ท้องฟ้าจำลองโคนิก้า มินอลต้า โยโกฮาม่า (Konica Minolta Planetaria Yokohama) เป็นท้องฟ้าจำลองน้องใหม่ล่าสุดในเครือบริษัท Konica Minolta Planetarium ที่เปิดประสบการณ์ชมดวงดาวและจักรวาลด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเปิดทำการไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมานี้

หลายๆ คนอาจจะคุ้นชื่อ Konica Minolta กันมาบ้างแล้ว ก็เพราะว่ามีท้องฟ้าจำลองในเครืออยู่อีก 4 แห่งคือ
- Konica Minolta Planetaria Tokyo
- Konica Minolta Manten Ikebukuro
- Konica Minolta Tenkuu "Tokyo Sky Tree"
- Konica Minolta Manten Nagoya

และล่าสุดก็คือสาขาโยโกฮาม่า (Yokohama) นั่นเอง ซึ่งแต่ละแห่งก็มีการตกแต่งที่เป็นจุดเด่น และการแสดงที่สวยงามตระการตาแตกต่างกันไป และในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวของท้องฟ้าจำลองในโยโกฮาม่า ย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญของมหานครโตเกียว (Tokyo)

Konica Minolta Planetaria Yokohama ตั้งอยู่ในอาคาร Yokohama Gate Tower ที่มินาโตะมิไร (Minato Mirai) เป็นท้องฟ้าจำลองสายเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีคอนเซ็ปต์ว่าด้วย "ธรรมชาติและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่แทรกตัวอยู่ในเมืองใหญ่" และเป็น "พื้นที่พักเยียวยาจิตใจของผู้ใหญ่วัยทำงาน"

ที่นี่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยล่าสุด ฉีกรูปแบบของท้องฟ้าจำลองเดิมๆ ให้ท้องฟ้าจำลองเหล่านี้เป็นสถานที่ศึกษาความรู้เกี่ยวกับดวงดาว จักรวาล อวกาศ และได้รับความบันเทิงจากการแสดงโชว์ต่างๆ ที่อลังการน่าทึ่ง รับรองเลยว่าคุณจะต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงตลอดทั้งโชว์ไม่มีเบื่อ ที่นี่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนใจ รวมถึงยังสามารถรื่นรมย์ไปกับของกินและเครื่องดื่มในคาเฟ่ดีไซน์เก๋ที่หาไม่ได้จากที่ไหน

สำหรับจุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ Space Voyage ซึ่งเป็นการสัมผัสประสบการณ์เดินทางออกสู่อวกาศ จำลองให้เห็นไปภาพทิวทัศน์ที่เหมือนตัวเรากำลังทัวร์อวกาศ สามารถถ่ายรูปตัวเองที่มีฉากหลังเป็นดวงดาวมากมาย การท่องอวกาศนี้จัดแสดงใน Planetarium Dome Theatre ในโดมนี้จะใช้ระบบ DYNAVISION (R) -LED เป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น ทำให้ภาพฉากสีสันสวยงามและมีความละเอียดสมจริง

ภายในโดมนอกจากมีที่นั่งแบบธรรมดาแล้วก็ยังมี Planet Seats ระดับพรีเมียม 4 ที่นั่ง เมื่อเอนกายลงบนที่นั่งนี้ก็จะรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่ในอวกาศ สามารถรับประสบการณ์ในโลกของท้องฟ้าจำลองแบบใหม่ได้อย่างตื่นใจ และภายในห้องจะมีกลิ่นหอม “Tree of Life” ที่ให้ความรู้สึกสบายเป็นธรรมชาติ

สำหรับการแสดงของแต่ละรอบก็จะแตกต่างกันออกไป มีทั้งผสมผสานการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่นพร้อมกับเสียงพากย์อันทรงพลังจากนักพากย์มืออาชีพที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ของดวงดาว ชวนให้รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจ สำหรับใครที่กลัวฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง ที่นี่ยังมีให้บริการภาษาอังกฤษเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้าได้ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

หมายเหตุ : เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19 กรุณาตรวจสอบข้อมูลในหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ว่าการแสดงนั้นมีให้บริการภาษาอังกฤษหรือไม่

นอกการชมท้องฟ้าจำลองแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่ชื่อ "Cafe Planetaria" ที่มีคอนเซ็ปต์ "คาเฟ่ที่มาพบกันระหว่างที่กำลังเดินทางบนทางช้างเผือก" ก็เตรียมเมนูธีมดวงดาวและอวกาศสวยๆ ไว้รอต้อนรับ เช่น ค็อกเทลที่เปล่งประกายราวกับเนบิวล่า หรือเมนู Assorted planet Box ที่เป็นอาหารขนาดพอดีคำทำเหมือนดาวเคราะห์ต่างๆ เราสามารถนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานในโดมขณะเพลิดเพลินกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้ด้วย

และหากใครที่กำลังมองหาของที่ระลึกก็สามารถแวะไปโซนร้านค้า (Shop) ได้เช่นกัน ที่นี่มีสินค้าที่น่าสนใจมากมายที่ดีไซน์ด้วยแพ็คเกจดวงดาว ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์ครีม ผงกาแฟ อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำ อาทิ สบู่ ผงอาบน้ำ เป็นต้น เรียกได้ว่านอกจากจะซื้อไปฝากคนอื่นแล้ว ยังสามารถซื้อเก็บไว้ใช้เองได้เช่นเดียวกัน

หากใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นหรืออาศัยอยู่ในญี่ปุ่นแล้วอยากลองหาที่เที่ยวแนวใหม่ที่ไม่ซ้ำกับใคร เราขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองแห่งนี้เลย แล้วคุณจะได้ประสบการณ์และความทรงจำดีๆ จนมิอาจลืมเลือนกลับไปอย่างแน่นอน

เวลาทำการ :
วันธรรมดา - 10: 30 - 21: 00 (เวลาทำการของโซนคาเฟ่ - 10: 30 - 21: 00)
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - 10: 00 - 21: 40 (เวลาทำการของโซนคาเฟ่ - 10: 00 - 21: 00)

ภาษาที่ให้บริการ : ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://planetarium.konicaminolta.jp/planetariayokohama/ (ภาษาญี่ปุ่น)

การเดินทาง :
ตั้งต้นจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ขึ้นรถไฟ JR สาย Tokaido Main Line/รถไฟ JR สาย Yokosuka Line /รถไฟ JR สาย Keihintohoku Line-Negishi Line ไปลงสถานีโยโกฮาม่า (Yokohama Station) แล้วต่อสายมินาโตะมิไร (Minatomirai Line) ไปลงสถานีชินทากาชิมะ (Shin-Takashima Station) จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 1 นาที

ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย