เมื่อก้าวผ่านประตูมาแล้วนั้น เราก็จะพบกับเจดีย์ห้าชั้น (Five-Storied Pagoda) ตั้งตระหง่านรอต้อนรับทุกคนอยู่พร้อมกับต้นไฮเดรนเยียหลากหลายสีที่เรียงรายกันมากมายเต็มไปหมด!

จริงๆ การมาเที่ยวถ่ายรูปดอกไฮเดรนเยียถ้าจะให้สวย ก็ต้องมาในวันที่ฟ้าครึ้มหรือเป็นวันหลังจากฝนตก แต่พอเอาเข้าจริง วันนี้มาท่ามกลางฝนตกหนักกันไปเลยจ้าาา นอกจากป้ายจะหลอกแล้วยังโดนพยากรณ์หลอกอีก เปียกปอนกันไปทั้งตัวเลยทีเดียวแต่ก็สู้ค่าาา

ในบริเวณวัดมีทั้งหมด 9 โซนด้วยกัน เช่น Main Hall, สวนดอกไอริส, สะพานแดง, ศาลเจ้า Benten-do (มีรูปปั้นจิโซองค์เล็กๆ) ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ครบแล้วค่ะ แต่ถ้าสายถ่ายรูปล่ะก็ สองสามชั่วโมงก็อาจจะไม่พอนะเพราะมุมดอกไม้สวยๆ เต็มไปหมด

ระหว่างทางเดินจะมีต้นไฮเดรนเยียหลากหลายสายพันธุ์เบ่งบานโดยพร้อมเพรียงกัน และด้วยความที่ในวัดนี้มีต้นไฮเดรนเยียกว่า 50,000 ต้นรวมกันกว่า 10 สายพันธุ์เลยทำให้ผู้คนเลือกมุมถ่ายรูปได้แบบกระจายๆ กันไป ทำให้ในบริเวณวัดไม่แออัดมากเท่าไหร่ค่ะ

ดูสิ ดอกไม้สวยๆ ใครเห็นก็มีความสุข ถ่ายรูปก็สวยเนอะ

สีสันสวยหวาน โทนสีแตกต่างกันไปตามสภาพความเป็นกรด-ด่างของดินที่ปลูก นี่คือเสน่ห์ของไฮเดรนเยียเลยล่ะ

ตรงนี้เป็นส่วนของ Main Hall ให้ขึ้นไปทำบุญโยนเหรียญและไหว้พระขอพร
(วัดนี้ดังในเรื่องการขอให้คลอดบุตรง่ายและขอให้เด็กปลอดภัยค่ะ)