JR EAST PASS ช่วยให้การเดินทางไปยังจุดชมซากุระได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยราคาสุดคุ้ม!

ทัศนียภาพของภูเขากับแม่น้ำและดอกซากุระมาบรรจบกันนั้นช่างงดงามนัก ที่เมืองชิบาตะ (Shibata) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) นั้นมีทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นที่ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิ (Shiroishi River) โดยมียอดของภูเขาซาโอะ (Mount Zao) ประดับให้เห็นอยู่ไกล ๆ ภาพที่ไม่เหมือนใครนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ฮิโตเมะ-เซ็นบอน-ซากุระ” (Hitome-senbon-zakura) หรือมีความหมายว่า "สามารถชมต้นซากุระนับพันต้นได้ในพริบตา"

วิธีที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินไปกับกลีบดอกไม้อันแสนงดงามเหล่านี้ ได้แก่ การเดินเล่นชมต้นไม้ที่เรียงรายไปเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตรบนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ ตามด้วยการเยี่ยมชมสวนฟุนาโอกะโจชิ (Funaokajoshi Park) ที่อยู่ใกล้เคียง สวนแห่งนี้มีทิวทัศน์อันสวยงามของภูมิทัศน์สีชมพูและสีขาวจากเนินเขาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทฟุนาโอกะ (Funaoka Castle)

นอกจากนี้ ยังมีกระเช้าไฟฟ้าที่คุณสามารถนั่งผ่านอุโมงค์ของกลีบดอกซากุระอีกด้วย ดอกซากุระมักจะบานสะพรั่งตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนเมษายนในช่วงเทศกาลดอกซากุระชิบาตะ (Shibata Cherry Blossom Festival) และเทศกาลดอกซากุระโอกาวาระ (Ogawara Cherry Blossom Festival) ซึ่งมีการจัดเทศกาลไลท์อัพ (Light Up) ในเวลากลางคืนด้วย

บริเวณต้นซากุระนั้นอยู่ในระยะสามารถเดินจากสถานีฟุนาโอกะ (Funaoka Station) ไปได้ โดยสถานีดังกล่าวอยู่ห่างจากเซนได (Sendai) ซึ่งเป็นจุดแวะพักที่สําคัญของสายโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen Line) ไปทางใต้ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่น ๆ ประกอบด้วย ออนเซ็นหลายแห่งที่อยู่ห่างจากสวนฟุนาโอกะโจชิโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ไม่เกิน 30 นาที

แนะนําให้ใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) สําหรับการเดินทางไปยังจุดชมดอกซากุระแห่งนี้

ศิลปินชาวญี่ปุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากดอกซากุระมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ จนมีการนำความงามและความกะทัดรัดของดอกไม้เหล่านี้มาใช้ในงานศิลปะ ที่เมืองโทวาดะ (Towada) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) คุณสามารถเพลิดเพลินกับทั้งกับการชมซากุระและวิจิตรศิลป์บนถนนที่เรียงรายไปด้วยดอกซากุระ เรียกได้ว่าเป็นถนนที่มีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้งามและงานเทศกาลมากมาย

ถนนคันโชไกโดริ (Kanchogai-dori) หรือที่รู้จักกันในนามถนนโคมะ-ไคโด (Koma-kaido) เป็นถนนส่วนราชการมีความกว้าง 36 เมตรทอดยาว 1.1 กิโลเมตรอันมีชื่อเสียงผ่านเขตปกครองของเมืองโทวาดะ บริเวณถนนนี้มีต้นซากุระ 156 ต้น ต้นสนแดง 165 ต้น และแปลงดอกไม้หลากสีสัน รวมถึงผลงานศิลปะสาธารณะมากมาย

ผลงานศิลปะของบริเวณนี้ประกอบด้วยงานประติมากรรมรูปม้า ซึ่งเป็นตัวแทนของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ม้าที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสําหรับซากุระยาบุซาเมะ (Sakura Yabusame) ซึ่งเป็นการแสดงอันน่าตื่นเต้นของการยิงธนูของซามูไรบนหลังม้า ซึ่งงานเทศกาลนี้จัดขึ้นภายใต้ช่วงดอกซากุระบานในปลายเดือนเมษายน

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ศิลปะโทวาดะ (Towada Art Center) ซึ่งรวบรวมผลงานคอลเล็กชันศิลปะร่วมสมัยอันยอดเยี่ยม พร้อมผลงานของศิลปินชื่อดัง เช่น ยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama) ชเวจองฮวา (Choi Jeong Hwa) และรอน มิวค์ (Ron Mueck) เป็นต้น

การเดินเล่นท่ามกลางดอกซากุระบานแล้วแวะชมพิพิธภัณฑ์ ช่วยให้เพลิดเพลินกับกลีบดอกไม้อันสวยงามนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณสามารถเดินทางไปยังโทวาดะได้ด้วยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจากสถานีฮาจิโนะเฮะ (Hachinohe Station) หรือสถานีชิจิโนะเฮะ-โทวาดะ (Shichinohe-Towada Station) บนสาย JR โทโฮคุชินคังเซ็น (JR Tohoku Shinkansen Line) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) น้ำตกมัตสึมิ (Matsumi Falls) และอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) เป็นต้น

แนะนําให้ใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) สําหรับการเดินทางไปยังจุดชมดอกซากุระแห่งนี้

ภาพของดอกซากุระที่สะท้อนอยู่ในน้ำช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์นัก หนึ่งในจุดสวยที่สุดในญี่ปุ่นที่คุณจะสามารถเห็นภาพนี้ได้ ได้แก่ที่เมืองโทกามาจิ (Tokamachi) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขาและอยู่ใกล้กับทะเลญี่ปุ่น พื้นที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการมีหิมะตกหนัก และนาขั้นบันไดหรือทานาดะ (Tanada) อันงดงาม

นาขั้นบันไดกิมโย (Gimyo Rice Terraces) เป็นนาข้าวกลุ่มเล็ก ๆ ใกล้กับซากปรักหักพังของปราสาทมัตสึได (Matsudai Castle) ที่ได้ทำการกักเก็บน้ำไว้ในลักษณะที่ทำให้มองดูคล้ายเป็นบันไดที่ปูด้วยกระจกขึ้นไปตามเนินเขา นาเหล่านี้อาจปกคลุมด้วยน้ำ หิมะ หรือข้าว แล้วแต่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน แต่จะน่าชมที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเมื่อต้นซากุระโดยรอบบานสะพรั่ง บางครั้งกลีบดอกอาจมีหิมะที่ตกลงมาค้างช่วยเพิ่มบรรยากาศดุจเทพนิยายให้กับสถานที่อีกด้วย

การเดินทางไปสู่นาขั้นบันไดกิมโยใช้เวลาเดินทางด้วยแท็กซี่ประมาณ 8 นาทีจากสถานีมัตสึได (Matsudai Station) บนสายโฮคุโฮคุ (Hokuhoku Line) ผ่านรถไฟสายโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen Line) สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ มัตสึโนยามะออนเซ็น (Matsunoyama Onsen) สกีรีสอร์ทมัตสึไดสําหรับครอบครัว (Matsudai Family Ski Resort) และมัตสึไดโนบุไต (Matsudai Nohbutai) ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีมัตสึได

แนะนําให้ใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สําหรับการเดินทางไปยังจุดชมดอกซากุระแห่งนี้

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) ในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) เป็นหนึ่งในป้อมปราการซามูไรที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 โครงสร้างปัจจุบันมีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1590 ทําให้ที่นี่เป็นหอคอยปราสาทห้าระดับหกชั้นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นหนึ่งในปราสาทเพียง 12 แห่งที่ยังหลงเหลืออยู่จากยุคศักดินาของญี่ปุ่น และเป็นสมบัติของชาติที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

ป้อมปราการอันงดงามนี้ตั้งตระหง่านอยู่เหนือคูน้ำที่เต็มไปด้วยปลาคาร์พโดยมีต้นซากุระล้อมรอบอยู่อีกที โดยรวมแล้วที่นี่มีต้นซากุระประมาณ 300 ต้นที่ริมคูน้ำและในบริเวณด้านในของปราสาท ทำให้เป็นจุดที่เหมาะที่สุดในการชื่นชมอัญมณีทางสถาปัตยกรรมนี้ ร่วมกับกลีบดอกซากุระและยอดของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นในระยะไกล หอคอยของปราสาทจะมีการประดับไฟสว่างไสวทุกคืนตลอดทั้งปี แต่งานเทศกาลไลท์อัพของดอกซากุระจะมีระยะเวลาเพียง 8 วันโดยเริ่มตั้งแต่ 3 วันหลังจากที่ผู้บริหารประกาศการบานของต้นซากุระ

เมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) สามารถเดินทางจากโตเกียว (Tokyo) ด้วยรถไฟชูโอะสายหลัก (Chuo Main Line) หรือผ่านสายโฮคุริคุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen Line) นอกจากปราสาทแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ยังมีทั้งถนนนาวาเตะ (Nawate Street) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto City Museum of Art)

แนะนําให้ใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สําหรับการเดินทางไปยังจุดชมดอกซากุระแห่งนี้

เมื่อดอกซากุระผลิบานควบคู่กับดอกนาโนะฮานะสีเหลืองสดใสทำให้เกิดสีสันที่ตระการตา ดอกเรพซีดหรือนาโนะฮานะ (Nanohana) เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารญี่ปุ่น ดอกซากุระกับดอกนาโนะฮานะจะเบ่งบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน โดยช่วงนั้นจะจัดงานซากุระคุมางายะ (Kumagaya Sakura Festival) จังหวัดไซตามะ (Saitama) เป็นงานประจำปีที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (Edo Period) ช่วงปี 1603–1867

เทศกาลซากุระคุมางายะจัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอาราคาวะ (Arakawa River) ทางตอนเหนือของโตเกียว ซึ่งหลายคนถือว่าเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นที่ตั้งของต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิ-โยชิโนะ (Somei-Yoshino) ประมาณ 500 ต้นที่ทอดยาวไปตามแม่น้ำเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงเวลากลางคืนยังมีการจัดเทศกาลไลท์อัพ ทำให้ส่งภาพทัศนียภาพดังกล่าวดูงดงามมากขึ้นยิ่งขึ้น

สวนสาธารณะอยู่ห่างจากสถานีคุมางายะ (Kumagaya Station) บนสายโจเอ็ตสึ (Joetsu) และโฮคุริคุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen Lines) รวมถึงสายทาคาซากิ (Takasaki Line) โดยใช้เวลาเดินเท้าเพียง 5 นาทีเท่านั้น

แนะนำให้ใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) , JR EAST PASS (Nagano, Niigata area), และ JR TOKYO Wide Pass สำหรับการเดินทางไปยังจุดชมซากุระนี้

East Japan Railway Company มีตั๋วพาสหลายประเภทที่อนุญาตให้ทำการเดินทางได้อย่างไม่จำกัดภายในพื้นที่บางแห่งเพื่อความสะดวกและคุ้มค่าแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

JR TOKYO Wide Pass ครอบคลุมโตเกียวและหลายจังหวัดโดยรอบ รวมถึงจุดชมซากุระของคุมางายะเป็นเวลา 3 วัน
JR EAST PASS (Tohoku area) ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน รวมถึงจุดชมทิวทัศน์ของโทวาดะและชิบาตะ
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางตั้งแต่โตเกียวไปจนถึงทะเลญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน รวมถึงปราสาทมัตสึโมโต้และจุดโทคามาจิ ทั้งหมดนี้ได้รับการอธิบายไว้อย่างละเอียดที่ด้านบนแล้ว

• ตั๋วพาสนี้มีให้บริการสำหรับทุกคนที่มีหนังสือเดินทาง (Passport) ที่ออกโดยประเทศอื่นนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในประเทศญี่ปุ่นด้วย
• โปรดทราบว่ากิจกรรมบางอย่างที่อธิบายไว้ข้างต้นอาจถูกยกเลิก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา (COVID-19)