็นสีฟ้าอ่อน อีกสายพันธุ์เฉพาะที่ปลูกไว้และมีชื่อเรียกตามวัดแห่งนี้ชื่อว่าเมเกตสึอิน บลู (Meigetsu-in Blue) และยังมีอะจิไซสีชมพู สีม่วงที่ออกดอกสวยงามสะพรั่งเต็มไปหมดเมื่อฤดูฝนมาเยือน
ช่วงเวลาชมดอกอะจิไซ:
ประมาณต้นถึงปลายเดือนมิถุนายน
เวลาทำการ:
09.00 - 16.00 น.
เดือนมิถุนายน 08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม:
300 เยน
สำหรับการดูดอกอะจิไซในเดือนมิถุนายน 500 เยน
การเดินทาง:
ขึ้นรถไฟสาย JR Yokosuka ลงสถานี Kita-Kamakura แล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาที
3. สวนสาธารณะเท็นโจยามะ (Tenjoyama Park) เมืองฟุจิคาวะกุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ(Fujikawaguchiko, Yamanashi)
ที่สวนสาธารณะเท็นโจยามะ (Tenjoyama Park) มีเส้นทางปีนเขาของภูเขาเท็นโจ (Mt.Tenjo) ซึ่งจะมีจุดชมดอกอะจิไซกว่า 100,000 ต้น โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นภาพแบ็คกราวด์ข้างหลัง โดยเริ่มแรกต้องนั่งโรปเวย์คาจิคาจิ (Kachikachi Ropeway) จากสถานีทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko Station) ขึ้นไปลงสถานีฟูจิมิได (Fujimidai Station)
เส้นทางปีนเขาเท็นโจเรียกว่าเส้นทางดอกอะจิไซ มีพุ่มดอกอะจิไซให้เดินชมอย่างเต็มอิ่ม ระหว่างโซนพุ่มดอกอะจิไซจะมีลานชมวิวนากาบะ (Nakaba Square) ซึ่งเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ มีศาลานั่งพักกับม้านั่งไว้ให้ สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมกับความงามของดอกอะจิไซ เช็คอินถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
ช่วงเวลาชมดอกอะจิไซ:
ประมาณกลางถึงปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ:
วันธรรมดา 09.30 - 16.00 น.
วันเสาร์/อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 09.30 - 17.00 น.
ค่าใช้บริการ:
ไปกลับ: ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็ก 450 เยน/ เที่ยวเดียว: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 250 เยน
สำหรับการดูดอกอะจิไซในเดือนมิถุนายน 500 เยน
การเดินทาง:
ขึ้นรถไฟสาย Fujikyuko Kawaguchiko ไปลงสถานี Kawaguchiko แล้วต่อรถบัส Fujikyu Yamanashi ที่มุ่งสู่ Petit Pension-mura/สถานีKofu ไปประมาณ 5 นาที ลงที่ป้าย Ropeway Iriguchi
4.มาเมมบาระ โคเก็น (Mamenbara Kogen) เมืองโอตากิ จังหวัดจิบะ (Otaki, Chiba)
มาเมมบาระ โคเก็น (Mamenbara Kogen) เป็นที่ราบสูงเหนือระดับน้ำทะเล 340 เมตร ตั้งอยู่ในวนอุทยานแห่งชาติมินามิโบโซ (Minamiboso Quasi-National Park) เหนือสุดของมาเมมบาระ โคเก็นเป็นที่ตั้งของวัดเมียวโฮโชจิ (Myohoshoji Temple) ซึ่งมีฉายาว่าวัดแห่งดอกอะจิไซ เหล่าพระสงฆ์ของที่นั่นเริ่มปลูกดอกอะจิไซมาตั้งแต่ปีค.ศ.1951
ดอกอะจิไซมากกว่า 20,000 ต้นบานงดงามไปทั่วตามทางเดินสองข้างทาง เมื่อสุดทางเดินก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยอลังการของดอกอะจิไซในสวนวัดเมียวโฮโชจิซึ่งบานสะพรั่งตามลาดเขาเป็นผืนกว้าง โดยมีองค์เจ้าแม่กวนอิมตั้งประดับสวยงามอยู่เบื้องหลัง ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ทัศนียภาพของเสียงของญี่ปุ่นอีกด้วย
ช่วงเวลาชมดอกอะจิไซ:
ประมาณต้นเดือนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ:
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม:
ฟรี
การเดินทาง:
ขึ้นรถไฟสาย JR Sotobo ไปลงสถานี Awakominato แล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปอีกประมาณ 20 นาที
5. สวนอะจิไซ โตเกียวซัมเมอร์แลนด์ (Tokyo Summerland) เมืองอากิรุโนะ จังหวัดโตเกียว (Akiruno, Tokyo)
ในโตเกียวก็มีสวนดอกอะจิไซสวยๆ ให้ได้ชมไม่แพ้กัน อยู่ที่โซนวันเดอร์ฟูล เนเจอร์ วิลเลจ (Wonderful Nature Village) ของโตเกียวซัมเมอร์แลนด์ โซนนี้ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขามากมาย จุดชมวิวสูงสุด สามารถมองทิวทัศน์ได้แบบพาโนรามาอยู่ที่ความสูง 220 เมตร โซนนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าด็อกแลนด์ พา์ค (Dog Land Park) เป็นโซนสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ
จากปากทางเข้าจะเป็นเส้นทางเดินเหมือนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีดอกอะจิไซสีขาวและสีชมพูให้ได้ชมทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้ยังมีอะจิไซมากมายกว่า 60 ชนิด จุดไฮไลท์ของที่นี่คือภูเขาหิมะแห่งแอนนาเบล เนื่องจากเต็มไปด้วยดอกอะจิไซพันธุ์สีขาว หรือที่เรียกว่าแอนนาเบล (Annabelle) จำนวนมากถึง 15,000 ต้น
ช่วงเวลาชมดอกอะจิไซ:
ประมาณปลายเดือนมิถุนายน
เวลาทำการ:
วันธรรมดา 10.00 - 17.00 น.
วันเสาร์/อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 9.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 850 เยน
เด็กต่ำกว่าชั้นประถม ฟรี
การเดินทาง:
ขุ้นรถไฟสาย JR Chuo ไปลงสถานี Hachioji จากนั้นต่อรถบัส Nishi-Tokyo Bus ที่มุ่งหน้าไป Summerland ไปประมาณ 30 นาที ลงป้ายสุดท้าย (ชมสวนอะจิไซให้ใช้ทางเข้า Wonderful Nature Village)
บทส่งท้าย
แม้ว่าช่วงชมดอกซากุระจะจบลงไปแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นเองก็ยังมีดอกไม้มากมายหลากสายพันธุ์ที่งดงามไม่แพ้กับดอกซากุระ ดังเช่นดอกอะจิไซที่ว่านี้ สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตามเว็บไซต์ All About Japan รับชมข้อมูลและข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นกันนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความถัดไปค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับอะจิไซ:
ชมเสน่ห์ไฮเดรนเยียสวย ท่ามกลางฤดูฝนที่ Hondoji Temple