เท็ปปังยากิ (Teppanyaki) คือรูปแบบหนึ่งของการทำอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ใช้กระทะเหล็กแบนในการประกอบอาหารหลากหลายชนิด โดยคำว่า เท็ปปัง (Teppan) ในภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลว่า แผ่นเหล็ก ส่วนยากิ (Yaki) ก็หมายถึงการทำอาหารให้สุกด้วยการปิ้ง ย่าง นั่นเอง ดังนั้น เท็ปปังยากิจึงหมายถึงการทำอาหารให้สุกโดยกระทะเหล็กแบน ให้ความรู้สึกคล้ายอาหารเมนูกระทะร้อนของไทยเช่นกัน

ที่มาของเท็ปปังยากิเริ่มต้นจากร้านอาหารชื่อว่ามิโซโนะ (Misono) ในเมืองโกเบ (Kobe) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นการใช้แนวคิดการปรุงอาหารสไตล์ตะวันตกในยุคนั้น เช่น สเต็กส์ มาทดลองทำบนกระทะเหล็กเท็ปปัง แล้วก็ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวต่างชาติมากกว่าชาวญี่ปุ่น เนื่องจากชาวต่างชาติรู้สึกคุ้นเคยกับเมนูอาหารลักษณะนี้มากกว่าอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ร้านอาหารแห่งนี้จึงโด่งดังมากขึ้น จนถึงปัจจุบันก็มีร้านอาหารสไตล์เท็ปปังยากิอีกหลายแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น

ความน่าสนใจของ เท็ปปังยากิ ก็คือการใช้กระทะเหล็กแบนในการประกอบอาหารด้วยวิธีย่างหรือผัดให้สุก สามารถประยุกต์และปรุงอาหารเมนูต่างๆ ได้หลากหลาย ที่นิยมรับประทานกันมากจะเป็นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารประเภทเส้น นำมาผัดกับผักชนิดต่างๆ และรับประทานขณะที่อาหารกำลังร้อนและส่งกลิ่นหอม

เท็ปปังยากิสไตล์ญี่ปุ่น มีเมนูคอร์สที่มักจะพบเห็นบ่อยๆ อาทิ สเต็ก (Steak) โอโคโนมิยากิ ( Okonomiyaki) ยากิโซบะ (Yakisoba) และมอนจายากิ ( Monjayaki) หรือสเต็กเนื้อส่วนใหญ่เป็นเนื้อโกเบ (Kobe beef) ที่มีหลายระดับราคา มีเครื่องเคียงเป็นผักย่างบนกระทะเท็ปปัง เช่น แตงกวา กระเทียมแผ่น ไส้กรอก วัตถุดิบตามฤดูกาล หรือบางครั้งก็เสิร์ฟพร้อมข้าวผัด ส่วนโอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ และมอนจายากิ ก็เป็นอาหารผัดบนกระทะร้อนแบบที่สามารถพบเห็นได้ทุกร้าน

และจุดเด่นอีกอย่างของร้านอาหารสไตล์เท็ปปังยากิก็คือลีลาท่าทางในการทำอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างความน่าสนใจให้กับร้านอาหารและบรรยากาศที่ลูกค้าจำนวนมากชื่นชอบในความน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะเชฟบางคนก็มีลีลาอย่างการควงตะหลิว ทำให้การรับประทานอาหารมีสีสันและความอร่อยอีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบที่นำมาปรุงมีความสดใหม่ด้วย

ในการปรุงอาหารญี่ปุ่นที่มีรูปแบบคล้ายเท็ปปังยากิ ก็มีอีกหนึ่งอย่างที่เรียกว่า ฮิบาจิ (Hibachi) ซึ่งเป็นสไตล์การปรุงอาหารที่ทำให้หลายคนสับสนกับเท็ปปังยากิ แต่จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันนั่นคือ ฮิบาจิ จะเป็นอุปกรณ์การย่างรูปร่างคล้ายกล่องบรรจุถ่านไว้ข้างใต้ สำหรับใช้ความร้อนปรุงอาหารให้สุก เช่น ยากิโทริ หรือเนื้อไก่ย่างเสียบไม้ ที่นิยมทำแบบฮิบาจิ ในขณะที่เท็ปปังยากิก็จะคือกระทะเหล็กแบน ตามที่ได้กล่าวถึงรายละเอียดไปในข้างต้น

ร้านเท็ปปังยากินั้นมีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น และในวันนี้เราได้คัดเลือก 3 ร้านชื่อดังที่เป็นที่นิยมแม้แต่ในนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาฝาก ดังต่อไปนี้

หนึ่งในร้านอาหารเท็ปปังยากิบรรยากาศหรูหราในย่านใจกลางกรุงโตเกียว จุดเด่นของที่นี่คือ เมนูอาหารเท็ปปังยากิจากวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียมที่ผสมผสานกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศสเล็กน้อย ที่สำคัญคือการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศทุกชนิดโดยเชฟต่อหน้าลูกค้า รวมทั้งยังมีเนื้อวากิวญี่ปุ่นกับอาหารทะเลสดให้เลือกด้วย

นอกจากเมนูสไตล์ยุโรปแล้ว การตกแต่งร้านอาหารก็มีบรรยากาศแบบยุโรปที่ผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว มีโซนเคาน์เตอร์เท็ปปังยากิสำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว หรือหากมาเป็นครอบครัว เป็นกลุ่ม ก็มีบริการโต๊ะอาหารและห้องส่วนตัวอีกเช่นกัน

การเดินทาง : เดินประมาณ 2 นาที จากรถไฟสาย Toei Asakusa สถานีฮิกาชิ-กินซ่า (Higashi-Ginza Station)

เป็นร้านเท็ปปังในย่านนัมบะ ที่มีความโดดเด่นคือ เป็นร้านที่ใช้เนื้อวัวดำมิยาซากิ (Miyazaki Koroge Washu) ในขณะที่หลายๆ ร้าน มักจะใช้เนื้อโกเบ เหตุผลก็เพื่อความพิเศษและรสชาติที่แตกต่าง อีกทั้งยังมีไวน์มากกว่า 100 แบรนด์ ให้ลูกค้าได้เลือกดื่มคู่กับการรับประทานเมนูเท็ปปังยากิคุณภาพเลิศรส รวมทั้งยังสามารถชมวิวบรรยากาศของย่านนัมบะและโดทงโบริ (Dotonbori) ไปพร้อมๆ กันได้ด้วย

การเดินทาง : เดินประมาณ 4 นาทีจากรถไฟฟ้าใต้ดิน Osaka Metro สถานีนัมบะ (Namba Station)

ร้านเท็ปปังยากิที่เป็นต้นตำรับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 ซึ่งยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้ เมนูเด่นของทางร้านจะเป็นเนื้อวากิวเกรด A4, A5 ที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงบนกระทะเหล็กเท็ปปังจากประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานพร้อมทั้งลีลาการปรุงอาหารของเชฟยอดฝีมือ ที่จะปรุงให้รับประทานกันตรงหน้า นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับความอร่อยของเมนูอาหารแล้ว ยังสามารถชมวิวมุมสูงบนอาคารที่ตั้งร้านอาหารชั้น 7-8 ได้ด้วย

การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya Station)

ในส่วนของราคาเมนูอาหารเท็ปปังยากิ ถ้าเป็นเมนูสเต็ก องค์ประกอบสำคัญก็คือระดับคุณภาพของเนื้อ เช่น เนื้อโกเบวากิว A5 ถือว่าเป็นเนื้อที่มีราคาสูงสุด และในเมนูคอร์สของร้านอาหารก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ส่วนในเซทมักจะมีซุป อาหารจานปลา ผักย่างตามฤดูกาล สลัด ของหวาน พร้อมด้วยเครื่องดื่มอย่างแชมเปญ เหล่านี้ เป็นต้น หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองแวะไปชิมเมนูเท็ปปังยากิกันดูนะคะ

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)