All About Japan

เมืองท่าทั้ง 5 ของญี่ปุ่นที่ไม่ไปเยือนไม่ได้!

ท่าเรือ
เมืองท่าทั้ง 5 ของญี่ปุ่นที่ไม่ไปเยือนไม่ได้!

เมืองท่าของญี่ปุ่นนั้นความจริงแล้วมีอยู่ด้วยกันถึง 17 แห่ง ในครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักเมืองท่าสำคัญๆ 5 เมือง ซึ่งแต่ละจุดนั้นล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่งดงามราวกับหลุดไปอยู่ในยุโรป เนื่องจากมีการผสมผสานกันระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก โดยเราได้คัดสรรเมืองท่าชื่อดังจากทั่วประเทศ รับประกันความสวย บรรยากาศดี ควรค่าแก่การไปเที่ยวอย่างแน่นอน

เมืองท่าคืออะไร

ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ มีทะเลโอบล้อมรอบด้าน การจะติดต่อทำการค้ากับต่างประเทศในสมัยก่อนจึงต้องอาศัยท่าเรือที่เป็นจุดขนถ่ายสินค้าต่างๆ ดังนั้นจังหวัดที่มีเมืองตั้งอยู่ริมทะเลที่มีท่าเรือจึงถูกเปิดเป็นเมืองท่าเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการค้าขาย หลังจากเปิดเมืองท่าก็ได้รับวัฒนธรรมและแฟชั่นใหม่ๆ ของต่างชาติเข้ามาและได้เผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นออกสู่โลกภายนอกด้วย

แนะนำ 5 เมืองท่าของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด

จากการติดต่อค้าขายระหว่างประเทศทำให้ชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสวัฒนธรรมต่างชาติ มีชาวต่างชาติเข้ามาค้าขาย บ้างก็ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองท่า ทำให้เมืองท่ามักมีความต่างจากเมืองอื่นๆ ในจังหวัด สิ่งปลูกสร้างมีการผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติร่วมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาคารบ้านเรือนถูกสร้างผสมสไตล์ตะวันตก บรรยากาศเหมือนกับเดินอยู่ในยุโรปเลยก็ว่าได้ บางย่านก็เป็นสไตล์จีน ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ต้องลองไปเที่ยวชมกัน โดยเราได้คัดสรรมาทั้ง 5 จุดจากทั่วประเทศ ดังต่อไปนี้

1. เมืองท่าโอตารุ (Otaru) ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)

1. เมืองท่าโอตารุ (Otaru) ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)

https://pixta.jp/

โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองที่ได้รับการกล่าวถึงว่ามีบรรยากาศโรแมนติกโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศตอนกลางคืน เพราะจะมีการเปิดโคมไฟส่องแสงนวลทำให้รู้สึกอบอุ่นโรแมนติก ช่วงฤดูหนาวก็มี Otaru Snow Light Path Festival ซึ่งเป็นเทศกาลฤดูหนาวที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีการประดับประดาด้วยแสงไฟตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง โอตารุเป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่ใช้ขนส่งสินค้าในอดีต จึงมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้หลายแห่ง

ไฮไลท์ของโอตารุคือคลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มักถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์บ่อยครั้ง ถนนเล็กๆ เลียบคลองโอตารุเรียงรายไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ ที่ปรับปรุงมาจากโกดังเก่าที่ใช้เก็บสินค้าในอดีต รวมไปถึงมีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ ร้านเครื่องแก้ว Kitaichi Glass ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องแก้วและเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือในคลองอีกด้วย

การเดินทาง
จากสถานี Sapporo ให้ขึ้นรถไฟสาย JR Hakodate ไปลงสถานี Otaru

2. เมืองท่าฮาโกดาเตะ (Hakodate) ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)

2. เมืองท่าฮาโกดาเตะ (Hakodate) ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)

https://pixta.jp/

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองในอดีตของฮอกไกโด เป็นเมืองท่าแห่งแรกของญี่ปุ่นพร้อมๆ กับเมืองท่านางาซากิและเมืองท่าโยโกฮาม่าที่เปิดในปีค.ศ. 1859 ฮาโกดาเตะได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามา สถาปัตยกรรมในเมืองจึงเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและยุโรป นอกจากนี้ฮาโกดาเตะยังเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ยามค่ำคืนสวยงามที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

ฮาโกดาเตะนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หนึ่งในนั้นคือป้อมปราการโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของฮาโกดาเตะ เป็นป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกที่เคยใช้เป็นปราการป้องกันเมืองฮาโกดาเตะจากการรุกรานของจักรวรรดินิยมในสมัยเอโดะ บริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะที่สามารถเข้ามาชมได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระจะบานสะพรั่งเต็มไปหมด เป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของฮอกไกโด ช่วงฤดูร้อนก็เขียวขจี และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม

การเดินทาง
จากเมืองซัปโปโร ให้ขึ้น JR Limited Express Super Hokuto จากสถานี Sapporo ไปลงสถานี Hakodate

3. เมืองท่าโยโกฮาม่า (Yokohama) ภูมิภาคคันโต (Kanto)

3. เมืองท่าโยโกฮาม่า (Yokohama) ภูมิภาคคันโต (Kanto)

https://pixta.jp/

โยโกฮาม่า (Yokohama) เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการค้า อุตสาหกรรม และแฟชั่นที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีชิงช้าสวรรค์ Cosmo Clock 21 ขนาดยักษ์ของสวนสนุก Cosmo World เป็นแลนด์มาร์กขึ้นชื่อตั้งอยู่ริมทะเล ในอดีตโยโกฮาม่าเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย แต่หลังจากเปิดเป็นท่าเรือแล้วก็ทำให้โยโกฮาม่ากลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น

หากมาเที่ยวที่โยโกฮาม่าก็ห้ามพลาดโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ (Yokohama China Town) ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีคนจีนอาศัยอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดยชาวจีนที่เข้ามาเยือนหลังจากเปิดเป็นท่าเรือโยโกฮาม่าในปี ค.ศ.1859 มีร้านค้า ร้านอาหารจีน ร้านขายของมากกว่า 600 ร้าน ที่ตกแต่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์จีน

การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Tokyo Toyoko หรือสาย Minato Mirai จากสถานี Shibuya ไปลงสถานี Yokohama

4. เมืองท่าโกเบ (Kobe) ภูมิภาคคันไซ (Kansai)

4. เมืองท่าโกเบ (Kobe) ภูมิภาคคันไซ (Kansai)

https://pixta.jp/

โกเบ (Kobe) เป็นเมืองท่าสำคัญอีกแห่งของญี่ปุ่นที่ทำการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่สมัยอดีต จึงมีการรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นเดิม อาคารบ้านเรือน บรรยากาศโดยรอบ รวมไปถึงร้านอาหารก็เป็นสไตล์ตะวันตก มีคาเฟ่น่านั่งมากมาย แลนด์มาร์คของเมืองโกเบก็คือโกเบ พอร์ต ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ซึ่งเป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กสีแดง โกเบนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม โดยมี "วิว 10 ล้านดอลล่าร์" ที่โด่งดัง สามารถมองลงมาได้จากจุดชมวิวบนภูเขามายะ (Mt.Maya)

ที่เที่ยวน่าสนใจของโกเบนั้นมีเยอะ หนึ่งในนั้นคือย่านคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan) เป็นย่านที่พักของชาวตะวันตกที่เดินทางมาค้าขายในญี่ปุ่นเมื่อดีต บ้านเรือนที่นี่สร้างขึ้นในสไตล์ยุโรป เช่น บ้านแบบอังกฤษ บ้านแบบฝรั่งเศส บ้านแบบออสเตรีย เป็นต้น บางหลังปรับปรุงเป็นร้านค้า คาเฟ่ และพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้

การเดินทาง
ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นสาย Tokaido-Sanyo ขบวน Nozomi หรือ Hikari จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Shin Kobe

5. เมืองท่านางาซากิ (Nagasaki) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)

5. เมืองท่านางาซากิ (Nagasaki) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)

https://pixta.jp/

นางาซากิ (Nagasaki) เป็นเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่นมาเป็นเวลาหลายร้อยปีร่วมกับโยโกฮาม่าและฮาโกดาเตะ ทำการค้ากับชาติตะวันตกหลายประเทศ เช่น โปรตุเกสและฮอลแลนด์ ทำให้มีการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา เราจะเห็นได้จากเขตที่มีบ้านสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่และประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมาก อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนและเกาหลีมาตั้งแต่อดีต มีชาวจีนเข้ามาอาศัยอยู่และเกิดเป็นชุมชน พัฒนาเป็นไชน่าทาวน์ของเมืองนางาซากิที่กรุ่นไปด้วยร้านค้าต่างๆ และสถาปัตยกรรมแบบจีน

หากมีโอกาสมาเที่ยวนางาซากิก็ไม่อยากให้พลาดภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) ที่มีความสูง 333 เมตร จุดชมวิวสูงสุดของภูเขาจะสามารถมองลงมาเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองนางาซากิได้ทั้งเมือง โดยเฉพาะทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองนางาซากินั้นงดงามอย่างยิ่งจนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น สามารถขึ้นไปที่ยอดสูงสุดของภูเขาได้โดยนั่งกระเช้าไฟฟ้าหรือรถบัส

การเดินทาง
จากสถานีฮะคะตะ (Hakata Station) นั่งรถไฟด่วนพิเศษ JR Kamome Line มาลงที่สถานีนางาซากิ (Nagasaki Station)

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 5 เมืองท่าชื่อดังทั่วประเทศของจังหวัดญี่ปุ่น คาดว่ามีหลายๆ จุดที่ทุกคนต้องเคยแวะเวียนกันไปแล้วอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป หากได้มาเยือนญี่ปุ่นในอนาคตครั้งถัดไปก็อย่าลืมใส่สถานที่เหล่านี้ลงไปในลิสต์ของคุณดูนะคะ

ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย

know-before-you-go