รถไฟด่วนพิเศษอุมิซาจิ-ยามะซาจิ (Limited Express Umisachi Yamasachi) คือขบวนรถไฟท่องเที่ยวสายพิเศษในจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสองพี่น้องในตำนานเทพนิยายญี่ปุ่นชื่อว่า อุมิซาจิฮิโกะ และ ยามะซาจิฮิโกะ นำมาตั้งเป็นชื่อของโบกี้รถไฟ 2 โบกี้ อีกทั้งคำว่า อุมิ (Umi) กับ ยามะ (Yama) ในภาษาญี่ปุ่นก็มีความหมายว่า ทะเล และ ภูเขา นั่นก็หมายถึงทิวทัศน์ระหว่างทางของขบวนรถไฟนี้ที่ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลกับภูเขาสลับกันอย่างงดงามยิ่งใหญ่ตลอดทางนั่นเอง

รถไฟท่องเที่ยวอุมิซาจิ-ยามะซาจิ ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซป รีสอร์ทบนรถไฟของเล่นที่ทำจากไม้ (Toy Resort Train Made of Wood ) ซึ่งโบกี้รถไฟทั้งสองขบวน มีการตกแต่งลวดลายทั้งภายในและภายนอกด้วยไม้สนโอบิสึกิ (Obisugi Cedar) จากเมืองนิชินัน (Nichinan) ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย ออกแบบโดย ออกแบบโดยเอจิ มิโตะโอกะ (Eiji Mitooka) นักออกแบบรถไฟชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงจากการออกแบบรถไฟในภูมิภาคคิวชูร่วมกับ Don Design and Associates

ความพิเศษอีกอย่างก็คือส่วนหน้าขบวนนั้นตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลายทะเลและส่วนท้ายของขบวนก็ตกแต่งด้วยลายภูเขา รวมถึงการประดับตกแต่งผนังด้วยสิ่งของเกี่ยวกับตำนานอุมิซาจิ-ยามะซาจิ

ในส่วนของเบาะนั่งจะมีทั้งเบาะนั่งแบบโซฟายาวและเบาะนั่งเดี่ยวกับเบาะนั่งคู่ที่สามารถปรับเอนได้ โดยเบาะนั่งในโบกี้ยามะซาจิ มีทั้งหมด 24 ที่นั่ง และเบาะนั่งในโบกี้อุมิซาจิ มีทั้งหมด 30 ที่นั่ง

ระหว่างเดินทางนอกจากจะได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ตลอดทางแล้วก็จะมีพนักงานบนรถไฟมาเล่าเรื่องราวในตำนานของอุมิซาจิ-ยามะซาจิให้ได้ฟังพร้อมภาพประกอบบริเวณด้านหน้าขบวนรถไฟ อีกทั้งในขบวนรถไฟยังมีเคาน์เตอร์จำหน่ายคราฟต์เบียร์ท้องถิ่น ข้าวกล่องรถไฟ และมันจูชีส ขนมหวานที่มีชื่อเสียงของมิยาซากิ ตลอดจนสินค้าที่ระลึกต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย

เส้นทางของขบวนรถไฟอุมิซาจิ-ยามะซาจิ อยู่ในพื้นที่เมืองเมืองนิชินัน (Nichinan) จ.มิยาซากิ วิ่งไปตามเส้นทางรถไฟสาย Nippo Main Line โดยเริ่มต้นที่สถานีมิยาซากิ (Miyazaki Station) ถึงสถานีนันโก (Nango Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ภาพทิวทัศน์เลียบสองข้างทางรถไฟจะได้พบกับป่าไม้เขียวขจีสลับกับวิวชายฝั่งทะเลนิชินันที่ชวนให้รู้สึกเพลิดเพลินเหมือนอยู่ในบ้านพักตากอากาศเคลื่อนที่ได้ตลอดทาง

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ จุดชมวิวที่ขบวนรถไฟจะชะลอความเร็วเมื่อเข้าใกล้สถานีอาโอชิมะ (Aoshima Station) เป็นช่วงที่จะได้พบกับแนวหินรูปร่างคล้ายคลื่นเป็นทางยาว 8 กิโลเมตร ซึ่งเกิดขึ้นตามลักษณะทางธรณีวิทยาและเรียกกันว่า Ogre's Washboard หรือ Devil's Washboard ถือเป็นจุดชมวิวชื่อดังของชายฝั่งทะเลนิชินั่นที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพกันมาก ขบวนรถไฟจึงชะลอความเร็วให้ทุกคนได้ชื่นชมวิวดังกล่าวอย่างจุใจ

ค่าตั๋วรถไฟแบบไปกลับ (จองล่วงหน้า)：ผู้ใหญ่ 2,800 เยน, เด็ก 2,200 เยน

ขบวนรถไฟนี้แล่นผ่านสถานีรถไฟและจุดท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟน่าสนใจหลายแห่ง สามารถวางแผนแวะเที่ยวรายทางได้ เช่น สถานีโอบิ (Obi Station) เดินจากสถานีไปประมาณ 15 นาที ก็จะได้พบกับ เมืองปราสาทโอบิที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยเอโดะ ไม่ว่าจะเป็นซากปราสาทโอบิ กำแพงปราสาท บ้านซามุไรเก่าแก่ในบรรยากาศเหมือนย้อนเวลากลับไปในญี่ปุ่นสมัยโบราณ

สถานีอาโอชิมะ (Aoshima Station) มีแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินไปจากสถานีได้ เช่น สวนพฤกษศาสตร์มิยาโกะ (Miyako Botanic Garden Aoshima) ซึ่งเป็นทั้งสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับพืชเขตร้อนกว่า 400 สายพันธุ์ หรือจะเดินไปยังชายหาดเพื่อชมวิวทะเลหาดอาโอชิมะ (Aoshima Beach) ด้วยก็ได้เช่นกัน

หลายๆ สถานีก็สามารถกับแวะรับประทานอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของเมืองนิชินัน ซึ่งมีร้านอาหารกระจายอยู่รอบๆ สถานีรถไฟ ซึ่งเมนูพิเศษอย่างหนึ่งที่หาทานได้เฉพาะในเมืองนี้ก็คือปลาทูน่าพันธุ์ท้องแถบ (Skipjack Tuna) นำไปย่างไฟอ่อนๆ แบบที่เรียกว่า Char-Broiled สูตรเฉพาะของท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวได้ลองแล้วต่างก็พากันติดใจเมนูเด็ดสูตรนี้กันทุกคน

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)