ก่อนอื่นเลย เราจะขออธิบายเพื่อนๆ ก่อนว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการแบ่งประเภทห้องเป็น 1R (1Room), 1K (1Kitchen), 1DK (1Dining＋1Kitchen), 1LDK (1Living Room＋Dining＋1Kitchen) และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเรียงลำดับจากความกว้างของห้อง ซึ่งประเภทห้องที่เล็กที่สุดก็คือ 1R (1Room) ค่ะ

1R (1Room) คือห้องเดี่ยวที่มีทั้งห้องนอนและส่วนครัวเล็กๆ รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันหมด (บางที่อาจไม่มีครัวให้ด้วย) ราคาจะถูกกว่า 1K (1Kitchen) ที่มีโซนขั้นกลางระหว่างห้องนอนและส่วนครัวเล็กน้อย โดยห้อง 2 ประเภทนี้มักได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนมหาวิทยาลัย หรือวัยทำงานที่ยังใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เนื่องจากมีราคาถูกกว่าประเภทอื่นๆ

และด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นมีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะใครที่อาศัยในเมืองใหญ่อาจจะต้องอาศัยอยู่ในห้องแคบๆ (ห้องประเภท 1R และ 1Kเฉลี่ยแล้วประมาณ 20 ตร.ม.) แต่ทุกอย่างจัดเป็นสัดส่วน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องน้ำและโซนครัวเล็กๆ

เอาล่ะ เมื่อทุกคนเข้าใจลักษณะของห้องในญี่ปุ่นคร่าวๆ แล้วเราไปดูกันดีกว่าว่าราคาห้องที่ว่าของแต่ละจังหวัดอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่กันบ้าง

อันดับหนึ่งทุกคนคงจะเดากันได้ไม่ยาก เมืองหลวงที่มีค่าครองชีพติดอันดับแพงที่สุดในโลก ขนาดลักษณะห้องเล็กๆ อย่าง 1Room ยังมีค่าเช่าประมาณ 69,202 เยน (ประมาณ 18,000 บาท) เลยทีเดียว และนี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ยของจังหวัดโตเกียว ยิ่งอยู่ในตัวเมืองอย่างชิบุย่า (Shibuya) ,ชินจูกุ (Shinjuku) ,กินซ่า (Ginza) ,รปปงงิ (Roppongi) ราคาพุ่งทะยานแน่นอนค่ะ

เนื่องจากโตเกียวเป็นศูนย์กลางความเจริญและเมืองหลวงอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่บางปีก็ติดอันดับโลกในเรื่องค่าครองชีพแพงให้คนที่อยากมาเรียนต่อว้าวุ่นใจเล่น ที่โตเกียวแพงนั้นก็เพราะว่าเป็นแหล่งรวมโอกาสทุกประเภทที่มีอยู่มากมาย ทั้งมหาลัยดีๆ งานที่เงินเดือนสูงๆ การเดินทางที่สะดวกสบาย ศูนย์รวมความบันเทิงทุกประเทศ และเป็นเหมือนประตูสู่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติมากมายทั้งนักท่องเที่ยวและคนที่อยากจะมาอยู่ยาวๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมค่าครองชีพโตเกียวจึงแพงที่สุด

แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะว่าหลายคนจึงเลือกที่จะยอมเช่าห้องอยู่นอกจังหวัดโตเกียว แล้วเดินทางมาทำงานในโตเกียวแทน เพราะขนส่งมวลชนสะดวกสบาย และบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็มีค่าเดินทางให้ด้วยค่ะ

จังหวัดที่ติดและอยู่ทางใต้โตเกียว หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าโยโกฮาม่า (Yokohama) อยู่ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) ทุกคนจะร้องอ๋อทันที ตัวเมืองน่าอยู่มาก มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างคามาคุระ (Kamakura), ภูเขาฟูจิ (Mount Fuji) และฮาโกเนะ (Haokone) จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ใหญ่มากๆ และยังมีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 57,749 เยน (ประมาณ 15,000 บาท)

คานากาว่าเป็นโตเกียวเวอร์ชั่นพื้นที่กว้างขวาง มีทุกอย่าง ไม่แออัดแบบโตเกียว สวนก็สวย (สามีแม่บ้านชอบขับรถพาลูกไปเล่นที่สวนคานากาว่า ดูดีกว่าโตเกียวเยอะ) มหาวิทยาลัยก็ดี บริษัททำงานก็ดี เดินทางมาโตเกียวก็สะดวก จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนถึงต้องมาแย่งกันอยู่ และดันให้ค่าเช่าบ้านแพงถึงขนาดนี้

จังหวัดใหญ่อันดับสองรองจากโตเกียว อยู่ในภูมิภาคคันไซ (Kansai) เป็นจังหวัดที่แม่บ้านคิดว่าน่าจะถูกกับจริตคนไทย คนโอซาก้าเป็นคนใจดี ชอบก็บอก ไม่ชอบก็พูดตรง ๆ พูดตามใจคิดสไตล์คนไทย แบบที่คนญี่ปุ่นชอบเรียกอำเภอศรีราชาว่าเป็นลิตเติ้ลโอซาก้า

เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามาก แถมเจริญสุด ๆ มีทุกอย่างเทียบเท่าโตเกียว (อาจจะมากกว่า) และค่าครองชีพถูกกว่าโตเกียวค่อนข้างมาก ทำให้โอซาก้าก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับคนไทยที่จะมาหางานทำหรือเรียนต่อ สำหรับค่าเช่าบ้านของที่นี่จะอยู่ที่ราคาประมาณ 54,836 เยน (ประมาณ 14,200 บาท) ยิ่งใจกลางเมือง และยิ่งเลือกห้องใหญ่ยิ่งแพงขึ้นไปอีก แต่ถือว่าราคาดีกว่าในโตเกียวมากเลยค่ะ

จังหวัดเกียวโตตั้งอยู่ภูมิภาคคันไซใกล้กับโอซาก้า ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีวัดที่เก่าแก่ทรงคุณค่า และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมากมาย มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพอยู่เต็มไปหมด และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติหลายคน

โดยเกียวโตนั้นเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยได้อย่างลงตัว เค้าว่ากันว่านิสัยของคนโตเกียวนั้นเป็นผู้ดีเก่า จึงมีความสง่างามและดูสำรวมกิริยาเป็นอย่างมาก สำหรับค่าเฉลี่ยของบ้านที่นี่อยู่ที่ 52,823 เยน (ประมาณ 13,700 บาท)

การได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยในเมืองเก่าก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ ส่วนตัวแม่บ้านชอบเมืองชนบทที่ใครๆ ก็รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างป่าไผ่ที่เมืองอาราชิยาม่า (Arashiyama) มาก แน่นอนว่าใครที่เคยได้มาสัมผัสที่เกียวโตก็ต้องหลงรักกันทั้งนั้น

เราคงจะติดอยู่กับภาพเมืองที่กลายเป็นซากจากระเบิดนิวเคลียร์ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ผู้อ่านรู้ไหมคะว่าฮิโรชิม่าตอนนี้เฟื่องฟูมาก เป็นเมืองที่น่าสนใจในด้านภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ มีทั้งเมืองและธรรมชาติที่รอเราไปสัมผัส ค่าเช่าของจังหวัดฮิโรชิม่าอยู่ที่ประมาณ 48,011 เยน (ประมาณ 12,400 บาท)

ความครึกครื้นของเมืองได้อารมณ์คล้าย ๆ โอซาก้าแต่จะโหวกเหวกน้อยกว่า เป็นเมืองที่หนาแน่นและค่อนข้างใหญ่ทำให้มีผู้อยู่อาศัยและทำงานอยู่ที่ฮิโรชิม่าเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเกาะมิยาจิม่า (Miyajima Island), โดมปรมาณู (Atomic Dome), พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) และอีกมากมาย

เราไปพูดถึงภูมิภาคคิวชู (Kyushu) กันบ้าง แม่บ้านยกให้ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นจังหวัดที่อาหารเด็ดดวงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คือถ้าแม่บ้านเลือกจังหวัดที่จะอยู่ได้ ก็อยากอยู่ที่นี่นะ อาหารอุดมสมบูรณ์มากกก ผู้คนก็ใจดี เป็นกันเอง อยู่แบบบ้านๆ แต่ขอโทษ ระบบคมนาคมการขนส่งนี่เลิศนะคะ อย่าดูเบาไป

ฟุกุโอกะเป็นจังหวัดที่แม่บ้านเชียร์อยากให้มาเที่ยว มาเรียน หรือมาทำงาน มีบ้านมีเพื่อนของเพื่อนที่อยู่ที่นี่ บอกตามตรง แม่บ้านโครตอิจฉาเลย เป็นเมืองที่คึกคัก อยู่กันแบบสบายๆ อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่จัง แถมค่าบ้านยังไม่แพงเท่าไหร่ด้วยอยู่ที่ 47,131 เยน (ประมาณ 12,200 บาท)

ดูอันดับต้นๆ ไปแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ หลายคนคงรู้สึกว่าแพงใช่ไหม ถึงจะแพงแต่ก็เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ เพราะที่เมืองเหล่านี้มีอะไรให้ทำมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงานที่มักจะต้องอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ เพราะถ้าไปอยู่ที่ถูกๆ แต่ถ้าไม่มีงานให้ทำก็ไม่มีประโยชน์ แถมงานที่จะใช้ความสามารถของคนต่างชาติแบบเราอย่างเต็มที่ เช่นภาษา มักจะอยู่ในเมืองใหญ่เสียด้วย

เราไปดูอันดับอื่นๆ กันต่อเลยดีกว่าค่ะ

โอกินาว่า (Okinawa) เป็นเกาะทางใต้ยอดฮิตของประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากที่อื่นๆ แต่ที่นี่ก็มีทะเลที่สวยงาม สายรักทะเล รักความชิลล์ รักธรรมชาติแนะนำให้มาลองใช้ชีวิตที่นี่ดูค่ะ ฟีลภูเก็ตในราคาที่สมเหตุสมผล แถมยังเป็นที่พักผ่อนตากอากาศติดอันดับโลก

โอกินาว่าค่อนข้างมีวัฒนธรรมที่ค่อยข้างแตกต่างกับชาวเกาะหลัก (Main Land) ดังนั้นการใช้ชีวิตในโอกินาว่าเหมือนอยู่อีกประเทศนึงเลยค่ะ งานและภาษาอาจจะแปลกและแตกต่าง และก็เป็นจังหวัดที่น่าสนใจมากค่ะ ค่าเช่าบ้านของที่นี่ราคาประมาณ 43,806 เยน (ประมาณ 11,400 บาท)

จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) อยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งปลูกผลไม้และผลิตสาเกชื่อดังของญี่ปุ่น โด่งดังเรื่องอุตสาหกรรมประมง ทำให้อาหารทะเลของที่นี่ถูกกระจายไปยังทั่วประเทศของญี่ปุ่น เป็นจังหวัดติดทะเลที่สวย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาหารก็สดและอร่อย

แม้จะเคยเกิดแผ่นดินไหว แต่จังหวัดฟุกุชิมะก็กลับมาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นจังหวัดที่ผู้สูงอายุค่อนข้างเยอะ แต่ต้องบอกเลยว่าคนฟุกุชิมะเป็นคนใจสู้ แข็งแกร่ง เป็นจังหวัดที่น่าไปอาศัยอยู่ด้วยค่าครองชีพที่อยู่ในระดับกลางประมาณ 43,769 เยน (ประมาณ 11,300 บาท) แต่ธรรมชาติและอาหารคือดีงามมากค่ะ

จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) นี่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณคนไทยก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว ฮอกไกโดเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น มีอากาศเย็นตลอดปี ขนาดหน้าร้อนอากาศก็กำลังดี ชิลล์ๆ แต่หน้าหนาวนี่คือหนังชีวิตเอาตัวรอดชัดๆ เป็นเมืองที่คนถ้าทนหนาวได้ หรือชอบกิจกรรมฤดูหนาวอยู่แล้วก็สนุกเลยค่ะ

ภูมิภาคฮอกไกโดนี่มีกิจกรรมมากมาย นอกเหนือจากการเรียนและทำงาน วันหยุดก็ไปเที่ยว ไปเล่นสกีหิมะ ดื่มเบียร์ กินเนื้อย่าง โดยเฉพาะเนื้อย่างเจงกิสข่านที่ไม่ควรพลาด เท่านั้นยังไม่พอยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย และไม่เหมือนกับภูมิภาคอื่นๆ ด้วย เช่น ล่องเรือตัดน้ำแข็งที่เมืองอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship) โอ้ย ชีวิตยังต้องการอะไรมากกว่านี้อีก

เรามาถึงอันดับสุดท้ายที่คาดว่าหลายๆ คนคงอยากรู้กันแล้ว จังหวัดที่ค่าเช่าห้องถูกที่สุดในญี่ปุ่น เป็นเมืองที่คุณสามารถขี่อูฐบนทะเลทรายได้ ใช่ค่ะ คุณฟังไม่ผิด จังหวัดทตโตริ (Tottori) คือดินแดนแห่งเนินทรายแห่งเดียวในญี่ปุ่นค่ะ และนี่คงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาห้องเช่าโดยเฉลี่ยถูกที่สุด! ราคาอยู่ที่ 38,796 เยน (ประมาณ 10,000 บาท)

ข่าวดีสำหรับคนที่อยากมาอยู่จังหวัดทตโตริ นั่นคือที่ทตโตรินั้นมีปูมัทสึบะ (Matsuba Crab) ชั้นดี และยังมีอาหารทะเลสดๆ ราคาราคาย่อมเยาว์ตลอดทั้งปี ท้องฟ้าในยามกลางคืนสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น

แม้จะมีข้อเสียเล็กน้อยเรื่องการเดินทางไปยังจังหวัดอื่นอาจจะค่อนข้างลำบาก เช่น หากเดินทางไปยังจังหวัดโอซาก้าหรือจังหวัดฮิโรชิม่า จะต้องนั่งชิงคันเซ็นไปเปลี่ยนสายที่จังหวัดโอคายาม่า (Okayama) แต่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ในเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีในค่าครองชีพที่ถูกที่สุดเลยค่ะ

อันดับที่ 1：โตเกียว (Tokyo) 69,202 เยน
อันดับที่ 2：คานากาว่า (Kanagawa) 57,749 เยน
อันดับที่ 3：โอซาก้า (Osaka) 54,836 เยน
อันดับที่ 6： เกียวโต (Kyoto) 52,823 เยน
อันดับที่ 11：ฮิโรชิม่า (Hiroshima) 48,011 เยน
อันดับที่ 14：ฟุกุโอกะ (Fukuoka) 47,131 เยน
อันดับที่ 23：โอกินาว่า (Okinawa) 43,806 เยน
อันดับที่ 24：ฟุกุชิมะ (Fukushima) 43,769 เยน
อันดับที่ 25：ฮอกไกโด (Hokkaido) 43,486 เยน
อันดับที่ 47：ทตโตริ (Tottori) 38,796 เยน

เป็นอย่างไรบ้างคะ เดากันถูกไหมเอ่ย ใครมีจังหวัดในใจที่อยากไปอาศัยอยู่ก็มาแชร์กันได้นะคะ ว่าอยากไปอยู่จังหวัดไหน ประทับใจอะไร หรือเหตุผลที่อยากจะไปอยู่จังหวัดนั้น เอาไว้เจอกันในบทความใหม่กับแม่บ้านเมกุโระค่ะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก：https://wagaya-japan.com/en/journal_detail.php?id=6428